จีน ประณามร่างกฎหมายแบนติ๊กต๊อกของสหรัฐ ลั่น จะย้อนกลับมาทำร้ายสหรัฐเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Related posts

ไบเดน ชี้ สหรัฐฯ ไม่สนับสนุนอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้อิหร่าน

ตุลาคม 3, 2024

กระทรวงการต่างประเทศเตือน! คนไทย หากไม่จำเป็นขอให้เดินทางออกจากอิสราเอล

ตุลาคม 2, 2024

จีน ประณามร่างกฎหมายแบนติ๊กต๊อกของสหรัฐ ลั่นจะย้อนกลับมาทำร้ายสหรัฐเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกมาประณามร่างกฎหมายแบนติ๊กต๊อก (TikTok) โดยระบุว่า “สหรัฐไม่เคยพบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าติ๊กต๊อกคุกคามความมั่นคงของชาติ แต่สหรัฐก็ไม่เคยหยุดปราบปรามติ๊กต๊อก”

“พฤติกรรมการกลั่นแกล้งดังกล่าวเพราะไม่สามารถเอาชนะในการแข่งขันที่เป็นธรรมได้ ถือเป็นการขัดขวางการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัทต่าง ๆ ทั้งยังบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อสภาพแวดล้อมการลงทุน ตลอดจนเป็นอันตรายต่อระเบียบเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ”

“ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งนี้จะย้อนกลับมาทำร้ายสหรัฐเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” นายหวังกล่าวทิ้งท้าย

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มีกำหนดลงมติในร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยร่างกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ขายแพลตฟอร์มติ๊กต๊อกภายในระยะเวลา 6 เดือน และไบต์แดนซ์อาจถูกแบนหากไม่ปฏิบัติตาม

มีการคาดการณ์ว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อาจผ่านร่างกฎหมายนี้ในวันพุธ ว่า ด้วยการบังคับให้สื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมอย่างติ๊กตอก (TikTok) แยกตัวจากบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กตอก หรือเลือกจะขายซอฟต์แวร์ในเวอร์ชันเฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น

ไมค์ กัลลาเกอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันรัฐวิสคอนซิน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการด้านการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และพรรคคอมมิวนิสต์จีน และราชา กฤษณะมูรตี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครต ที่เป็นคณะกรรมาธิการระดับสูงในด้านนี้ ออกแถลงการณ์ร่วมระบุว่า ร่างกฎหมายในชื่อ Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act จะให้เวลาติ๊กตอก 6 เดือนในการจำกัดการควบคุมจากต่างชาติ – ซึ่งอาจรวมถึงการแยกตัวจากบริษัทไบต์แดนซ์ เพื่อให้ได้ดำเนินกิจการต่อไปในสหรัฐฯ ไม่เช่นนั้นแอปพลิเคชันนี้จะหายไปจากตลาดอเมริกันทันที

ร่างกฎหมายนี้ได้รับสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ที่ระบุว่า ได้รับแจ้งจากชาวอเมริกันเป็นจำนวนมากว่าไม่สามารถเข้าถึงแอปฯ ดังกล่าวได้