Burapanews
  • หน้าหลัก
  • ในประเทศ
  • ต่างประเทศ
    • ตะวันออกกลาง
    • ยูโรป
    • ลาตินอเมริกา
    • สหรัฐ
    • เอเชียแปซิฟิก
    • แอฟริกา
  • เทคโนโลยี
  • กีฬา
  • วิเคราะห์ข่าว
  • ไลฟ์สไตล์
No Result
View All Result
Burapanews
Home ต่างประเทศ ตะวันออกกลาง

บรรดานักเรียนและนักศึกษาจำนวนหนึ่ง เข้าพบผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน เนื่องในวันแห่งการต่อสู้กับมหาอำนาจโลก

พฤศจิกายน 6, 2022
in ตะวันออกกลาง, ต่างประเทศ
0
บรรดานักเรียนและนักศึกษาจำนวนหนึ่ง
0
SHARES
9
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

Related posts

ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามชี้

ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามชี้ การวางยาบรรดานักเรียน ถือเป็นอาชญากรรมที่ไม่อาจให้อภัย

มีนาคม 20, 2023
ครม. ไฟเขียวลงนามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไทย-รัสเซียแล้ว

ครม. ไฟเขียวลงนามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไทย-รัสเซียแล้ว เงื่อนไขเป็นความผิดโทษจำคุกเกินกว่า 1 ปี ถึงส่งตัวได้

มีนาคม 20, 2023

บรรดานักเรียนและนักศึกษาจำนวนหนึ่ง เข้าพบผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน เนื่องในวันแห่งการต่อสู้กับมหาอำนาจโลก

Burapanews  สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2022 ณ กรุงเตหะราน ฮุซัยนียะฮ์ อิมามโคมัยนี บรรดานักเรียนและนักศึกษาจำนวนหนึ่ง เข้าพบท่านอายะตุลเลาะห์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน เนื่องในการรำลึกเหตุการณ์วันแห่งการต่อสู้กับมหาอำนาจโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 13 เดือนอาบาน 1358 (4 พฤศจิกายน1979)

โดยในวันนี้ กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยในอิหร่าน ปฏิบัติการบุกเข้ายึดสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเตหะราน ซึ่งเป็นศูนย์สอดแนมและปฏิบัติการลับของพวกอเมริกา และสถานที่ในการวางแผนการร้ายต่างๆ ของอเมริกาที่ต่อต้านการปฏิวัติอิสลามของอิหร่านและการบ่อนทำลายการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน

วันนี้ ในทุกปีของอิหร่าน เป็นวันที่ประชาชนชาวอิหร่านได้ออกมารวมตัวเพื่อประท้วงต่อต้านสหรัฐทั่วประเทศ ด้วยสโลแกนที่ว่า อิสรภาพ เสรีภาพ สาธารณรัฐอิสลาม

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี เนื่องวโรกาสช่วงวันที่ 13 ของเดือนอาบาน (4 พฤศจิกายน) ซึ่งถือเป็น วันต่อต้านมหาอำนาจโลกแห่งชาติ โดยท่านผู้นำถือว่า เป็นวันแห่งการสำแดงถึงความชั่วร้ายของอเมริกาและความอ่อนแอ อีกทั้งความเป็นไปได้ที่จะต้องพบกับความล้มเหลว และท่านผู้นำยังได้ชี้ให้เห็นว่า การพูดจาโกหกที่ไร้ยางอายของพวกสหรัฐฯที่มีต่อการแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อประชาชาติอิหร่าน โดยท่านกล่าวว่า “ในสงครามแบบผสม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกา รัฐเถื่อนไซออนิสต์ และบางประเทศมหาอำนาจยุโรปที่ร้ายกาจ และบางกลุ่มที่ต่อต้านรัฐอิสลาม ได้ใช้ทุกวิถีทางเพื่อก่อความเสียหายให้เกิดขึ้นกับประชาชาติอิหร่าน แต่ประชาชาติอิหร่านนั้นได้ตบใบหน้าของเหล่าผู้ที่ไม่หวังดีและทำให้พวกเหล่านี้พบกับความล้มเหลว”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า วันที่ 13 เดือนอาบาน เป็นวันแห่งประวัติศาสตร์และควรนำมาเป็นบทเรียน โดยท่านกล่าวว่า “พวกสหรัฐฯและเหล่าผู้ที่คลั่งไคล้อเมริกาต่างรู้สึกโกรธเคืองในวันสำคัญนี้และการรวมตัวโดยมีหัวใจเป็นหนึ่งเดียวกันและความเป็นเอกภาพ เพราะวันนี้นั้น เป็นวันที่สำแดงให้เห็นถึงความชั่วร้ายของพวกอเมริกาและความอ่อนแอ ทั้งความเป็นไปได้ที่จะพบกับความล้มเหลว

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้เปิดเผย จากการปราศรัยของท่านเกี่ยวกับการทบทวนเหตุการณ์ต่างๆทางประวัติศาสตร์ในวันที่ 13 เดือนอาบาน โดยท่านได้ชี้ถึงการเนรเทศของท่านอิมามโคมัยนี ในวันที่ 13 เดือนอาบาน 1343 โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ท่านอิมาม ไม่สามารถที่จะอดทนได้ในข้อกฏหมายที่อนุมัติว่า พวกสหรัฐฯหลายหมื่นคนที่อาศัยอยู่ในอิหร่านสามารถได้รับการคุ้มครองเหนือกฏหมายทางคดีอาญาและอาชญากรรม ซึ่งนี่เป็นคำสั่งของมูฮัมหมัด ชาห์ปาห์เลวี ด้วยเหตุผลนี้เอง ท่านอิมามจึงถูกสั่งเนรเทศให้ออกจากประเทศ”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ให้เห็นถึงการสังหารหมู่นักเรียนจำนวนหนึ่ง ที่หน้ามหาวิทยาลัยกรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 13 เดือนอาบาน 1357 (ปฏิทินอิหร่าน) และการบุกสถานทูตอเมริกาของนักศึกษา ในวันที่ 13 อาบาน 1358 (ปฏิทินอิหร่าน) โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “ในการบุกสถานทูตครั้งนั้น ได้พบเอกสารเกี่ยวกับการทรยศ การแทรกแซง และการปล้นทรัพยากรของอิหร่านเป็นจำนวนมาก ตลอดจนแผนการสมรู้ร่วมคิดต่างๆของพวกเหล่านั้น เพื่อต่อต้านการปฏิวัติอิสลาม แม้ว่าจะมีการเน้นย้ำให้มีการบรรจุเนื้อหาดังกล่าว ลงในหลักสูตรการเรียนการสอนก็ตาม แต่ช่างน่าเสียดายอย่างยิ่งที่ยังไม่ได้มีการดำเนินการนี้แต่อย่างใด”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การยืนกรานของพวกสหรัฐฯที่ว่า การเริ่มต้นความตึงเครียดระหว่างประชาชาติอิหร่านกับอเมริกา เกิดขึ้นจากการโจมตีรังสอดแนมนั้น เป็นเรื่องที่โกหก โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ความตึงเครียดนี้ได้เริ่มต้นในวันที่ 28 เดือนมุรดาด 1332 เนื่องจากสหรัฐฯได้ให้การช่วยเหลืออังกฤษในการโค่นล้มรัฐบาลของ ดร.มุศัดดิก ด้วยการก่อรัฐประหารที่น่าละอายใจอย่างยิ่ง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ดร.มุศัดดิก เป็นบุคคลที่มีวิสัยทัศน์ดีและเป็นที่ไว้วางใจของสหรัฐฯ โดยท่านกล่าวว่า “เขานั้นไม่ได้เป็นฮุจญตุลอิสลามและไม่ได้เรียกร้องอิสลาม แต่ความผิดของเขาก็เพียงแค่บอกว่า น้ำมันของอิหร่านต้องอยู่ในมือของประชาชาติอิหร่าน ไม่ใช่พวกอังกฤษ แต่พวกอเมริกาด้วยการยึดถือผลประโยชน์ของตน แม้แต่กับบุคคลเช่นนี้ก็ไม่อาจที่จะอดทนต่อไปได้อีกเช่นกัน ซึ่งตรงกันข้ามกับความคาดหวังของมุศัดดิก เพื่อที่จะช่วยเหลือของอเมริกา แต่พวกเหล่านั้นได้แทงข้างหลังเขาและโค่นล้มเขาด้วยการใช้จ่ายเงินและความช่วยเหลือจากผู้ทรยศและเหล่าพวกอันธพาล”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า คำพูดของนักการเมืองสหรัฐฯในหลายวันที่ผ่านมานี้ เกี่ยวกับการสนับสนุนประชาชาติอิหร่านนั้น เป็นจุดสูงสุดของความไร้ยางอายและการแสดงความโอ้อวด พร้อมกันนั้น ท่านผู้นำยังได้ตั้งคำถามกับพวกเขาว่า “ในช่วง 4 ทศวรรษนี้ มีการกระทำใดบ้างหรือที่ต่อต้านประชาชาติอิหร่านที่พวกคุณสามารถกระทำได้ แต่ยังไม่ได้กระทำ? หากพวกคุณไม่ได้กระทำการใดเลย เช่น การทำสงครามทางทหารโดยตรง หรือว่าพวกคุณนั้นไม่มีความสามารถหรือว่าพวกคุณมีความหวาดกลัวเยาวชนชาวอิหร่าน”


ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวทบทวนอาชญากรรมต่างๆและแผนการร้ายของสหรัฐ หลังชัยชนะการปฏิวัติอิสลาม ด้วยการสนับสนุนของวอชิงตันที่มีต่อกลุ่มเรียกร้องให้มีการแบ่งแยกดินแดน ในช่วงแรกๆของการปฏิวัติอิสลาม การก่อรัฐประหารในฐานทัพชะฮีด โนเจห์ เมืองฮะมะดาน การสนับสนุนการก่อการร้ายอย่างมืดบอดต่อกลุ่มมุนาฟิก จนทำให้มีประชาชนเป็นชะฮีดหลายแสนคนทั่วทั้งประเทศ การสนับสนุนทุกด้านต่อซัดดามในสงครามแห่งการป้องกันอันศักดิ์สิทธิ์ การโจมตีด้วยขีปนาวุธและการยิงเครื่องบินพาณิชย์ในน่านฟ้าอิหร่านตก และการเป็นชะฮีดของผู้โดยสารเครื่องบินลำดังกล่าวถึง 300 คน และความไร้ยางอายในการเทอดเกียรติต่อผู้บัญชาการเรือของสหรัฐที่สั่งให้มีการยิงเครื่องบินพาณิชย์ตก การคว่ำบาตรประชาชาติอิหร่าน ตั้งแต่ปีแรกแห่งชัยชนะของการปฏิวัติอิสลาม การกำหนดมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และการสนับสนุนให้เกิดความโกลาหลและการก่อความไม่สงบในอิหร่าน โดยท่านกล่าวว่า “ในช่วงปี 1388 (ปฏิทินอิหร่าน) ขณะที่โอบามาเขียนจดหมายแห่งมิตรภาพถึงเรา แต่พวกสหรัฐฯกลับให้การสนับสนุนต่อกลุ่มผู้ที่ก่อความไม่สงบ เพื่อที่จะทำลายสาธารณรัฐอิสลามได้ด้วยวิธีการนี้”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การสังหารวีรบุรุษแห่งชาติของชาวอิหร่านและวีรบุรุษของภูมิภาคตะวันออกกลาง ชะฮีดนายพลกอเซ็ม สุไลมานี เป็นความภาคภูมิใจในการก่ออาชญากรรมนี้ของพวกสหรัฐฯ ท่ามกลางแผนการสมรู้ร่วมคิดและความสกปรกโสมมอื่นๆ โดยท่านผู้นำได้กล่าวกับพวกเหล่านี้ว่า “พวกคุณได้สนับสนุนเหล่าอาชญากรที่สังหารบรรดานักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ของเรา หมายถึง พวกรัฐเถื่อนไซออนิสต์ และการอายัดทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านพันล้านดอลลาร์ของอิหร่านในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ทั้งยังกีดกันประชาชาติอิหร่านไม่ให้ใช้ทรัพย์สินของพวกเขาในการลดปัญหาต่างๆอีกด้วย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “ในส่วนมากของเหตุการณ์ต่างๆที่ต่อต้านอิหร่านนั้นมีรอยเท้าของพวกคุณอย่างชัดเจน ในเวลานั้น พวกคุณพูดเท็จด้วยความน่ารังเกียจและอ้างว่าเรานั้นมีความเห็นอกเห็นใจประชาชาติอิหร่าน?” แน่นอนว่า เพราะว่าความมืดบอดของพวกคุณ ประชาชาติอิหร่านจึงได้ทำลายความเป็นปฏิปักษ์เหล่านี้ไปอย่างมากมาย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า “แน่นอนว่า เรานั้นไม่เคยลืมบางเหตุการณ์และเราจะไม่ลืมเหตุการณ์เหล่านั้น ทั้งเรายังยืนหยัดในสิ่งที่เรากล่าวถึงการลอบสังหารของนายพลสุไลมานี และก็จะมีการดำเนินการในเวลาที่เหมาะสม”

ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า สหรัฐในวันนี้ ก็เหมือนกับสหรัฐในวันเมื่อวาน และสหรัฐในวันที่ 28 เดือนมุรดาด รวมทั้งสหรัฐที่เป็นผู้สนับสนุนซัดดัม โดยท่านกล่าวว่า “แน่นอนว่าวิธีการเป็นปฏิปักษ์ในอดีตของพวกเหล่านี้มีความแตกต่างและมีความซับซ้อนมากเพิ่มขึ้น แต่เรานั้นเชื่อมั่นในเยาวชนของเราและบรรดาเจ้าหน้าที่ของตนเอง และเราทราบว่าพวกเขาสามารถที่กระทำได้ เพื่อที่จะเอาชนะเหนือวิธีการที่ซับซ้อนเหล่านี้ และเราก็จะต้องมีความชาญฉลาดอย่างเต็มที่”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ความแตกต่างอีกประการหนึ่งระหว่างสหรัฐในวันเมื่อวานและสหรัฐในวันนี้ คือ ความเห็นพ้องต้องกันของนักวิเคราะห์ทางการเมืองหลายคนในโลกบนพื้นฐานที่ว่า สหรัฐกำลังอยู่ในกระบวนการของการล่มสลาย โดยท่านกล่าวเสริมว่า “สัญญาณของการล่มสลายได้ประจักษ์ชัด ซึ่งเห็นได้จากปัญหาภายในประเทศของสหรัฐ ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ศีลธรรม และความแตกแยก ทั้งการมีสองขั้วอำนาจที่ห้ำหั่นกันในประเทศสหรัฐฯ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า อีกสัญญาณประการหนึ่งของการล่มสลายของสหรัฐฯ คือ การคิดคำนวณที่ผิดพลาดของพวกสหรัฐฯในปัญหาต่างๆของโลก โดยท่านกล่าวว่า “ตัวอย่างของการคำนวณที่ผิดพลาดนี้ คือ การโจมตีของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เพื่อกำจัดกลุ่มตอลิบาน ด้วยการก่ออาชญากรรมและการสังหารต่างๆมากมาย แต่หลังจาก 20 ปีผ่านไป เนื่องจากความไม่เข้าใจถึงปัญหาต่างๆ พวกสหรัฐฯจึงจำเป็นที่จะต้องออกจากอัฟกานิสถานและส่งมอบประเทศให้กับกลุ่มตอลิบาน”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การโจมตีอิรักและความล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของความผิดพลาดในการคิดคำนวณของพวกสหรัฐฯ โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “ในช่วงเริ่มต้น พวกสหรัฐฯได้เสาะหาชาวสหรัฐและผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับตน ทั้งสถานการณ์ในปัจจุบันของอิรักและการเข้าร่วมของนักการเมืองชาวอิรักในการทำงานหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเหล่านี้นั้นไม่ต้องการให้เกิดขึ้นในการเลือกตั้ง แต่ทว่า พวกเหล่านี้ก็พบกับความล้มเหลวในที่นี่ด้วยเช่นกัน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ความล้มเหลวของสหรัฐในซีเรียและเลบานอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นล่าสุดของการกำหนดท่อส่งก๊าซ เป็นอีกตัวอย่างประการหนึ่งของความล้มเหลวอันเนื่องมาจากความผิดพลาดในการคิดคำนวณ โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “อีกสัญญาณหนึ่งของความล่มสลายของสหรัฐ คือ การลงคะแนนเสียงของประชาชนให้กับบุคคล เช่น ประธานาธิบดีคนปัจจุบันและคนก่อน ในช่วงก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีอย่างทรัมป์ก็ได้รับเลือก ที่ใครๆ ก็มองว่าเขานั้นเป็นคนเสียสติ และในยุคปัจจุบัน ประธานาธิบดีที่เข้ามาบริหารงาน ซึ่งทุกคนก็ทราบดีเกี่ยวกับอาการของเขา”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า กรณีเหล่านี้ เป็นต้นเหตุของความเสื่อมโทรมทางอารยธรรม และท่านได้เน้นย้ำให้เห็นว่า มหาอำนาจชาติตะวันตกจำนวนมากมีความคล้ายคลึงกับสหรัฐในแง่นี้โดยท่านกล่าวว่า “ความเสื่อมโทรมทางศีลธรรม ความเลวทราม และอาชญากรรม ที่สูงยิ่งกว่านี้คือ พวกตะวันตกได้มีการสอนให้มีการทำลายล้าง การก่อความไม่สงบและการผลิตระเบิดขวดและระเบิดมือในสื่อของพวกเขา ใช่หรือไม่?

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ให้เห็นถึงบทบาทที่ชัดเจนของสหรัฐในการก่อความไม่สงบเมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาในประเทศ โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “การออกแถลงการณ์ร่วมกันของกระทรวงข่าวกรองและองค์การข่าวกรองของกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม IRGC เกี่ยวกับการก่อความไม่สงบว่า มีข้อมูลและการค้นพบสิ่งที่สำคัญและแสดงให้เห็นว่าศัตรูนั้นได้วางแผนสำหรับกรุงเตหะราน รวมทั้งเมืองใหญ่และเมืองเล็ก”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การเข้าร่วมของยุวชนและเยาวชนคนหนุ่มสาวบางคนในการก่อจลาจล นั้นเป็นประเด็นหลัก โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกต “พวกเขาเหล่านี้ คือ บุตรหลานของพวกเราและเราไม่มีข้อโต้แย้งกับพวกเขา เพราะพวกเขาเข้ามาในสนาม เนื่องจากความตื่นเต้นและการมีอารมณ์ความรู้สึกบางอย่างและความประมาทในบางเรื่อง แต่สิ่งที่สำคัญคือ เหล่าผู้จัดการหลักที่เข้ามาพร้อมกับการออกแบบและวางแผนการต่างๆ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า บรรดาเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทางการเมืองและเศรษฐกิจ และประชาชนทุกคน โดยเฉพาะบรรดาเยาวชน ให้มีความสนใจเป็นพิเศษและชาญฉลาดกับผู้จัดการหลัก ตลอดจนการออกแบบและการวางแผนการต่างๆ โดยท่านกล่าวว่า “แน่นอนว่า หน่วยข่าวกรองต่างให้ความสนใจในประเด็นนี้และมีความชาญฉลาดเป็นอย่างยิ่ง การออกแบบและการวางแผนการ ซึ่งพวกเขาสามารถที่จะกระทำการบางอย่าง เพื่อให้ประชาชาติอิหร่านนั้นมีความเชื่อเดียวกับเหล่าผู้นำของอังกฤษและสหรัฐ และนำประชาชาติไปพร้อมกับพวกเขา แต่ประชาชาติอิหร่านได้ต่อยเข้าที่ปากพวกเหล่านั้นและหลังจากนี้ก็จะต่อยอยู่ต่อไป”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า “เหล่าผู้ที่เข้าร่วมด้วยการออกแบบและการวางแผนการ ทั้งมีความเกี่ยวข้องกับองค์กรต่างประเทศและการก่ออาชญากรรม นี่เป็นประเด็นที่สำคัญอย่างมากที่ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฎิวัติอิสลาม ถือว่า ประเด็นชาห์เชรอฆและการสังหารประชาชนและเด็กๆ เป็นอาชญากรรมที่ใหญ่อย่างยิ่ง โดยท่านกล่าวว่า “เด็กนักเรียนชายที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ พวกเขากระทำความผิดอะไรหรือ? เด็กชายที่สูญเสียพ่อแม่และน้องชายของเขาในอาชญากรรมครั้งนี้ และได้รับความโศกเศร้าอย่างใหญ่หลวงเช่นนี้ เขากระทำความผิดอะไรหรือ?นักเรียนศาสนาเยาวชนที่มีความเคร่งครัดต่อศาสนาและพระเจ้า อาร์มาน ที่มีเกียรติยิ่ง ซึ่งเขาเสียชีวิตภายใต้การทรมานในกรุงเตหะรานและศพของเขาถูกทิ้งไว้ที่ท้องถนน เขานั้นกระทำความผิดอะไรหรือ?

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “เหล่าผู้ที่ก่ออาชญากรรมเหล่านี้ คือใครหรือ? และพวกเขาได้รับคำสั่งมาจากที่ไหน? แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่เด็กและบรรดาเยาวชนของเราอย่างแน่นอน ผู้กระทำความผิดในอาชญากรรมเหล่านี้ จะต้องมีการระบุตัว และผู้ใดก็ตามที่ได้รับการพิสูจน์ว่ามีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมเหล่านี้ พวกเขาก็จะต้องถูกลงโทษโดยที่ไม่ต้องสงสัยใดๆเลย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ให้เห็นถึงความนิ่งเงียบของเหล่าผู้เรียกร้องสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับอาชญากรรมเหล่านี้ โดยท่านผู้นำได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ทำไมพวกเหล่านี้ไม่มีการประณามเหตุการณ์ที่ชีรอซ ขณะที่เหตุการณ์หนึ่งที่ไม่ตรงกับความจริงและเป็นเท็จ กลับมีการเน้นย้ำเป็นพันๆครั้งในอินเทอร์เน็ต แต่ชื่อของอัรชามกลับถูกต้องห้าม แล้วเหล่าผู้ที่เรียกร้องสิทธิมนุษยชน พวกเขาคือผู้สนับสนุนสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริงกระนั้นหรือ?

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวถึงยุวชนและบรรดาเยาวชน โดยท่านกล่าวว่า “ยุวชนและเยาวชนของวันนี้นั้นมีความแตกต่างกับยุวชนและเยาวชนในอดีตที่ผ่านมา เพราะว่าพวกเขาเป็นองค์ประกอบที่มีความเป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ มีสติปัญญา ชาญฉลาด มีวิสัยทัศน์และมีการวิเคราะห์ และนี่คือสิ่งที่ได้รับจากเกียรติของการปฏิวัติอิสลาม เพราะว่า ก่อนการปฏิวัติอิสลาม บรรดาเยาวชนได้สาละวนยุ่งอยู่กับการงานที่ไร้สาระและมีปัญหาราคะ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ความสนใจต่อปัญหาหลักของประเทศ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้เน้นย้ำว่า “นี่คือ ความจริงที่อยู่ในปัญญาของยุวชนและเยาวชนของวันนี้ ทั้งศัตรูก็ตระหนักดีถึงการเป็นนักวิเคราะห์และมีความคิดนี้ของพวกเขาด้วยเช่นกัน และสำหรับการเผชิญหน้ากับพวกเขา จึงได้มีการผลิตและการสร้างเนื้อหาเท็จ จำนวนมากและมีการกล่าวซ้ำผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์อีกด้วย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงเนื้อหาเท็จจำนวนมาก ทั้งการดูหมิ่น และคำพูดที่บิดเบือนโดยมีการจัดเตรียมเพื่อป้อนให้กับบรรดาเยาวชน โดยท่านกล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้เน้นย้ำหลายต่อหลายครั้งมาแล้ว เกี่ยวกับความจำเป็นในการทำญิฮาด ตับยีน (การต่อสู้ในการอธิบายและการแสดงออก) และก่อนที่ศัตรูจะผลิตเนื้อหาเท็จและบิดเบือน ควรที่จะผลิตเนื้อหาที่ถูกต้องและตรงกับความเป็นจริงเสียก่อน”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า “ข้าพเจ้าได้กล่าวกับบรรดาเจ้าหน้าที่สื่อและการติดต่อสื่อสารว่า ให้พวกท่านทั้งหลายมีความรู้สึกรับผิดชอบในด้านการผลิตเนื้อหา การญิฮาด ตับยีน และการวางแบบแผน ทั้งพวกท่านก็จงมีความเข้าใจด้วยว่า ทำไมศัตรูจึงรู้สึกอ่อนไหวต่อบางคำพูดหรือบางชื่อและจะต้องจัดการกับมันเสีย”

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ได้เชิญชวนให้บรรดาเยาวชนรู้สึกรับผิดชอบต่อหน้าที่ในการเผชิญหน้ากับการทิ้งระเบิดใส่ความคิดของคนหนุ่มสาวชาวอิหร่าน เป็นจำนวนมากและบ่อยครั้งด้วยการโกหก โดยท่านกล่าวว่า “พวกท่านจะต้องมีความรู้สึกรับผิดชอบต่อแผนการร้ายนี้ของศัตรูและจะต้องพยายามแยกแยะความจริงและคำพูดที่ถูกต้องออกจากการโกหกหลอกลวง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “บุคคลที่พวกเขาไม่แสดงถึงความเป็นศัตรู แต่เนื่องจากการเพิกเฉยหรือมีการเข้าใจผิดและได้ยินข้อมูลเท็จในสื่อต่างๆ จนเป็นเสียงเดียวกับศัตรู พวกท่านก็จงแนะนำและมีความระมัดระวังพวกเขาโดยปราศจากการทะเลาะวิวาท และด้วยการเขียน การส่งสาร และการใช้เหตุผลกับพวกเขา”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า เหตุการณ์เมื่อช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสงครามแบบผสม ไม่ใช่แค่เพียงการก่อจลาจลตามท้องถนนเท่านั้น และท่านยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า ถือว่า ศัตรูคืออเมริกา ระบอบรัฐเถื่อนไซออนิสต์ บางประเทศชาติมหาอำนาจยุโรปที่ร้ายกาจและชั่วร้าย และบางกลุ่มที่ต่อต้านอิหร่าน ได้ลงสู่สนามอย่างเต็มกำลังและมีการใช้หน่วยข่าวกรอง สื่อ และศักยภาพทางสื่อออนไลน์ ทั้งการใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในอิหร่าน และความพยายามของบางประเทศเพื่อสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า “แน่นอนว่า ประเทศชาติด้วยความหมายแท้จริงได้ต่อยปากของเหล่าผู้ที่ไม่หวังดีและทำให้พวกเหล่านี้ได้พบกับความล้มเหลวอีกด้วย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงในระเบียบโลกและกระบวนการของการจัดระเบียบใหม่ของโลก โดยท่านผู้นำได้ให้คำแนะนำกับบรรดาเยาวชนให้รู้จักบทบาทและสถานภาพของอิหร่านและชาวอิหร่านในระเบียบโลกใหม่ โดยท่านกล่าวว่า “มิติของระเบียบใหม่ และวิธีการต่างๆของมันยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เรานั้นสามารถวางเส้นทางพื้นฐานได้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า เส้นทางพื้นฐานแรกของการจัดระเบียบโลกใหม่ คือ ความโดดเดี่ยวของสหรัฐฯ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ตรงกันข้ามกับในอดีตที่ผ่านมา ที่พวกสหรัฐอ้างว่ามีอำนาจเพียงคนเดียวในการเป็นมหาอำนาจโลก แต่ในระเบียบโลกใหม่ สหรัฐฯไม่มีสถานภาพใดๆทั้งสิ้น และจะอยู่อย่างโดดเดี่ยว และจะต้องเก็บมือ เก็บเท้าของตนในทุกพื้นที่ต่างๆของโลกอีกด้วย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบต่อสโลแกนของนักเรียนทั้งหลายที่ว่า อเมริกา จงพินาศ โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “บางคนบอกว่าอย่าได้พูดสโลแกนนี้ เพราะว่าจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจต่อความเป็นปฏิปักษ์ของชาวอเมริกา ในขณะที่ชาวอเมริกานั้นเริ่มเป็นปฏิปักษ์กับประชาชาติอิหร่าน เมื่อวันที่ 28 เดือนมุรดาด 1332 ในขณะที่ ในสมัยนั้นไม่มีผู้ใดในอิหร่าน เขาไม่ได้บอกว่า อเมริกา จงพินาศ แน่นอนว่า หลังจากนั้น บรรดานักศึกษาก็บอกว่า อเมริกา จงพินาศ ในวันที่ 16 เดือนอาซัร ในปีนั้น ที่มหาวิทยาลัยกรุงเตหะราน และสโลแกนนี้ คือ ความทรงจำของวันที่ 16 ของเดือนอาซัรนั่นเอง”

เส้นทางที่สองและที่สามของการจัดระเบียบโลกใหม่ที่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึง คือ “การถ่ายโอนอำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์จากตะวันตกไปยังเอเชีย” และ “การขยายตรรกะและการจัดตั้งกลุ่มแห่งการยืนหยัดและการต่อสู้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน เป็นผู้ริเริ่มการขยายความคิดและการจัดตั้งกลุ่มแห่งการยืนหยัดและการต่อสู้ ในการเผชิญหน้ากับการกดขี่ของมหาอำนาจ จอมอหังการ โดยท่านกล่าวว่า “บุคคลแรกที่กล่าวว่า ไม่ว่าตะวันออกและไม่มีตะวันตก คือ ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ผู้สูงส่งของเราและการมีจิตวิญญาณนี้และคำพูดที่มั่นคงในวันนี้ ได้แพร่กระจายไปอย่างมากในภูมิภาคของเรา จนหลายคนมีความเชื่อและปฏิบัติตามตรรกะของการยืนหยัด และได้ข้อสรุปจากเรื่องนี้ เช่น ผลลัพธ์ล่าสุดและผลประโยชน์ที่ชาวเลบานอนได้รับจากเกียรติของฮิซบุลลอฮ์ในกรณีท่อส่งก๊าซ”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ตั้งคำถามที่ว่า ในโลกใหม่นี้ อิหร่านจะกระทำอะไรหรือและอยู่ในสถานภาพใดหรือ? โดยท่านผู้นำยังได้เชิญชวนให้บรรดาเยาวชนนั้นใช้ความคิดเกี่ยวกับคำถามนี้และการเตรียมพร้อมตนเองสำหรับโลกใหม่ โดยท่านกล่าวว่า “อิหร่านที่มีเกียรติ เนื่องจากมีลักษณะที่โดดเด่น เช่น กองกำลังมนุษย์ที่มีความฉลาดหลักแหลมและมีศักยภาพ มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และหลากหลาย เป็นที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่อ่อนไหวและโดดเด่น และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การมีตรรกะอันสูงส่งของการปกครองและมีอารยธรรม ซึ่งสามารถทำให้อิหร่านได้รับสถานภาพที่โดดเด่นในการจัดระเบียบใหม่ของโลก”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์ของอิหร่านและกลายเป็นเส้นทางคมนาคมที่ก้าวหน้าและดีอย่างมากนั้น ต้องอาศัยการขยายเส้นทางรถไฟ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “แม้นว่าจะมีการเน้นย้ำประเด็นนี้หลายครั้งมาแล้ว ทั้งในรัฐบาลต่างๆ ยกเว้นในช่วงเวลาแห่งการอสัญกรรมของท่านอิมามโคมัยนี ผู้สูงส่ง ก็ได้มีการดำเนินการต่างๆแต่มีการละเลย และแน่นอนเป็นอย่างยิ่ง ในรัฐบาลชุดนี้ก็มีการตัดสินใจที่จะดำเนินการต่างๆอีกด้วยเช่นกัน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ข้อได้เปรียบที่สำคัญของสาธารณรัฐอิสลามและตรรกะในการปกครองและการมีอารยะธรรม คือ การรวมตัวของการเข้าร่วมและการลงคะแนนเสียงของประชาชนด้วยความรู้แห่งพระเจ้า โดยท่านกล่าวว่า “การงานนี้ถือว่าไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายดาย แต่ทว่าสาธารณรัฐอิสลามก็ประสบความสำเร็จในการกระทำ แต่ก็ยังมีข้อบกพร่องที่เรานั้นทราบดี แต่คำพูดนี้และการมีตรรกะ จะเกิดขึ้นในโลกใหม่นี้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นว่า ผลของความชาญฉลาดและศักยภาพของเยาวชนทั้งหลายในยุคทศวรรษที่ 60 และ 70 ประจักษ์ต่อหน้าต่อตาของทุกคน โดยท่านกล่าวว่า “ในอนาคตนี้ ทุกคน จะได้เห็นเกียรติยศของพวกท่าน ชาวทศวรรษที่ 80 และบรรดาผู้ที่ถือกำเนิดในทศวรรษที่ 90 ด้วยเช่นกัน”

ในช่วงท้ายของการปราศรัยจากการพบปะกับบรรดานักเรียนหลายร้อยคน ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวถึงประเด็นที่สำคัญ โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “เจ้าหน้าที่ทั้งหลายและประชาชนทุกคน พวกเราจะต้องมีความระมัดระวังว่า การส่งสารไปยังต่างประเทศ จากทุกการเคลื่อนไหว การกระทำใดก็ตาม หรือคำพูดใดของตนนั้น คืออะไร

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้เน้นย้ำว่า “ ประชาชาติ เยาวชน และบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯ จะต้องแสดงพลังการยืนหยัด การต่อสู้และความมุ่งมั่นจากการยืนหยัดในการเผชิญหน้ากับเหล่าผู้กดขี่ ให้เกิดขึ้นทั่วโลกและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกิดขึ้นกับเหล่าศัตรูด้วยเช่นกัน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “รัฐบาลนั้นมีหน้าที่รับผิดชอบอย่างหนักหน่วงในประเด็นนี้ และไม่ควรให้เกิดความล้มเหลวซ้ำเหมือนในอดีตที่ผ่านมา และหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งกระทรวงศึกษาธิการ วิทยาศาสตร์ สาธารณสุข กระทรวงการชี้นำ กระทรวงด้านเศรษฐกิจ และรองประธานาธิบดีด้านวิทยาศาสตร์ จะต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างจริงจัง”

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า “เรานั้นเชื่อมั่นว่า หากว่า ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่อยู่ในสถานที่ใดก็ตาม เมื่อต้องปฏิบัติหน้าที่และมีความรับผิดชอบ เขาก็จะรู้จักหน้าที่ของเขาและจะปฏิบัติตามหน้าที่นั้น ทั้งปัญหาต่างๆทั้งหมดก็จะได้รับการแก้ไขและประเทศ ประชาชาติก็จะบรรลุสู่ความปรารถนาสุดท้ายของตนอีกด้วย”

 

 ที่มา เว็บไซต์สำนักผู้นำสูงสุด ซัยยิดอาลี คาเมเนอี



 

 

Tags: Burapanewsตะวันออกกลางมหาอำนาจโลกสหรัฐฯอิหร่านอเมริกา
Previous Post

กองทัพเกาหลีเหนือ ยิงขีปนาวุธ 17 ลูก ภายในวันเดียว สูงเป็นสถิติใหม่

Next Post

นายกรัฐมนตรีปากีสถาน เยือนกรุงปักกิ่งอย่างเป็นทางการ เพื่อพบหารือกับผู้นำจีน

Next Post
นายกรัฐมนตรีปากีสถาน

นายกรัฐมนตรีปากีสถาน เยือนกรุงปักกิ่งอย่างเป็นทางการ เพื่อพบหารือกับผู้นำจีน

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

RECOMMENDED NEWS

"ทรัมป์"

“ทรัมป์” ประกาศลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ ปี 2024

4 เดือน ago
หมอวรงค์

หมอวรงค์ ถูกฟ้องแพ่ง 100 ล้าน หลังเคลื่อนไหวทวงคืนดาวเทียมไทยคม

1 ปี ago
ธีรรัตน์ เพื่อไทย

โฆษกเพื่อไทย เย้ยรัฐบาลประยุทธ์ เหยียบย่ำชาวนา นโยบายหาเสียงแค่ภาพลวงตา 

1 ปี ago
ไบเดน

ไบเดน เชื่อปูติน เป็นผู้นำที่มีเหตุผล แต่การสั่งบุกยูเครน คือ การประเมินที่ผิดพลาดอย่างมหันต์

5 เดือน ago

BROWSE BY CATEGORIES

  • Uncategorized
  • กีฬา
  • ตะวันออกกลาง
  • ต่างประเทศ
  • ท่องเที่ยว
  • ยูโรป
  • ลาตินอเมริกา
  • วิเคราะห์ข่าว
  • สหรัฐ
  • สุขภาพ
  • เทคโนโลยี
  • เอเชียแปซิฟิก
  • แอฟริกา
  • ในประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์

BROWSE BY TOPICS

Burapanews การเมือง ขีปนาวุธ จีน ซาอุดีอาระเบีย ซีเรีย ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง ตุรกี ต่างประเทศ นายกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี นาโต ประเทศไทย ปาเลสไตน์ ปูติน ฝรั่งเศส พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยุโรป ยูเครน รัสเซีย ศาลรัฐธรรมนูญ สงคราม สหรัฐ สหรัฐอเมริกา สหรัฐฯ สำนักข่าวต่างประเทศ อังกฤษ อาเซียน อินโดนีเซีย อิรัก อิสราเอล อิสลาม อิหร่าน อเมริกา เกาหลีใต้ เซเลนสกี เมียนมา เยเมน โควิด โอมิครอน ในประเทศ ไต้หวัน ไทย ไบเดน

POPULAR NEWS

  • ประธานาธิบดียูเครน

    ประธานาธิบดียูเครน พ้อชาติตะวันตกและนาโต้ ปล่อยให้ยูเครนสู้อย่างเดียวดาย

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • ทำความรู้จัก กองพันนีโอนาซีของยูเครน กัน

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • แหล่งข่าวซีเรีย แฉ สหรัฐฯปล่อยนักโทษไอซิสจากซีเรียไปร่วมสู้รบในยูเครน

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • ด่วน! กองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน แถลงการณ์ยอมรับอยู่เบื้องหลังการโจมตีฐานที่มั่นของมอสสาดของอิสราเอลในอิรัก

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • ประวัติวันลอยกระทง กับวิถีใหม่ของประเพณีเก่า

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
Burapanews

Burapa news ขอเป็นทางเลือกใหม่ในการเข้าถึงข่าวสาร ทั่วโลก จากสำนักข่าวในประเทศและต่างประเทศ ที่เชื่อถือได้

Follow us on social media:

ข่าวล่าสุด

  • ก็คอยสิจ๊ะ นายกฯ บอกให้รอประกาศราชกิจจาฯ ยุบสภา
  • ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามชี้ การวางยาบรรดานักเรียน ถือเป็นอาชญากรรมที่ไม่อาจให้อภัย
  • ครม. ไฟเขียวลงนามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไทย-รัสเซียแล้ว เงื่อนไขเป็นความผิดโทษจำคุกเกินกว่า 1 ปี ถึงส่งตัวได้

ข่าวล่าสุด

‘ก็คอยสิจ๊ะ’ นายกฯประยุทธ์

ก็คอยสิจ๊ะ นายกฯ บอกให้รอประกาศราชกิจจาฯ ยุบสภา

มีนาคม 20, 2023
ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามชี้

ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามชี้ การวางยาบรรดานักเรียน ถือเป็นอาชญากรรมที่ไม่อาจให้อภัย

มีนาคม 20, 2023
No Result
View All Result
  • หน้าหลัก
  • ในประเทศ
  • ต่างประเทศ
    • ตะวันออกกลาง
    • ยูโรป
    • ลาตินอเมริกา
    • สหรัฐ
    • เอเชียแปซิฟิก
    • แอฟริกา
  • เทคโนโลยี
  • กีฬา
  • วิเคราะห์ข่าว
  • ไลฟ์สไตล์