Burapanews
  • หน้าหลัก
  • ในประเทศ
  • ต่างประเทศ
    • ตะวันออกกลาง
    • ยูโรป
    • ลาตินอเมริกา
    • สหรัฐ
    • เอเชียแปซิฟิก
    • แอฟริกา
  • เทคโนโลยี
  • กีฬา
  • วิเคราะห์ข่าว
  • ไลฟ์สไตล์
No Result
View All Result
Burapanews
Home ต่างประเทศ

เกิดอะไรขึ้นที่เปรู เมื่อความไม่พอใจที่ผู้นำถูกปลด นำไปสู่การประท้วงที่มีคนตายแล้ว 40 ศพ

มกราคม 16, 2023
in ต่างประเทศ, ลาตินอเมริกา, วิเคราะห์ข่าว
0
เกิดอะไรขึ้นที่เปรู
0
SHARES
14
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

Related posts

เฮนรี คิสซิงเจอร์

เฮนรี คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 100 ปี

พฤศจิกายน 30, 2023
กระทรวงการต่างประเทศ

กระทรวงการต่างประเทศ ขอบคุณกาตาร์ อิหร่าน ตุรกี มาเลเซียและอียิปต์ ในการประสานช่วยปล่อยตัวประกันชาวไทย

พฤศจิกายน 27, 2023

เกิดอะไรขึ้นที่เปรู เมื่อความไม่พอใจที่ผู้นำถูกปลด นำไปสู่การประท้วงที่มีคนตายแล้ว 40 ศพ

Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เพจTHE STANDARD วิเคราะห์สถานการณ์ในประเทศเปรู โดยรายงานว่า ดูเหมือนว่ากระแสการประท้วงเดือดทั่วเปรูที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 เดือนนั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง ซ้ำร้ายจำนวนผู้เสียชีวิตยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งใหญ่ที่สุดเพิ่งปะทุขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (9 มกราคม) เมื่อผู้ประท้วงได้เข้าปะทะกับกองกำลังรักษาความปลอดภัยของเปรูในภูมิภาคปูโน จนมีผู้เสียชีวิตถึง 18 ราย โดย 17 รายเป็นพลเรือน ส่วนอีก 1 รายคือตำรวจที่ถูกผู้ประท้วงจุดไฟเผารถยนต์จนวอด

นับตั้งแต่ที่การประท้วงเปิดฉากขึ้นเมื่อช่วงเดือนธันวาคม ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 40 รายด้วยกัน และมีผู้บาดเจ็บอีกหลักร้อยราย THE STANDARD ขอขมวดไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ในครั้งนี้ให้อ่านกันแบบเข้าใจง่ายๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เปรู ชนวนความไม่พอใจมาจากอะไร และมันจะสิ้นสุดลงที่ไหน

เกิดอะไรขึ้นที่เปรู

ต้นตอของความวุ่นวายทั้งหมดเริ่มต้นจากการที่เปโดร กัสติโย อดีตประธานาธิบดีเปรู วัย 53 ปี ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งและถูกจับเข้าเรือนจำเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาผู้สนับสนุนกัสติโยอย่างมาก จนทำให้ประชาชนออกมาประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

โดยการประท้วงเริ่มเปิดฉากขึ้นในช่วงวันที่ 10 ธันวาคม ในพื้นที่ห่างไกลทางตอนใต้ของประเทศ ก่อนที่จะขยายวงกว้างไปสู่ทางตอนเหนือและทางตะวันออก โดยผู้ประท้วงได้ทำลายทรัพย์สินของรัฐจำนวนมาก อีกทั้งยังฉวยโอกาสปล้นสะดมท่ามกลางสภาพความวุ่นวายที่เกิดขึ้น โดยสถานีตำรวจ สำนักงานอัยการ และสำนักงานภาษีประจำภูมิภาคหลายแห่งถูกผู้ประท้วงจุดไฟเผา

ในหลายพื้นที่ ผู้ประท้วงได้ปิดถนนหนทางและเข้าปิดล้อมสนามบินจนทำให้การเดินทางสัญจรในเปรูปั่นป่วน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม จนหลายครั้งทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตด้วย

 สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้รัฐบาลของดินา โบลัวร์เต ประธานาธิบดีคนใหม่ ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศในวันที่ 14 ธันวาคม โดยให้อำนาจพิเศษแก่ตำรวจ และจำกัดสิทธิในการชุมนุม หลังจากที่สถานการณ์ประท้วงรุนแรงจนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 รายในระยะเวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียว

ชนวนเหตุมาจากอะไร

 อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าชนวนเหตุความไม่พอใจมาจากการที่กัสติโยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง แต่เราขอเล่าย้อนกลับไปให้อ่านถึงต้นสายปลายเหตุที่ทำให้อดีตประธานาธิบดีผู้นี้ถูกเด้งออกไปกลางคัน

 เมื่อวันพุธที่ 7 ธันวาคม กัสติโยได้ประกาศยุบสภา พร้อมประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ และแต่งตั้ง ‘รัฐบาลชุดพิเศษ’ เพราะต้องการที่จะขัดขวางไม่ให้สภาเปิดการประชุมถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งเป็นครั้งที่ 3 (ในรอบเกือบ 2 ปีที่เขานั่งเก้าอี้ผู้นำ) ซึ่งสมาชิกสภาได้ต่อต้านการกระทำของกัสติโยอย่างรุนแรง โดยภาคการเมืองของเปรูมองว่าสิ่งที่กัสติโยทำนั้นไม่ต่างอะไรกับการก่อรัฐประหาร
แต่ภายหลังจากนั้นแค่ไม่กี่ชั่วโมง ความพยายามของกัสติโยก็ต้องพังทลายลง หลังตำรวจและทหารปฏิเสธที่จะทำตามการตัดสินใจของเขา ขณะรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลประกาศลาออกทันที อีกทั้งยังกล่าวประณามการกระทำที่ไม่ต่างกับการรัฐประหาร รวมถึงโจมตีพันธมิตรทางการเมือง กองกำลังติดอาวุธ ตำรวจ และทนายความที่เห็นดีเห็นงามด้วย


เมื่อท่าเริ่มไม่ดี กัสติโยจึงรีบพยายามขอลี้ภัยในสถานทูตเม็กซิโก แต่ท้ายที่สุดเขาก็ถูกจับกุมตัว ก่อนที่จะถูกตั้งข้อหา ‘ก่อกบฏ’ ในเวลาต่อมา


ขณะเดียวกัน ด้านรัฐสภาเปรูได้เดินหน้าลงมติถอดถอนกัสติโยออกจากตำแหน่ง ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุน 101 ต่อ 6 เสียง ส่งผลให้กัสติโยถูกปลดออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลที่ว่า เขาเป็นผู้นำที่มีความบกพร่องทางศีลธรรม


หลังจากนั้น ดินา โบลัวร์เต รองประธานาธิบดีในเวลาดังกล่าว ก็ได้ทำพิธีสาบานตนเข้ารับไม้ต่อเป็นผู้นำคนใหม่ พร้อมให้สัญญาว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ภายในเดือนธันวาคม 2023 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมในปี 2026 อยู่มาก



ทำไมประชาชนถึงโกรธนัก

แม้กัสติโยจะพยายามยึดอำนาจไปในลักษณะที่ใครๆ มองว่าไม่ชอบธรรมนัก รวมถึงยังโดนข้อกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับการคอร์รัปชันหลายคดี แต่สิ่งนั้นก็ไม่ได้ทำให้ผู้สนับสนุนของเขาซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในแถบชนบทนั้นโกรธเคือง ตรงกันข้าม พวกเขาต่างเดือดดาลที่สภาคองเกรสขับผู้นำที่ตนชื่นชอบออกจากตำแหน่ง

กัสติโยถือเป็น ‘ขวัญใจ’ ของกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อยและคนรากหญ้า เพราะภูมิหลังของเขาคือลูกชายชาวนาที่ไม่รู้หนังสือ รวมถึงเป็นครูสอนหนังสือในชนบท ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ถนนการเมือง ด้วยเหตุนี้กัสติโยจึงถือเป็นตัวแทนของคนจนจากแถบชนบทคนแรกที่ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีได้สำเร็จ และเป็นดั่ง ‘ความหวัง’ ที่จะช่วยพลิกฟื้นให้พวกเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ชาวเปรูที่มีฐานะยากจนรู้สึกไม่พอใจกับภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้พวกเขาต้องแบกค่าครองชีพที่สูงกว่าเดิม ประกอบกับความไม่พอใจที่คนรากหญ้าแทบไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากรัฐบาลเปรูมายาวนาน การที่ผู้นำในดวงใจของพวกเขาซึ่งเคยประกาศในระหว่างการหาเสียงว่า “จะไม่มีคนจนในประเทศที่ร่ำรวยอีกต่อไป” จึงยิ่งทำให้พวกเขาโกรธแค้น

 ผู้ที่สนับสนุนกัสติโยมองว่าการลงมติถอดถอนครั้งนี้เต็มไปด้วยคำโกหกและกลอุบาย และโบลัวร์เตเองก็ไม่สมควรที่จะขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดี เพราะเธอไม่ใช่คนที่ประชาชนเลือก นี่ไม่ใช่ประชาธิปไตย เปรูต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิเลือกรัฐบาลจากเสียงของตัวเองเองจริงๆ

 ขณะที่ เอดูอาร์โด กามาร์รา ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ประจำมหาวิทยาลัยฟลอริดา อินเตอร์เนชันแนล ชี้ว่า รัฐสภาเปรูสามารถถอดถอนประธานาธิบดีได้ และประธานาธิบดีเปรูเองก็มีความสามารถในการสั่งยุบสภาเช่นกัน ดังนั้นแล้วในทางเทคนิค นี่จึงอาจไม่ใช่การรัฐประหาร แต่จำเป็นต้องอาศัยการตีความว่า แท้ที่จริงแล้วรัฐสภาและประธานาธิบดี ใครมีอำนาจเหนือกว่ากัน ผู้ที่มีอำนาจมากกว่าจะเป็นผู้ชนะ

 โดยผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้โบลัวร์เตลาออกจากตำแหน่ง และขอให้มีการจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด รวมถึงปล่อยตัวกัสติโยซึ่งถูกคุมขังก่อนการพิจารณาคดีเป็นเวลา 18 เดือนในข้อหาสมรู้ร่วมคิดและก่อกบฏ ซึ่งเขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

 สถานการณ์ล่าสุด

 เมื่อวันที่ 10 มกราคม สำนักงานอัยการสูงสุดได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นกับประธานาธิบดีเปรู รวมถึงสมาชิกในคณะรัฐมนตรีอีกหลายคน หลังเหตุประท้วงรุนแรงตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมจนถึงปัจจุบันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 40 ราย และบาดเจ็บอีกหลายร้อยราย

นอกเหนือจากโบลัวร์เตแล้ว อัยการสูงสุดของเปรูกล่าวว่า ขณะนี้ทางการกำลังดำเนินการไต่สวนเบื้องต้นต่ออัลเบอร์โต โอตาโรลา นายกรัฐมนตรี รวมถึงจอร์จ ชาเวซ (Jorge Chávez) รัฐมนตรีกลาโหม และวิคเตอร์ โรจัส (Victor Rojas) รัฐมนตรีมหาดไทยร่วมด้วย ในข้อกล่าวหาด้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ฆาตกรรม และทำให้เกิดการบาดเจ็บสาหัส

 ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวโจมตีว่า ทางการเปรูใช้อาวุธปืนโจมตีผู้ประท้วงและทิ้งระเบิดควันจากเฮลิคอปเตอร์ พร้อมเรียกร้องให้เปรูเคารพต่อสิทธิมนุษยชน โดยกองกำลังรักษาความปลอดภัยจะต้องปฏิบัติตามมาตรการสากลในการรับมือกับการประท้วง เพื่อจะได้ไม่ต้องมีใครเสียชีวิตจากความขัดแย้งทางการเมือง ขณะที่ทางกองทัพโต้ว่า ผู้ประท้วงใช้อาวุธและวัตถุระเบิดที่ทำขึ้นเองเข้าโจมตีเจ้าหน้าที่

 ขณะเดียวกัน ทางการเปรูก็ได้ประกาศเคอร์ฟิวในภูมิภาคปูโนเมื่อวันที่ 10 มกราคม เพื่อหวังลดระดับความรุนแรงในการประท้วงลง หลังการปะทะระหว่างผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 8 มกราคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมถึง 18 ราย โดยนายกรัฐมนตรีโอตาโรลากล่าวว่า จะมีการใช้เคอร์ฟิวช่วงกลางคืนเป็นเวลา 3 วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 20.00 น. ไปจนถึง 04.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 11 มกราคม ชาวเปรูหลายร้อยคนในภูมิภาคเปรูได้แบกโลงศพของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวไปตามท้องถนน เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับผู้ที่จากไป ก่อนที่จะนำไปฝังพร้อมกับรูปถ่าย ดอกไม้ ธงชาติเปรู และป้ายข้อความที่กล่าวโทษรัฐบาลที่ใช้กำลังสลายการประท้วงจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต


 “เหตุการณ์นองเลือดจะไม่ถูกลืม” นี่ถือถ้อยคำที่ผู้ประท้วงตะโกนขึ้น

ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ แทบไม่มีรัฐบาลไหนในเปรูที่จะอยู่ได้จนครบวาระ โดยหากย้อนดูเฉพาะในช่วงเวลา 6 ปีที่ผ่านมา เปรูเปลี่ยนตัวประธานาธิบดีไปแล้วถึง 7 คนด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2020 เปรูเคยเปลี่ยนประธานาธิบดีถึง 3 คนใน 5 วัน อีกทั้งในตอนนี้ก็ดูไม่มีทีท่าว่าความโกรธแค้นของประชาชนจะลดน้อยลงเลย ถือเป็นภาระอันหนักอึ้งที่โบลัวร์เต ประธานาธิบดีหญิงคนใหม่จะต้องเอาชนะให้ได้ มิเช่นนั้นเราคงจะได้เห็นประธานาธิบดีคนที่ 8 ในรอบ 6 ปีอีกไม่ช้า

และท้ายที่สุดนี้ THE STANDARD ยังคงยืนยันว่า ‘ความรุนแรง’ ไม่ใช่ทางออก ความขัดแย้งทางการเมืองไม่ควรต้องแลกด้วยชีวิตของใคร


อ้างอิง:


https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-12-16/peru-s-turmoil-understanding-the-struggle-between-castillo-and-congress?leadSource=uverify%20wall&sref=CVqPBMVg


https://www.theguardian.com/world/2022/dec/14/peru-explainer-what-is-happening


https://www.theguardian.com/global-development/2021/may/05/pedro-castillo-peru-presidential-candidate

ขอขอบคุณ ที่มา
THE STANDARD

Tags: Burapanewsต่างประเทศเปรู
Previous Post

ฝรั่งเศสคุมเข้ม หลังคนร้ายใช้มีดไล่แทงผู้คนในสถานีรถไฟกรุงปารีส บาดเจ็บอย่างน้อย 6 ราย

Next Post

อังกฤษ ประกาศเตรียมส่งรถถังรุ่น “ชาเลนเจอร์ 2” ให้ยูเครน

Next Post
อังกฤษ

อังกฤษ ประกาศเตรียมส่งรถถังรุ่น "ชาเลนเจอร์ 2" ให้ยูเครน

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

RECOMMENDED NEWS

ผู้บัญชาการทหารสองฝ่ายในซูดาน คือใคร?

7 เดือน ago
ผู้นำสูงสุดอิหร่าน

ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ชี้ พวกสหรัฐฯกำลังสับสนในภูมิภาคตะวันออกกลาง บ่งบอกถึงความอ่อนแอของพวกเขา

9 เดือน ago
ซาอุดีอาระเบีย

ซาอุดีอาระเบีย ตัดสินโทษประหารชีวิตนักโทษมากถึง 81 คน ถือเป็นการประหารชีวิตนักโทษภายในวันเดียวที่มากที่สุด

2 ปี ago

อเมริกา ลงมติสนับสนุนการก่อความไม่สงบและความวุ่นวายในอิหร่าน

10 เดือน ago

BROWSE BY CATEGORIES

  • Uncategorized
  • กีฬา
  • ตะวันออกกลาง
  • ต่างประเทศ
  • ท่องเที่ยว
  • ยูโรป
  • ลาตินอเมริกา
  • วิเคราะห์ข่าว
  • สหรัฐ
  • สุขภาพ
  • เทคโนโลยี
  • เอเชียแปซิฟิก
  • แอฟริกา
  • ในประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์

BROWSE BY TOPICS

Burapanews การเมือง จีน ซาอุดีอาระเบีย ซีเรีย ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง ตุรกี ต่างประเทศ นายกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี นาโต ประเทศไทย ปาเลสไตน์ ปูติน ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ฝรั่งเศส พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยุโรป ยูเครน รัสเซีย ศาลรัฐธรรมนูญ สงคราม สหรัฐ สหรัฐอเมริกา สหรัฐฯ สำนักข่าวต่างประเทศ อังกฤษ อินโดนีเซีย อิรัก อิสราเอล อิสลาม อิหร่าน อเมริกา ฮามาส เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ เซเลนสกี เมียนมา เยเมน โควิด โอมิครอน ในประเทศ ไต้หวัน ไบเดน

POPULAR NEWS

  • กองพันนีโอนาซี

    ทำความรู้จัก กองพันนีโอนาซีของยูเครน กัน

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • ประวัติวันลอยกระทง กับวิถีใหม่ของประเพณีเก่า

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • ด่วน! ผู้นำมุสลิมชีอะห์ไทย เรียกร้องซุนนี่ – ชีอะห์ – ไทยพุทธ – คริสตและยิวออร์โธดอกซ์ ร่วมกันประณามอาชญากรโลกอิสราเอล หน้าสถานทูตอิสราเอล 21 ตุลาคมนี้

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • ประธานาธิบดียูเครน พ้อชาติตะวันตกและนาโต้ ปล่อยให้ยูเครนสู้อย่างเดียวดาย

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • กองทัพรัสเซีย แต่งตั้งนายพล โวร์นิคอฟ ผู้บัญชาการรบในซีเรีย เป็นผู้บัญชาการรบในยูเครน

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
Burapanews

Burapa news ขอเป็นทางเลือกใหม่ในการเข้าถึงข่าวสาร ทั่วโลก จากสำนักข่าวในประเทศและต่างประเทศ ที่เชื่อถือได้

Follow us on social media:

ข่าวล่าสุด

  • เฮนรี คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 100 ปี
  • กระทรวงการต่างประเทศ ขอบคุณกาตาร์ อิหร่าน ตุรกี มาเลเซียและอียิปต์ ในการประสานช่วยปล่อยตัวประกันชาวไทย
  • แฉเบื้องลึก ชนวนเหตุอิสราเอล ร่วมมือสหรัฐ รุกรานกาซ่า

ข่าวล่าสุด

เฮนรี คิสซิงเจอร์

เฮนรี คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 100 ปี

พฤศจิกายน 30, 2023
กระทรวงการต่างประเทศ

กระทรวงการต่างประเทศ ขอบคุณกาตาร์ อิหร่าน ตุรกี มาเลเซียและอียิปต์ ในการประสานช่วยปล่อยตัวประกันชาวไทย

พฤศจิกายน 27, 2023
No Result
View All Result
  • หน้าหลัก
  • ในประเทศ
  • ต่างประเทศ
    • ตะวันออกกลาง
    • ยูโรป
    • ลาตินอเมริกา
    • สหรัฐ
    • เอเชียแปซิฟิก
    • แอฟริกา
  • เทคโนโลยี
  • กีฬา
  • วิเคราะห์ข่าว
  • ไลฟ์สไตล์