เมื่อสหรัฐต้องเผชิญหน้ากับอิหร่านในตะวันออกกลาง
โดย สิริอัญญา
วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม 2566
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ความขัดแย้งและสงครามระหว่างนาโต้ที่นำโดยสหรัฐกับกลุ่มองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ ที่นำโดยรัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ กำลังก้าวสู่ระยะใหม่คือระยะผ่านจากสงครามตัวแทนไปสู่สงครามที่เผชิญหน้ากันโดยตรง
ในสมรภูมิยูเครนเริ่มต้นด้วยลักษณะสงครามตัวแทน คือยูเครนออกหน้าทำสงครามตัวแทนกลุ่มนาโต้ ในขณะที่รัสเซียออกหน้าทำสงครามแทนกลุ่มองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ และมาถึงบัดนี้สภาพของสงครามกำลังแปรเปลี่ยนกลายเป็นการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างรัสเซียกับสหรัฐและอังกฤษแล้ว
ในสมรภูมิตะวันออกกลางที่ยืดเยื้อเรื้อรังมานานปี แต่ก่อนนี้ก็เป็นสงครามตัวแทนระหว่างกลุ่มนาโต้ที่นำโดยสหรัฐ กับกลุ่มองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ที่นำโดยอิหร่าน โดยอิหร่านมีพันธมิตรในภูมิภาคนั้นคือซีเรีย อิรักและเยเมน โดยที่สหรัฐมีกลุ่มอาหรับเป็นพันธมิตร และยังเกิดเป็นสงครามตัวแทนระหว่างกลุ่มตัวแทนประเทศอาหรับที่นำโดยซาอุดิอาระเบียกับเยเมนด้วย
สงครามในตะวันออกกลางยืดเยื้อเรื้อรังมาเป็นเวลานาน แต่ด้วยสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจของโลกและความจำเป็นในการสนองงบประมาณแก่กองทัพ ซาอุดิอาระเบียและประเทศอาหรับจึงตกเป็นเป้าที่จะต้องรับภาระซื้อหาอาวุธเพื่อทำสงครามกับอิหร่านและพันธมิตร
งบประมาณจำนวนมากของซาอุดิอาระเบียและพันธมิตรที่ต้องใช้ในการหาซื้อหาอาวุธเพิ่มขึ้นทุกปีแต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการขาย จึงเกิดแรงกดดันมากหลาย ถึงขั้นจะเปลี่ยนแปลงอำนาจรัฐของซาอุดิอาระเบียด้วยมาตรการต่าง ๆ
ในที่สุดด้วยความร่วมมือระหว่างรัสเซีย จีน และอิหร่าน จึงเกิดเหตุการณ์พลิกผันขึ้นในตะวันออกกลาง ซาอุดิอาระเบียและประเทศอาหรับทั้งหมดได้กลับหลังหันยกพวกถอนตัวจากความสัมพันธ์กับสหรัฐและพันธมิตร หันไปเป็นพันธมิตรกับจีน รัสเซีย และอิหร่าน กระทั่งเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรต่าง ๆ ในเครือข่ายของกลุ่มองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้
ทำให้แรงกดดันตลอดจนความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและพันธมิตรกับซาอุดิอาระเบียและพันธมิตรมลายหายไปกลายเป็นความร่วมมือร่วมใจในระดับที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
สมรภูมิอันเป็นยุทธศาสตร์ใหญ่ในตะวันออกกลางปัจจุบันมีอยู่สองจุด คือในอิรักและซีเรีย กับปาเลสไตน์ ซึ่งในพื้นที่ปาเลสไตน์คงจะเป็นพื้นที่หลังสุดของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
สำหรับพื้นที่ซีเรียและอิรักนั้น สหรัฐได้ส่งกองทหารเข้าไปยึดครองพื้นที่ของทั้งสองประเทศมานานแล้ว และได้ขุดขนเอาน้ำมันของทั้งสองประเทศนี้ออกไปจำหน่าย โดยอิรักและซีเรียโวยวายตลอดมากล่าวหาว่าสหรัฐขโมยน้ำมันของอิรักและซีเรีย ซึ่งทำให้สหรัฐเสียหน้าเป็นอันมาก
หลังสถานการณ์ความสัมพันธ์ของประเทศในตะวันออกกลางเปลี่ยนแปลงไปแล้ว กองทัพซีเรียและกองทัพอิรักก็ได้ปรับปรุงเข้มแข็งขึ้น ในขณะที่กองกำลังปฏิวัติอิสลามขบวนการต่าง ๆ จำนวนมากทั้งในอิรัก ซีเรีย และในภูมิภาคนั้นก็ได้เคลื่อนกำลังเข้าไปในอิรักและซีเรีย เปิดสงครามจรยุทธ์ในทะเลทรายกับกองกำลังของสหรัฐหนักหน่วงยิ่งขึ้น เป้าหมายก็คือต้องการขับไล่หน่วยทหารสหรัฐออกจากอิรักและซีเรีย
หมายความว่าในทางภูมิยุทธศาสตร์จะเป็นการตัดแนวหลังของฐานทัพเรือที่ 5 ของสหรัฐที่บาห์เรน ของอ่าวเปอร์เซีย และตัดแนวหลังของกองทัพอากาศสหรัฐที่จะหนนุช่วยอิสราเอลจากผืนแผ่นดินใหญ่ของภูมิภาคเมโสโปเตเมีย
ดังนั้นจึงเกิดสภาพบีบบังคับให้สหรัฐต้องเสริมกำลังทหารครั้งใหญ่ที่สุดเข้าไปในซีเรีย และเสริมกำลังครั้งใหญ่ที่สุดให้กับฐานทัพของกองเรือที่ 5 ของสหรัฐที่บาห์เรนด้วย
เป็นการขยับตัวทางการทหารครั้งใหญ่หลังจากสงครามอ่าว จึงเป็นเหตุให้อิหร่านอ้างว่าการเสริมกำลังดังกล่าวนั้นเป็นภัยคุกคามต่ออิหร่าน ๆ จึงเตรียมกำลังทหารพร้อมทำสงครามและได้เพิ่มกำลังในพื้นที่อ่าวเปอร์เซียอย่างเต็มอัตราศึก
ในขณะเดียวกัน เยเมนก็ได้แสดงท่าทีว่าการเพิ่มกำลังของทหารสหรัฐดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อเยเมน ดังนั้นถ้าเกิดความจำเป็น กองทัพเยเมนจำเป็นต้องตอบโต้โดยการจมกองเรือสหรัฐในทะเลแดง
ทำให้กองเรือของสหรัฐทั้งในอ่าวเปอร์เซียด้านบนและในทะเลแดงด้านล่างถูกกดดันจากแสนยานุภาพทางทหารของทั้งอิหร่านและเยเมน แน่นอนว่าย่อมเกิดสภาพพะวกหน้าพะวงหลัง และในที่สุดสหรัฐอาจจำเป็นต้องเสริมกำลังทหารเข้าไปในภูมิภาคนั้นอีกก็จะยิ่งยกระดับความขัดแย้งและความแหลมคมที่จะเกิดสงครามให้มากขึ้น
สถานการณ์ตึงเครียดในซีเรียและอิรักแทนที่จะเกิดความสงบหรือความเกรงขามต่อสงคราม กลับปรากฏว่ากองทหารของสหรัฐได้ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจากกองจรยุทธ์ที่ไม่ปรากฏสังกัด ทำให้สหรัฐเข้าใจว่าเกิดจากกองกำลังที่อิหร่านสนับสนุน ดังนั้นจึงได้ยิงถล่มกองทหารที่เข้าใจว่ามีกองกำลังปฏิวัติอิสลามเข้าไปหนุนช่วย
นี่คือการเริ่มต้นของสงครามโดยตรงระหว่างสหรัฐกับอิหร่านในตะวันออกกลาง ซึ่งจะเป็นไปตามฮัซดิซหนึ่งในศาสนาอิสลามที่ชาวชีอะห์เชื่อถือว่าวันหนึ่งกองทัพของซุบยานีจะโจมตีอิหร่าน และอิหร่านจะโจมตีตอบโต้ รุกไปสู่ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ในปาเลสไตน์ และเมื่อนั้นกองทัพของอิหม่ามมะดีฮ์พระผู้มาโปรดพระองค์ใหม่ก็จะปรากฏขึ้น
สิ่งที่เรียกว่า “วันแห่งการรอคอย” กำลังสร้างความปลื้มปีติยินดีให้แก่ชาวชีอะห์ทั่วทั้งภูมิภาคนั้นแล้ว สหรัฐกำลังเผชิญหน้ากับนักรบของพระเจ้าหรือไม่อีกไม่นานคงจะได้รู้กัน.
No Result
View All Result