ปูติน ประณามเหตุกราดยิงงานคอนเสริต คร่าชีวิต 133 ราย บาดเจ็บกว่า 140 คน
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ได้แถลงสดผ่านโทรทัศน์เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มีค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุกราดยิงในงานแสดงคอนเสิร์ตที่โครคัส ซิตี้ ฮอล ทางตะวันตกของกรุงมอสโกว เมื่อช่วงค่ำของคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยปูตินได้ประณามเหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นว่า “เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน” พร้อมให้คำมั่นจะไล่ล่าหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังทุกคน มาลงโทษให้ได้
ผู้นำรัสเซียเผยด้วยว่า ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 11 คน รวมทั้งมือปืน 4 คน ที่บุกเข้าไปก่อเหตุกราดยิงผู้คน และจุดไฟเผาอาคาร ขณะประชาชนหลายพันคนกำลังนั่งชมคอนเสิร์ต ทั้งนี้ ปูตินกล่าวว่า หลังก่อเหตุ มือปืนทั้ง 4 ได้หลบหนีไปทางยูเครน โดยข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่า พรมแดนที่ยูเครน ได้เตรียมพร้อมเปิดรับคนร้ายเข้าประเทศ แต่ทั้งหมดถูกจับกุมได้ทันท่วงที ที่บริเวณพรมแดน ก่อนที่จะถูกส่งตัวกลับมายังมอสโกว
นอกจากนี้ ปูตินยังประกาศให้มีการไว้อาลัยทั่วประเทศ ในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม เพื่อรำลึกถึงเหยื่อผู้เสียชีวิต พร้อมกันนี้ยังได้สั่งยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่สนามบินต่างๆ, ศูนย์กลางขนส่ง และพื้นที่สำคัญทั่วกรุงมอสโกว และพื้นที่โดยรอบ รวมทั้งสั่งยกเลิกงานอีเวนต์ใหญ่ๆ ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันเหตุซ้ำ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด พุ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 133 คน บาดเจ็บกว่า 140 คน
หลังเกิดเหตุ กลุ่มไอซิส ออกมาอ้างว่า เป็นผู้ก่อเหตุ แต่ดูเหมือนว่า ทางรัสเซียกำลังมองหาความเชื่อมโยงกับยูเครน โดยเจ้าหน้าที่ความมั่นคง FSB ของรัสเซีย กล่าวว่า กลุ่มมือปืนมีคนรู้จักในยูเครน และถูกจับได้ที่พรมแดนยูเครน ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน ออกมาแถลงปฏิเสธข้อกล่าวหา ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้าย พร้อมกล่าวหาปูตินว่า พยายามบิดเบือน และยัดเยียดความผิดให้ยูเครน
ขณะที่นายมิไคโล โพโดลยัก หนึ่งในที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า การที่รัฐบาลมอสโกกล่าวหาว่า ยูเครนมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น “ไร้สาระอย่างสิ้นเชิง” ข้อมูลข่าวกรองของรัฐบาลเคียฟอ้างว่า เหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งนี้ “เกิดขึ้นโดยเจตนา” เนื่องจากเป็นการวางแผนเอง โดยหน่วยข่าวกรองของรัสเซีย ตามคำสั่งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน
ด้านชาวรัสเซียในหลายเมืองทั่วประเทศ ต่างออกมาร่วมบริจาคเลือด และนำดอกไม้มาวางไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิต ขณะที่ทั่วโลกต่างออกมาแสดงความเสียใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้นำตุรกี, สหรัฐ, ยุโรป, อาหรับและประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ด้านคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นออกมาประณามเหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
No Result
View All Result