กองทัพรัสเซีย ใช้การโจมตีทางอากาศและขีปนาวุธ ทำให้บางพื้นที่ในยูเครน มีพลเรือนเสียชีวิต
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา สำนักข่าว The Washington Post พาดหัวข่าวว่า “Russia has killed civilians in Ukraine. Kyiv’s defense tactics add to the danger.” โดยรายงานว่า กองทัพรัสเซียใช้การโจมตีทางอากาศและขีปนาวุธ ทำให้บางพื้นที่ในยูเครน มีพลเรือนเสียชีวิต
แต่สื่อมวลชน นักสิทธิมนุษยชน และนักวิชาการ ต่างก็ยอมรับว่า สาเหตุที่พลเรือนถูกลูกหลงเสียชีวิตนั้น มาจากการที่กองทัพยูเครน วางจุดยุทธศาสตร์ทางทหาร ในพื้นที่เขตชุมชนที่ไม่ได้มีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่
ขีปนาวุธที่คาดว่าน่าจะมาจากกองทัพรัสเซีย สร้างความเสียหายต่ออพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในกรุงเคียฟ ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 4 คน ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในหลายตัวอย่างที่ พลเรือนชาวยูเครนเสียชีวิตจากการโจมตีของกองทัพรัสเซีย โดยนายโอเล็กซี กอนชาเรนโก (Oleksii Goncharenko) ส.ส.ยูเครนได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ แล้วให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า “พวกเขา (กองทัพรัสเซีย) โจมตีที่อยู่อาคารบ้านเรือนมาโดยตลอด ซึ่งถ้าคุณเดินรอบ ๆ บริเวณนี้ คุณจะไม่เห็นเลยว่ามีทหารหรือเป้าหมายทางทหารในบริเวณนี้”
แต่เพียงไม่กี่นาทีหลังการให้สัมภาษณ์ ก็มีเสียงเครื่องยิงขีปนาวุธปล่อยจรวดหลายลูก ในบริเวณใกล้กับอพาร์ตเมนต์ที่คาดว่าโดนขีปนาวุธจากรัสเซีย จึงทำให้เห็นว่ามีการติดตั้งเครื่องยิงขีปนาวุธของกองทัพยูเครน ในบริเวณใกล้กับอพาร์ตเมนต์ ซึ่งขัดแย้งกับคำพูดของส.ส.โอเล็กซี กอนชาเรนโก ที่บอกว่าไม่มีกองทัพยูเครนในบริเวณรอบอพาร์ตเมนต์
สำนักข่าว The Washington Post ระบุว่า แม้ว่ากองทัพยูเครนจะขอความร่วมมือ ไม่ให้ถ่ายรูปจุดยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ของกองทัพยูเครน เพื่อปกป้องความลับทางทหารไม่ให้ฝ่ายรัสเซียล่วงรู้ ซึ่งทางกองทัพยูเครนได้วางจุดยุทธศาสตร์ทางทหาร เพื่อปกป้องกรุงเคียฟอย่างเต็มกำลัง แต่พื้นที่ที่มีการตั้งบังเกอร์ และพื้นที่ที่มีการติดตั้งอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก กลับเป็นเขตพื้นที่ชุมชน ซึ่งมีชาวบ้านอาศัยอยู่ในบริเวณนั้นด้วย แล้วตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวก็พบว่า มีการติดตั้งจรวดขีปนาวุธต่อต้านรถถัง ปืนต่อต้านอากาศยาน และรถหุ้มเกราะของกองทัพยูเครน อยู่ใกล้กับอพาร์ตเมนต์และในบริเวณเขตชุมชน
แม้ว่าทางการยูเครนและสื่อตะวันตก จะพยายามลงพื้นที่สงคราม ภายหลังการโจมตีทางอากาศและขีปนาวุธจากกองทัพรัสเซีย เพื่อรวบรวมภาพหลักฐานเอาผิดรัฐบาลรัสเซีย ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม แต่นายริชาร์ด เวียร์ (Richard Weir) นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน และนักวิจัยด้านวิกฤตและความขัดแย้ง จากองค์กร Human Rights Watch (HRW) ชี้ว่า รัสเซียไม่สามารถทำสงครามได้ตามใจชอบ แต่การที่กองทัพยูเครนวางจุดยุทธศาสตร์ทางทหารใกล้กับเขตชุมชนแบบนี้ กลับจะเป็นอุปสรรคต่อการเอาผิดกับรัสเซีย ข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม
นักเคลื่อนไหว HRW ยังระบุอีกด้วยว่า กองทัพยูเครนมีหน้าที่ต้องเคลื่อนย้ายกำลังพลและอุปกรณ์ให้อยู่ห่างจากเขตชุมชนที่มีพลเรือนอาศัยอยู่ หรือจะใช้อีกวิธีหนึ่งก็คือ กองทัพยูเครนต้องอพยพพลเรือนทั้งหมดออกจากพื้นที่ที่กองทัพยูเครนจะใช้เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางทหาร ซึ่งถ้าไม่สามารถปฏิบัติตามวิธีใดวิธีหนึ่ง แล้วนำไปสู่การสูญเสียชีวิตของพลเรือน ก็จะเข้าข่ายผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ว่าด้วยกฎหมายสงคราม (a violation of the laws of war)
ส่วนนายวิลเลียม ชาบัส (William Schabas) อาจารย์ชาวแคนาดา จากคณะกฎหมายระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยมิดเดิลเซ็กซ์ กรุงลอนดอน ให้ความเห็นว่า เขาไม่อยากฟันธงว่ายูเครนต้องรับผิดชอบกับการสูญเสียชีวิตของพลเรือน เพราะยูเครนกำลังสู้รบเพื่อปกป้องประเทศจากผู้รุกราน แต่การที่ยูเครนเอาสนามรบมาตั้งไว้ในเขตชุมชนเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้พลเรือนตกอยู่ในอันตรายเป็นอย่างมาก ซึ่งยูเครนไม่ควรเอาเขตชุมชนมาใช้เป็น “โล่มนุษย์” เป็นอันขาด แต่ทั้งนี้ นายวิลเลียม ชาบัส ไม่เชื่อว่า ยูเครนจะกระทำการเช่นนั้น
แต่สำหรับนายแอนดรีย์ โกวัลยอฟ (Andriy Kovalyov) โฆษกกองพันรักษาดินแดนที่ 112 กล่าวว่าเขาไม่สนใจที่สื่อมวลชน The Washington Post ถามถึงประเด็นการตั้งจุดยุทธศาสตร์การทหารในเขตชุมชน ซึ่งนายแอนดรีย์ โกวัลยอฟ ให้สัมภาษณ์เพื่อโต้ตอบในประเด็นนี้ว่า “ถ้าเราทำตามตรรกะที่คุณว่ามา เราก็ไม่ควรปกป้องเมืองหลวงของเราเลยงั้นสินะ”
ทางด้านของนายโอเลกซีย์ อาเรสโตวิช (Oleksiy Arestovych) ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ โดยชี้แจงว่า รัฐสภายูเครนได้อนุมัติให้กองทัพยูเครนใช้มาตรการด้านการทหารทั้งหมด เพื่อปกป้องประเทศจากการรุกรานของรัสเซีย เพราะรัสเซียไม่เคารพอธิปไตยของยูเครน และรัสเซียต้องการทำลายชาติยูเครน ดังนั้นกฎหมายระหว่างประเทศที่ว่ามานั้น ใช้ไม่ได้กับสงครามในครั้งนี้ เพราะยูเครนต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องบ้านเกิดและปกป้องอิสรภาพ
แหล่งข่าว
No Result
View All Result