Burapanews
  • หน้าหลัก
  • ในประเทศ
  • ต่างประเทศ
    • ตะวันออกกลาง
    • ยูโรป
    • ลาตินอเมริกา
    • สหรัฐ
    • เอเชียแปซิฟิก
    • แอฟริกา
  • เทคโนโลยี
  • กีฬา
  • วิเคราะห์ข่าว
  • ไลฟ์สไตล์
No Result
View All Result
Burapanews
Home ต่างประเทศ

นักวิเคราะห์มองว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ อาจทำให้สถานภาพความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน-ไต้หวัน เปลี่ยนแปลงไป

กันยายน 10, 2022
in ต่างประเทศ, เอเชียแปซิฟิก
0
0
SHARES
1
VIEWS
Share on FacebookShare on Twitter

นักวิเคราะห์มองว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ อาจทำให้สถานภาพความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน-ไต้หวัน เปลี่ยนแปลงไป

 

Related posts

ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามชี้

ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามชี้ การวางยาบรรดานักเรียน ถือเป็นอาชญากรรมที่ไม่อาจให้อภัย

มีนาคม 20, 2023
ครม. ไฟเขียวลงนามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไทย-รัสเซียแล้ว

ครม. ไฟเขียวลงนามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไทย-รัสเซียแล้ว เงื่อนไขเป็นความผิดโทษจำคุกเกินกว่า 1 ปี ถึงส่งตัวได้

มีนาคม 20, 2023

นักวิเคราะห์มองว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ อาจทำให้สถานภาพความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน-ไต้หวัน เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งผลที่ตามมาอาจกระทบภูมิทัศน์การเมืองโลก และนโยบายของหลายประเทศที่มีต่อจีนและไต้หวัน



ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น บทความนี้จะอธิบายหนึ่งในความสัมพันธ์สามเส้าที่มีความซับซ้อน และอ่อนไหวมากที่สุดในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ



ในช่วงที่เกิดสงครามกลางเมืองในจีนและสงครามเย็นช่วงแรก (ปี 1945-1949) สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนรัฐบาลชาตินิยมที่นำโดย ก๊กมินตั๋ง (กั๋วหมินตั่ง) ส่วนสหภาพโซเวียตหนุนหลังพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งต่อมาสามารถปกครองจีนแผ่นดินใหญ่ได้ทั้งหมด และประกาศสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นในปี 1949


ก๊กมินตั๋งลี้ภัยหนีไปตั้งรัฐบาลที่เกาะไต้หวัน หลังแพ้คอมมิวนิสต์ในสงครามกลางเมือง สหรัฐฯ ยังให้การสนับสนุนก๊กมินตั๋งต่อไป โดยให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาต่างๆ เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจของตนเอง


แต่ในช่วงที่จีนและโซเวียตเกิดความขัดแย้งทางการทูตในช่วงทศวรรษ 1960 ได้เปิดโอกาสให้สหรัฐฯ หันมาเป็นมิตรกับจีนมากขึ้น โดยในปี 1971 เกิดการทูตปิงปองที่โด่งดังขึ้น ซึ่งเป็นการแข่งขันเทเบิลเทนนิสระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ญี่ปุ่น ก่อนกรุยทางสู่การเยือนปักกิ่งของประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ในปี 1972 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน


ปี 1979 สหรัฐฯ ตัดสินใจสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนอย่างเป็นทางการ จากเดิมที่ให้การยอมรับไต้หวัน


เกิด ‘นโยบายจีนเดียว’ (One China Policy) ขึ้น ซึ่งเป็นพันธกรณีที่สหรัฐฯ จะต้องยอมรับว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลจีนหนึ่งเดียวที่ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ยังยอมรับว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ไม่เคยประกาศรับรองว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีอำนาจอธิปไตยเหนือเกาะไต้หวัน


แม้สหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนในระดับทางการ แต่สหรัฐฯ ก็ยังคงรักษาความสัมพันธ์ในระดับไม่เป็นทางการกับไต้หวันเสมอมา ภายใต้กฎหมายความสัมพันธ์กับไต้หวัน (Taiwan Relations Act) ซึ่งเปิดทางให้มีการค้าขาย และแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและอื่นๆ ผ่านทางสถาบันอเมริกาในไต้หวัน (ซึ่งในทางพฤตินัยแล้วทำหน้าที่เป็นสถานทูตสหรัฐฯ ในไทเป)


ตลอดเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดถือหลักนโยบาย ‘ความคลุมเครือเชิงกลยุทธ์’ (Strategic Ambiguity) ซึ่งก็คือการรักษาความสัมพันธ์กับไต้หวันในระดับที่ไม่เป็นทางการ ภายใต้กฎหมายที่มีข้อผูกพันให้รัฐบาลสามารถจัดหาอาวุธเชิงรับให้ไต้หวันเพื่อป้องกันประเทศ แต่ก็มีนโยบายที่คลุมเครือว่าสหรัฐฯ จะเข้าปกป้องไต้หวันหากจีนใช้กำลังทหารรุกรานหรือไม่


อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ โจ ไบเดน ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน บรรดาผู้สังเกตการณ์มองว่า นโยบาย Strategic Ambiguity ที่มีต่อไต้หวันนั้นเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่คลุมเครือน้อยลงกล่าวคือไบเดนพูดย้ำรวม 3 ครั้งว่า สหรัฐฯ จะแทรกแซงทางทหาร หากจีนโจมตีไต้หวัน แม้ว่าทำเนียบขาวจะออกมาปฏิเสธคำพูดของไบเดนทุกครั้งก็ตาม


สหรัฐฯ มองว่านโยบายที่มีความคลุมเครือนั้นมีประโยชน์ คือด้านหนึ่งสามารถป้องปรามไม่ให้จีนใช้กำลังกับไต้หวัน เพราะจีนจะเกิดความหวาดระแวงว่าสหรัฐฯ อาจตอบโต้ด้วยมาตรการทางทหาร ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็ป้องกันไม่ให้ไต้หวันประกาศเอกราชทันที เพราะไม่ได้ให้หลักประกันแก่ไต้หวันว่าจะร่วมรบ หรือสรุปง่ายๆ ก็คือ นโยบาย Strategic Ambiguity มีเป้าหมายเพื่อรักษาสถานภาพเดิมเอาไว้ (Status Quo) และป้องกันไม่ให้เกิดสงครามขึ้นในเอเชีย
การเยือนไต้หวันของ แนนซี เพโลซี ซึ่งเป็นการเยือนของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ครั้งแรกในรอบ 25 ปีนั้น ทำให้สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันตึงเครียดขึ้น และทำให้ทำเนียบขาวเกิดความลำบากใจ เพราะวอชิงตันเองก็ไม่ต้องการบาดหมางกับปักกิ่งในช่วงเวลาที่อ่อนไหวนี้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไบเดนย้ำว่าเพโลซีมีสิทธิเยือนประเทศหรือดินแดนใดก็ได้ ขณะที่เพโลซีย้ำว่า การเยือนไต้หวันครั้งนี้มีขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นพันธกรณีที่รัฐบาลสหรัฐฯ มีต่อไต้หวัน ในยามที่ไต้หวันกำลังถูกจีนคุกคามอย่างหนัก


สำหรับจีนนั้นมองไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาตลอด และเคยประกาศอย่างชัดเจนหลายครั้ง โดยเฉพาะในยุคสมัยของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงว่า จีนจะใช้กำลังทางทหารกับไต้หวันหากจำเป็น ซึ่งหมายถึงการประกาศแยกตัวเป็นเอกราชอย่างเป็นทางการ
ส่วนไต้หวันมองตนเองว่าเป็นประเทศที่มีอธิปไตย มีรัฐบาลปกครองตนเองมาตั้งแต่หลังสิ้นสุดสงครามกลางเมือง ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งกับไทเปมีลักษณะลุ่มๆ ดอนๆ มาตลอด โดยบรรยากาศมีทั้งผ่อนคลายและตึงเครียดตามนโยบายพรรคการเมืองที่ขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาล แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่พรรคหมินจิ้นตั่งของไช่อิงเหวินขึ้นปกครองไต้หวันในปี 2016 รัฐบาลของเธอมีนโยบายแข็งกร้าวต่อปักกิ่งเรื่อยมา

จนเกิดความตึงเครียดขึ้นบ่อยครั้ง


หากสถานภาพที่เป็นอยู่ (Status Quo) เป็นเช่นเดิมต่อไป จีนกับไต้หวันก็ยังมีการค้าขายแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมตามปกติ และดูเหมือนว่าจีนจะพอใจกับสถานภาพเช่นนี้ ตราบใดที่ไต้หวันไม่คิดประกาศแยกตัวเป็นเอกราชอย่างเป็นทางการ

Previous Post

คฤหาสน์มาราลาโก ในรัฐฟลอริดาของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ โดน FBI

Next Post

นายรัสเซลล์ แบรนด์ นักแสดงตลกชื่อดังชาวอังกฤษ เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านทาง YouTube ซึ่งเป็นคลิปการสนทนากับนายโนม ชอมสกี

Next Post

นายรัสเซลล์ แบรนด์ นักแสดงตลกชื่อดังชาวอังกฤษ เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านทาง YouTube ซึ่งเป็นคลิปการสนทนากับนายโนม ชอมสกี

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

RECOMMENDED NEWS

ประธานาธิบดีบราซิลที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งคนใหม่ถูกบีบให้ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตสหพันธ์บราซิเลีย

1 เดือน ago
เปิดเอกสารนับหมื่น

เปิดเอกสารนับหมื่น กรณีเหตุลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ.เคนเนดี ปี 1963

3 เดือน ago

สหรัฐฯ จะแถลงแพกเกจใหม่ส่งมอบอาวุธและยุทโธปกรณ์แก่ยูเครนเพิ่มเติม เพื่อช่วยเคียฟสู้รบกับรัสเซีย

9 เดือน ago
ซิโนฟาร์ม

ผลการวิจัย เผยว่า ซิโนฟาร์ม เป็นวัคซีนต้านโควิดที่มีประสิทธิภาพมากถึง 79%

1 ปี ago

BROWSE BY CATEGORIES

  • Uncategorized
  • กีฬา
  • ตะวันออกกลาง
  • ต่างประเทศ
  • ท่องเที่ยว
  • ยูโรป
  • ลาตินอเมริกา
  • วิเคราะห์ข่าว
  • สหรัฐ
  • สุขภาพ
  • เทคโนโลยี
  • เอเชียแปซิฟิก
  • แอฟริกา
  • ในประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์

BROWSE BY TOPICS

Burapanews การเมือง ขีปนาวุธ จีน ซาอุดีอาระเบีย ซีเรีย ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง ตุรกี ต่างประเทศ นายกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี นาโต ประเทศไทย ปาเลสไตน์ ปูติน ฝรั่งเศส พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยุโรป ยูเครน รัสเซีย ศาลรัฐธรรมนูญ สงคราม สหรัฐ สหรัฐอเมริกา สหรัฐฯ สำนักข่าวต่างประเทศ อังกฤษ อาเซียน อินโดนีเซีย อิรัก อิสราเอล อิสลาม อิหร่าน อเมริกา เกาหลีใต้ เซเลนสกี เมียนมา เยเมน โควิด โอมิครอน ในประเทศ ไต้หวัน ไทย ไบเดน

POPULAR NEWS

  • ประธานาธิบดียูเครน

    ประธานาธิบดียูเครน พ้อชาติตะวันตกและนาโต้ ปล่อยให้ยูเครนสู้อย่างเดียวดาย

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • ทำความรู้จัก กองพันนีโอนาซีของยูเครน กัน

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • แหล่งข่าวซีเรีย แฉ สหรัฐฯปล่อยนักโทษไอซิสจากซีเรียไปร่วมสู้รบในยูเครน

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • ด่วน! กองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน แถลงการณ์ยอมรับอยู่เบื้องหลังการโจมตีฐานที่มั่นของมอสสาดของอิสราเอลในอิรัก

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
  • ประวัติวันลอยกระทง กับวิถีใหม่ของประเพณีเก่า

    0 shares
    Share 0 Tweet 0
Burapanews

Burapa news ขอเป็นทางเลือกใหม่ในการเข้าถึงข่าวสาร ทั่วโลก จากสำนักข่าวในประเทศและต่างประเทศ ที่เชื่อถือได้

Follow us on social media:

ข่าวล่าสุด

  • ก็คอยสิจ๊ะ นายกฯ บอกให้รอประกาศราชกิจจาฯ ยุบสภา
  • ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามชี้ การวางยาบรรดานักเรียน ถือเป็นอาชญากรรมที่ไม่อาจให้อภัย
  • ครม. ไฟเขียวลงนามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนไทย-รัสเซียแล้ว เงื่อนไขเป็นความผิดโทษจำคุกเกินกว่า 1 ปี ถึงส่งตัวได้

ข่าวล่าสุด

‘ก็คอยสิจ๊ะ’ นายกฯประยุทธ์

ก็คอยสิจ๊ะ นายกฯ บอกให้รอประกาศราชกิจจาฯ ยุบสภา

มีนาคม 20, 2023
ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามชี้

ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามชี้ การวางยาบรรดานักเรียน ถือเป็นอาชญากรรมที่ไม่อาจให้อภัย

มีนาคม 20, 2023
No Result
View All Result
  • หน้าหลัก
  • ในประเทศ
  • ต่างประเทศ
    • ตะวันออกกลาง
    • ยูโรป
    • ลาตินอเมริกา
    • สหรัฐ
    • เอเชียแปซิฟิก
    • แอฟริกา
  • เทคโนโลยี
  • กีฬา
  • วิเคราะห์ข่าว
  • ไลฟ์สไตล์