ผู้อำนวยการสำนักงานการเมืองฮามาส พร้อมคณะ เข้าพบผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม
“การเข้าร่วมของเยาวชนปาเลสไตน์ในสนามแห่งการต่อสู้ เป็นการแจ้งข่าวดีถึงอนาคตอันสดใส”
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายอิสมาอีล ฮะนีเยห์ ผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายการเมืองของฮามาส พร้อมคณะ เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำได้ชี้ให้เห็นถึงการขับเคลื่อนไปข้างหน้าของประเด็นปาเลสไตน์ ความรู้สึกรับผิดชอบต่อหน้าที่ของบรรดาเยาวชนชาวปาเลสไตน์ ผู้ศรัทธามั่นและการเข้าร่วมของส่วนบุคคลและส่วนรวมของพวกเขาในสนามแห่งการต่อสู้ เป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมาก โดยท่านได้เน้นย้ำว่า “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองเจนิน เมื่อหลายวันที่ผ่านมา และการปิดล้อมกองกำลังรัฐเถื่อนไซออนิสต์ โดยบรรดาเยาวชนชาวปาเลสไตน์ ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของฉากแห่งการต่อสู้ครั้งใหม่นี้และเป็นการแจ้งข่าวดีถึงอนาคตอันสดใส พร้อมด้วยชัยชนะอย่างสมบูรณ์”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นย้ำให้เห็นว่า ปัญหาปาเลสไตน์ เป็นหัวใจของปัญหาของโลกอิสลาม และประชาชาติอิสลาม โดยท่านกล่าวว่า “เมื่อมีความคืบหน้าอย่างมากเท่าใดก็ตามในปัญหาปาเลสไตน์ ปัญหาต่างๆของประชาชาติอิสลามก็จะมีความคืบหน้าอีกด้วยเช่นกัน”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนในสถานการณ์ต่างๆของปาเลสไตน์ เมื่อเปรียบเทียบกับ 2 หรือ 3 ปีที่ผ่านมา โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “สาเหตุหลักของการยุติปัญหาของปาเลสไตน์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คือ การขาดการมีส่วนร่วมของบรรดาเยาวชนในภาคสนาม แต่ทว่า ในปัจจุบันนี้ บรรดาเยาวชน ได้เข้าร่วมในภาคสนามด้วยความสมัครใจ และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ พวกเขาอยู่ในหลักการของศาสนาอิสลาม”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้เน้นย้ำให้เห็นถึงประเด็นเอกภาพและการปรองดองกันในระหว่างกลุ่มต่างๆของการยืนหยัดต่อสู้ (มุกอวิมัต)โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “การต่อสู้ครั้งล่าสุดในเขตฉนวนกาซ่า เราได้เห็นถึงความพยายามของศัตรูสำหรับการสร้างความขัดแย้งและการแบ่งออกเป็นสองฝ่ายระหว่างกลุ่มมุกอวิมัตต่างๆและการชักนำให้เกิดบรรยากาศเช่นนี้ ซึ่งด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้า ทำให้พวกเหล่านั้นไม่ประสบผลสำเร็จ ด้วยเหตุนี้เอง เราจะต้องให้ความสำคัญอย่างมากในประเด็นเอกภาพและความปรองดองกัน และเราจะต้องดำเนินตามเส้นทางที่ถูกต้องนี้อย่างต่อเนื่องด้วยการมีอำนาจที่แท้จริง”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ฉนวนกาซ่า เป็นศูนย์กลางของการยืนหยัดต่อสู้ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “จุดที่ทำให้ศัตรูต้องยอมคุกเข่า คือ เขตเวสต์แบงก์ และพื้นที่นี้ในปัจจุบันก็มีความก้าวหน้าอย่างดีมากทีเดียว”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า “จะมีผู้ใดคาดคิดว่าในวันหนึ่ง บรรดาเยาวชนชาวปาเลสไตน์ในเมืองเจนินจะทำการปิดล้อมกองกำลังรัฐเถื่อนไซออนิสต์ได้อย่างมาก จนพวกเหล่านั้นจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องบินรบเพื่อหลบหนีออกจากการปิดล้อมของบรรดาเยาวชน นักต่อสู้ แต่สิ่งนี้ได้เกิดขึ้นแล้วในเมืองเจนิน เมื่อหลายวันที่ผ่านมา”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การโฆษณาชวนเชื่อระหว่างประเทศ เป็นประโยชน์กับประชาชนชาวปาเลสไตน์ แม้ว่าจะมีแรงกดดันต่างๆก็ตาม โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ในวันอัลกุดส์ของปีนี้ นอกเหนือจากประเทศอิสลามแล้ว ยังมีการเดินขบวน แม้กระทั่งในประเทศแถบยุโรป และชาวยุโรปก็แสดงออกถึงการต่อต้านระบอบรัฐเถื่อนไซออนิสต์ ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งและควรจะทำให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นอีกด้วย”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นย้ำให้เห็นถึงการสนับสนุนของสาธารณรัฐอิสลามในปัญหาปาเลสไตน์ โดยท่านกล่าวว่า “อิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ได้สนับสนุนปาเลสไตน์ มาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของขบวนการอิสลามบนพื้นฐานความศรัทธาและความเชื่อ และบนพื้นฐานการสนับสนุนของสาธารณรัฐอิสลาม ที่เกิดขึ้นมาจากหลักนิติศาสตร์อิสลามและหลักชะรีอะฮ์อิสลาม ไม่ใช่เป็นการขับเคลื่อนด้วยยุทธวิธีหรือการทูต”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า “ดินแดนปาเลสไตน์นั้นเป็นของชาวมุสลิมทุกคน ดังนั้น จึงถือเป็นข้อบังคับสำหรับชาวมุสลิมทุกคนที่จะต้องเข้าร่วมในภาคสนามเพื่อการปลดปล่อย และนี่คือ หน้าที่ทางหลักศาสนบัญญัติ”
ในการพบปะกันครั้งนี้ นายอิสมาอีล ฮานีเยห์ ผู้อำนวยสำนักงานฝ่ายการเมืองของฮามาส ได้กล่าวขอบคุณสาธารณรัฐอิสลามสำหรับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในปัญหาปาเลสไตน์ และนำเสนอรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ความเคลื่อนไหวล่าสุดในดินแดนยึดครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเวสต์แบงก์ โดยเขากล่าวว่า “ฉนวนกาซ่า ถือเป็นหัวใจของการยืนหยัดต่อสู้ แต่ทว่าปัจจุบันนี้ สนามของการต่อสู้หลักและการชี้ขาดในเขตเวสต์แบงก์ แม้ว่าจะมีการตัดสินใจที่อันตรายของศัตรู รัฐเถื่อนไซออนิสต์ แต่เนื่องจากบรรดาเยาวชน เหล่านักต่อสู้ในเขตเวสต์แบงก์มีความเหนือมากกว่า พวกรัฐเถื่อนจึงไม่มีทางเลือกใด นอกจากตัวเลือกที่เลวร้ายและชั่วร้ายยิ่งกว่า”
นายอิสมาอีล ฮะนีเยห์ ถือว่า ความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง คือ การตอบรับของบรรดาเยาวชน คนรุ่นใหม่ในการต่อสู้และการญิฮาด และการจัดตั้งแกนหลักของการยืนหยัดต่อสู้ที่ติดอาวุธขึ้นเองในเขตเวสต์แบงก์ โดยเขากล่าวเสริมว่า “สถานการณ์ในปัจจุบันและความก้าวหน้าของแนวรบของการยืนหยัดต่อสู้ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของการยึดครองแผ่นดินปาเลสไตน์”
นายอิสมาอีล ฮานีเยห์ ได้กล่าวกับท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามว่า “เราขอเน้นย้ำต่อหน้าพณฯท่านว่า กลุ่มมุกอวิมัตต่างๆ จะไม่ถอยออกจากดินแดนปาเลสไตน์ แม้แต่คืบเดียวก็ตาม และแนวทางแห่งการต่อสู้และการญิฮาด จะดำเนินต่อไปจนกว่ากรุงเยรูซาเล็ม(อัลกุดส์)จะได้รับการปลดปล่อย และด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าและความช่วยเหลือของเยาวชนชาวปาเลสไตน์ ผู้ศรัทธามั่น และผู้ศรัทธาชาวปาเลสไตน์ มัสยิดอัล-อักศอ จะถูกปลดปล่อยจากกรงเล็บของเหล่าผู้ยึดครองในอนาคตอันใกล้นี้ และพวกเราทั้งหมดทุกคน จะทำนมาซในสถานที่นั้นพร้อมกับพณฯท่าน”
ที่มา เว็บไซต์สำนักผู้นำสูงสุด
No Result
View All Result