ทรัมป์ ไม่รอด ถูกตั้งข้อหาอาญากรณีจ่ายเงินปิดปากนักแสดงหนังผู้ใหญ่ไม่ให้เปิดเผยความสัมพันธ์ฉาวระหว่างกัน เมื่อ 10 ปีก่อน
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะลูกขุนใหญ่แห่งมหานครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ ได้สั่งฟ้องอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในคดีที่เขาจ่ายเงินจำนวน 130,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อปิดปาก “สตอร์มี แดเนียลส์” ดาราหนังผู้ใหญ่ ไม่ให้เปิดเผยถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ฉาวระหว่างกันเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งการจ่ายเงินเพื่อปิดปากในช่วงที่เขากำลังรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 (พ.ศ. 2559) ทั้งนี้ จากการสั่งฟ้องโดยคณะลูกขุนใหญ่ข้างต้น ทำให้นายทรัมป์ กลายเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกดำเนินคดีอาญา
รายงานข่าวแจ้งว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ วัย 76 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพำนักที่ “มาร์-อะ-ลาโก” คฤหาสน์หรูของเขาในย่านปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมทั้งกล่าวโจมตีว่า การสั่งฟ้องข้างต้น เป็นดำเนินทางการเมือง เพื่อขัดขวางเขาไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 (พ.ศ. 2567) ที่จะมีขึ้น พร้อมทั้งกล่าวตำหนิต่ออัยการและพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ก่อนที่เขากล่าวปลุกระดมประชาชนให้ออกมาสนับสนุนเขา
ทางด้าน สำนักงานอัยการแขวงแมนฮัตตัน รัฐนิวยอร์ก สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้ติดต่อไปยังทนายความของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อช่วงค่ำของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น เพื่อประสานงานในเรื่องของการมอบตัวของอดีตผู้นำสหรัฐฯรายนี้
รายงานข่าวเผยว่า นอกจากคดีนี้แล้ว อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ก็อาจจะถูกดำเนินคดีอีกราว 30 กระทงในเรื่องเกี่ยวกับการฉ้อโกงทางธุรกิจอีกด้วย
ขณะที่ แอนโทนี ซูร์เชอร์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำอเมริกาเหนือ วิเคราะห์ว่า ไม่เพียงทรัมป์จะเป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกที่เผชิญกับข้อหาอาญา แต่เขายังจะเป็น อดีตประธานาธิบดีคนแรกที่จะถูกพิมพ์ลายนิ้วมือ ถ่ายภาพผู้กระทำผิดโดยตำรวจ และต้องขึ้นศาลในฐานะจำเลยต่อหน้าผู้พิพากษาด้วย
และถ้าคดีดำเนินไปตามปกติ เขาจะต้องนั่งอยู่ต่อหน้าคณะลูกขุน ที่จะเป็นผู้ตัดสินคดีเขาด้วย
แน่นอนว่า เรื่องนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองไปทั่ว เพราะทรัมป์ประกาศว่าเขาตั้งใจลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง ในปี 2024
ทรัมป์ ระบุในการรณรงค์ทางการเมืองในรัฐเทกซัส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ค่อนข้างแน่ชัดว่าเขาจะถูกจับ
“มันเป็นการใช้อำนาจอัยการในทางที่ผิด” ทรัมป์ กล่าว “พวกคลั่งฝ่ายซ้ายเหล่านี้ ไม่สนหรอกว่าใครจะเป็นผู้บริสุทธิ์”
ด้านรอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ซึ่งถูกมองว่าเป็นคู่แข่งคนสำคัญของทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี เรียกการตัดสินฟ้องร้องนี้ว่า “ไม่เป็นอเมริกัน” และ “เป็นการใช้ระบบตุลาการเป็นอาวุธ เพื่อขับเคลื่อนนัยทางการเมือง”
ด้านทำเนียบขาวและประธานาธิบดี โจ ไบเดน นั้น ยังคงเงียบอยู่กับการแสดงความเห็นต่อ “แผ่นดินไหวทางการเมือง” ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นท่าทีคล้ายกันกับช่วงที่มีความพยายามถอดถอนทรัมป์ จากกรณียุยงปลุกปั่นให้ผู้ก่อจลาจลบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021
แต่นักการเมืองฟากฝั่งเดโมแครต ต่างออกมายินดีกับการสั่งฟ้องนี้ โดยวุฒิสมาชิก โครี บุ๊กเกอร์ แถลงการณ์ว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย”
ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำอเมริกาเหนือ อธิบายต่อว่า หลังจากนี้ หากทรัมป์ยอมมอบตัวหรือถูกจับกุม ก็จะเป็นกระบวนการเจรจาระหว่างอัยการกับทนายความของทรัมป์ ซึ่งศาลอาจตกลงให้ทรัมป์เดินทางมาศาลอย่างเป็นการส่วนตัว โดยที่ไม่มีสื่อมวลชนมารุมถ่ายภาพ
เมื่อเข้าไปถึงภายในศาล ทรัมป์จะถูกให้พิมพ์ลายนิ้วมือ และถ่ายภาพในฐานะผู้ต้องหา เช่นเดียวกับผู้ต้องหาคดีอาญาอื่น ๆ แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะอธิบายถึงสิทธิที่ทรัมป์มีตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ นั่นคือ สิทธิเข้าถึงทนาย และสิทธิในการปฏิเสธไม่ตอบคำถามตำรวจ
ปกติแล้ว ผู้กระทำผิดคดีอาญาจะถูกใส่กุญแจมือเป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทนายของทรัมป์จะพยายามหลีกเลี่ยง
ในช่วงรอขึ้นให้การต่อศาล เขาจะถูกควบคุมตัวในพื้นที่รอหรือในเรือนจำ ซึ่งเขายังมีความเป็นส่วนตัว แต่หากเขาเดินขึ้นแท่นจำเลยต่อหน้าศาล ประชาชนทั่วไปสามารถรับชมได้
แน่นอนว่า ศาลสามารถตัดสินให้ปล่อยตัวชั่วคราวทรัมป์ได้ ระหว่างการดำเนินคดี
หากศาลตัดสินว่ามีความผิด ถ้าเป็นกรณีคดีอาญาแบบลหุโทษ เขาจะต้องจ่ายค่าปรับ แต่หากถูกตัดสินว่ามีความผิดอาญาร้ายแรง เขาจะเผชิญโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายคาดการณ์ว่า โอกาสที่จะเสียเงินค่าปรับมีมากกว่าโอกาสที่เขาจะติดคุก ซึ่งอาจเป็นไปไม่ได้
สตอร์มี แดเนียลส์ นักแสดงหนังสำหรับผู้ใหญ่ชื่อดังชาวอเมริกัน ได้ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อกรณี “สัญญาค่าปิดปาก” ที่ทนายความของนายทรัมป์ให้เงินเธอ 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นค่าปิดปากไม่ให้เธอเปิดเผยเรื่องมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับนายทรัมป์เมื่อ 2006
สตอร์มี แดเนียลส์ เกิดที่รัฐลุยเซียนา เมื่อปี 1979 มีชื่อจริงว่า สเตฟานี คลิฟฟอร์ด เธอเริ่มเข้าสู่วงการในฐานะนักแสดงในหนังสำหรับผู้ใหญ่ ก่อนที่จะผันตัวไปทำงานด้านการกำกับและเขียนบท
สำหรับชื่อ สตอร์มี แดเนียลส์ ที่ใช้ในวงการแสดงของเธอนั้นได้มาจากลูกสาวของ นิกกี ซิกซ์ มือเบสวงมอตลีย์ครู (Mötley Crüe) ที่ชื่อว่า สตอร์ม (Storm) บวกกับชื่อของวิสกียี่ห้อแจ็คแดเนียลส์
เธอเคยร่วมแสดงในภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง 40-Year-Old Virgin และ Knocked Up รวมทั้งมิวสิควิดีโอเพลง Wake Up Call ของวงมารูนไฟฟ์ เธอเคยคิดจะลงสมัครชิงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาของรัฐลุยเซียนา เมื่อปี 2010 แต่ล้มเลิกแผนดังกล่าวไปเพราะไม่มีใครให้ความสนใจอย่างจริงจัง
ในบทสัมภาษณ์กับนิตยสาร In Touch Weekly เมื่อปี 2011 ซึ่งบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มถูกนำมาตีพิมพ์อีกครั้งเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา น.ส. แดเนียลส์ บอกว่า นายทรัมป์เชิญเธอไปรับประทานอาหารค่ำจากนั้นเธอก็ไปพบเขาที่ห้องพักโรงแรม
“เขานอนเหยียดอยู่บนโซฟา กำลังดูโทรทัศน์หรืออะไรสักอย่าง” เธอเล่า “เขาสวมกางเกงนอน”
น.ส. แดเนียลส์ เล่าว่า จากนั้นทั้งคู่มีเพศสัมพันธ์กันในห้องพักโรงแรมดังกล่าว ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ทนายความของนายทรัมป์ระบุว่าลูกความของเขา “ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง”
แต่หากข้อกล่าวหาของ น.ส. แดเนียลส์ เป็นความจริงเรื่องนี้น่าจะเกิดขึ้นเพียง 4 เดือนหลังจากนางเมลาเนีย ทรัมป์ ให้กำเนิด เด็กชายแบร์รอน ลูกชายคนเล็กของนายทรัมป์
น.ส. แดเนียลส์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ 60 Minutes ว่า เธอถูกข่มขู่ให้ปิดปากเงียบเรื่องสัมพันธ์สวาทกับนายทรัมป์ โดยอ้างว่าเมื่อปี 2011 มีชายคนหนึ่งเดินเข้าไปพูดข่มขู่ให้เธอเลิกยุ่งกับนายทรัมป์ที่ลานจอดรถในเมืองลาสเวกัส หลังจากเธอตกลงให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร In Touch Weekly
น.ส. แดเนียลส์ บอกว่า ครั้งสุดท้ายที่เธอได้พูดคุยกับนายทรัมป์คือเมื่อปี 2010 ซึ่งเป็นช่วงที่เธอตัดสินใจไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิก
No Result
View All Result