น้ำท่วมถล่มอินเดีย-บังกลาเทศ คร่าชีวิต 59 ราย ส่งผลกระทบกับผู้คนหลายล้านคน

Related posts

กองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยง KNLA ผนึกกำลังโจมตีค่ายทหารเมียนมา

มีนาคม 25, 2023

ทนายนกเขา เชื่อผู้นำจีนจ่อผงาดเป็นบุคคลเบอร์หนึ่งโลกแทนที่สหรัฐ

มีนาคม 25, 2023

น้ำท่วมถล่มอินเดีย-บังกลาเทศ คร่าชีวิต 59 ราย ส่งผลกระทบกับผู้คนหลายล้านคน

Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า มรสุมที่พัดถล่มอินเดียและบังกลาเทศทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 59 ราย และผู้คนอีกหลายล้านคนต้องติดอยู่ในบ้านที่ถูกน้ำท่วม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกกำลังเพิ่มความรุนแรง ความถี่ และการคาดเดาไม่ได้ของฤดูมรสุมที่มักจะทำให้เกิดผลกระทบรุนแรงกับชีวิตของผู้คนในพื้นที่ดังกล่าวมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว น้ำท่วมหนัก

ฝนที่ตกลงอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้เกิดน้ำท่วมกินวงกว้างในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบังกลาเทศ ขณะที่กองทัพได้ส่งกำลังทหารเข้าไปช่วยอพยพชาวบ้านที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเนื่องจากน้ำท่วมขัง

โรงเรียนถูกเปลี่ยนเป็นที่พักพิงเพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม หลายหมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ำ ชาวบ้านต้องปีนขึ้นไปรอความช่วยเหลืออยู่บนหลังคาบ้านของตนเองโดยไม่มีอาหารตกถึงท้องมาหลายวันก่อนที่ความช่วยเหลือจะไปถึง บางคนถึงกับบอกว่าไม่เคยเห็นน้ำท่วมเช่นนี้มาก่อนในชีวิต

ผู้เสียชีวิตทั้งในบังกลาเทศและอินเดีย 59 รายล้วนเกิดขึ้นจากผลกระทบของฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ซึ่งทำให้เกิดดินถล่มและน้ำท่วมขัง แม่น้ำหลายสายเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและถนน หลังฝนตกหนักต่อเนื่องกันถึง 5 วัน
รายงานข่าวระบุว่า แค่เพียงในรัฐอัสสัมของอินเดียแห่งเดียว มีประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมากกว่า 2.6 ล้านคน ขณะที่มุขมนตรีรัฐอัสสัมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ

ด้านบังกลาเทศ ผู้บริการของภูมิภาคสิเลฎบอกว่า สถานการณ์เลวร้ายอย่างมาก มีผู้คนมากกว่า 4 ล้านคนที่ต้องเผชิญกับน้ำท่วม และเกือบทั่วทั้งภูมิภาคยังไม่มีไฟฟ้าใช้อีกด้วย น้ำที่ท่วมสูงยังทำให้สนามบินนานาชาติในสิเลฎ ซึ่งเป็นสนามบินที่ใหญ่เป็นลำดับ 3 ของบังกลาเทศต้องปิดทำการ และระดับน้ำในเมืองเอกของสิเลฎก็สูงถึงเอว ทำให้มีรถจมอยู่ใต้น้ำเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ คาดว่าสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงอีกใน 2 วันข้างหน้า เนื่องจากยังคงจะมีฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่อง ภูมิภาคสิเลฎยังคงอยู่ระหว่างความพยายามที่จะฟื้นตัวจากอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปีเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย และประชาชนอีก 4 ล้านคนได้รับผลกระทบ