โซรอส เปิดตัวลูกชายรับไม้คุม ‘อาณาจักรธุรกิจ’ ต่อ ยังทำมูลนิธิหนุน ‘เสรีนิยม-เอ็นจีโอ’ ทั่วโลก ขณะหาทางสกัดทรัมป์
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า
จอร์จ โซรอส พ่อมดนักการเงินชื่อฉาวชาวอเมริกัน ส่งต่ออำนาจการควบคุมอาณาจักรธุรกิจมูลค่า 25,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมกับมูลนิธิ “โอเพน โซไซตี้” ให้อเล็กซานเดอร์ ลูกชายวัย 37 ปี ที่ออกตัวว่า ฝักใฝ่การเมืองมากกว่าพ่อ และสำทับว่า หนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่สุดคือ การสกัดความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่สอง
โซรอส วัย 92 ปี ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2566 ว่า อเล็กซานเดอร์ ลูกชายคนที่ 4 จากทั้งหมด 5 คน สมควรได้สืบทอดอาณาจักรธุรกิจของตน รวมทั้งมูลนิธิโอเพน โซไซตี้ (Open Society Foundations – OSF)
โซรอส พ่อมดการเงินที่เป็นชาวฮังกาเรียนเชื้อสายยิวโดยกำเนิด และมักตกเป็นเป้าหมายถูกโจมตีของทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดต่อต้านยิวนั้น ใช้ความมั่งคั่งที่สร้างสมระหว่างเป็นนักธุรกิจการเงินในทศวรรษ 1970 และ 1980 ก่อตั้ง OSF ที่เวลานี้ดำเนินงานอยู่ในกว่า 120 ประเทศทั่วโลก และอัดฉีดเงินปีละกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์เพื่อให้การสนับสนุนโครงการรณรงค์ลักษณะเสรีนิยมด้านต่างๆ ตลอดจนพวกองค์กรพัฒนาภาคเอกชน (NGOs) ซึ่งทำงานในแนวทางที่มูลนิธินี้เห็นชอบในทั่วโลก โดยมีตั้งแต่โครงการด้านธรรมาภิบาล โปรแกรมส่งเสริมการเติบโตของระบอบประชาธิปไตย จนถึงแผนการริเริ่มด้านนโยบายสาธารณะแนวเสรีนิยมในหลายประเทศทั่วโลก
นอกจากนั้น เขายังเป็นหนึ่งในผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของพรรคเดโมแครตในการเมืองของสหรัฐฯ
ด้านอเล็กซานเดอร์ หรือ “อเล็กซ์” ให้สัมภาษณ์ว่า เขาฝักใฝ่การเมืองมากยิ่งกว่าพ่อที่ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของพวกปีกขวาจากการสนับสนุนความคิดแบบเสรีนิยม เช่น การลดอคติทางเชื้อชาติในระบบยุติธรรม
เขาเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยพบกับเจ้าหน้าที่หลายคนในคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน รวมทั้ง ส.ว.ชัค ชูเมอร์ ของพรรคเดโมแครต ที่ปัจจุบันเป็นผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ และผู้นำประเทศต่างๆ เช่น ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวาของบราซิล และนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดว์ของแคนาดา เพื่อผลักดันประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมูลนิธิ OSF
อเล็กซ์ บอกว่า หนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่สุดของเขาคือ การสกัดความเป็นไปได้ที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่สอง
เขาให้สัมภาษณ์ว่า กังวลว่า ทรัมป์จะได้กลับสู่ทำเนียบขาว และส่งสัญญาณว่า องค์กรโซรอสจะรับบทบาททางการเงินสำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีหน้า
เขายังบอกอีกว่า กำลังมุ่งมั่นในการช่วยให้เดโมแครตสามารถดึงดูดผู้มีสิทธิออกเสียงที่เป็นคนเชื้อสายละตินได้มากขึ้น รวมทั้งเพิ่มความเป็นไปได้ของคนผิวดำในการออกไปใช้สิทธิ
อเล็กซ์ กล่าวเสริมว่า OSF ภายใต้การควบคุมของตนเองจะยังคงเดินบนเส้นทางเดียวกับที่พ่อของเขาขีดไว้ นั่นคือการส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม สิทธิของชนกลุ่มน้อยและผู้ลี้ภัย และการสนับสนุนนักการเมืองเสรีนิยม
เขายังต้องการสนับสนุนโครงการริเริ่มด้านสิทธิในการออกเสียง การทำแท้ง และความเท่าเทียมทางเพศด้วย
อเล็กซ์ บอกว่า เขาเองปรารถนาเป็นอย่างมากที่จะนำเอาเงินให้ออกพ้นจากการเมือง “แต่ตราบใดที่อีกฝ่ายหนึ่งกำลังทำเรื่องเช่นนี้อยู่ เราก็จะทำเรื่องเช่นนี้เหมือนกัน”
วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานว่า คณะกรรมการบริหาร OSF ได้เลือกอเล็กซ์เป็นประธานอย่างเงียบๆ ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา และเสริมว่า อเล็กซ์ยังเป็นประธาน “ซูเปอร์แพค” ของโซรอส
ทั้งนี้ ซูเปอร์แพค (Super PAC) เป็นองค์กรประเภทหนึ่งในอเมริกาที่สามารถใช้เงินจำนวนไม่จำกัดในทางการเมือง
หนังสือพิมพ์ชื่อดังของอเมริกาฉบับนี้ยังระบุว่า อเล็กซ์เป็นสมาชิกครอบครัวเพียงคนเดียวที่นั่งในคณะกรรมการการลงทุนของโซรอส ฟันด์ แมเนจเมนต์ (Soros Fund Management) บริษัทที่ดูแลเงินของครอบครัวและมูลนิธิของโซรอส
รายงานชิ้นนี้สำทับว่า มีการกันเงิน 125 ล้านดอลลาร์สำหรับซูเปอร์แพคในปีต่อๆ ไป ขณะที่เงินส่วนใหญ่จาก 25,000 ล้านดอลลาร์ในโซรอส ฟันด์ แมเนจเมนต์จะโอนเข้าสู่ OSF โดยตรง