ประยุทธ์ ชี้ ปี2566 จะเป็นปีแห่งโอกาสและการฟื้นฟูประเทศ
เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟชบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักครับ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ (3 ม.ค.66) มีการรายงานผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการและตามนโยบายรัฐบาลในช่วงปี 2565 หลายเรื่อง ที่สะท้อนถึงความสำเร็จและประสิทธิภาพในการทำงานของรัฐบาล ร่วมกับทุกภาคส่วน และที่สำคัญคือผลประโยชน์ทั้งปวง ได้ถึงมือพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางในสังคม หลายประการ ดังต่อไปนี้
1. การบริหารโครงการ/ แผนงานต่างๆ ภายใต้ พ.ร.ก.ฯ เงินกู้ สำหรับแก้ปัญหาโควิด เยียวยาภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม ในช่วงครึ่งหลังปี 2565 มีการเบิกจ่ายงบประมาณราว 0.87 ล้านล้านบาท ใน 100 โครงการหลักที่มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับ “ดีมาก” สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 2.92 ล้านล้านบาท และทำให้รัฐมีรายได้กลับคืนมาในรูปแบบภาษีอีก 0.56 ล้านล้านบาท มีโครงการสำคัญ ๆ ได้แก่ การเยียวยาผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการ “โคก หนอง นา โมเดล” โครงการ “คนละครึ่ง” การจ่ายเบี้ยเลี้ยง อสม.และการควบคุมโควิดในชุมชน การจัดหาวัคซีน ป้องกันโควิด ตลอดจนการแพทย์ฉุกเฉิน UCEP และการบูรณาการให้บริการของโรงพยาบาลรัฐและเอกชน เป็นต้น
2. การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทต่างๆ มีความก้าวหน้าในหลากหลายมิติ ได้แก่
(1) การช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ตามหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ครอบคลุมมากขึ้นถึง 47.6 ล้านคน
(2) การกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม โดยมีการจัดสรรที่ดินทำกินให้ชุมชนแล้ว 1,442 พื้นที่ ใน 70 จังหวัดทั่วประเทศ มีเนื้อที่รวม 5.75 ล้านไร่ ช่วยเหลือประชาชนได้ราว 70,000 ราย
3. ความคืบหน้าในการปฏิรูปประเทศ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง เพื่อให้เกิดความยั่งยืน โดยการผลักดันกฎหมายใหม่และปรับปรุงกฎหมายเดิม ได้แก่
(1) ด้านการศึกษา: มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (ตาม พ.ร.บ.กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาฯ) และการส่งเสริมพื้นที่นวัตกรรมการศึกษานำร่อง 541 แห่งทั่วประเทศ
(2) ด้านกระบวนการยุติธรรม: ผลักดันกฎหมายที่จะช่วยสร้างความเป็นธรรมในสังคม เช่น พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัยฯ และ พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรมฯ
(3) ด้านกฎหมาย/การบริหารราชการแผ่นดิน: ปรับกระบวนการให้บริการประชาชน/ภาคธุรกิจ ให้สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส ทันสมัย และสอดคล้องกับบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ไม่ต้องสำเนาเอกสาร ยื่นเฉพาะบัตรประจำตัวประชาชนก็ติดต่อราชการได้ (ตาม พ.ร.บ. การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ฯ)
สิ่งเหล่านี้ ผมถือว่าเป็นความสำเร็จร่วมกัน ในการขับเคลื่อนประเทศในปี 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลเน้นการมีส่วนร่วมเป็นสำคัญ เพื่อให้ตอบโจทย์และแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างตรงเป้าที่สุด ทั้งนี้ เรายังมีความท้าทายที่จะตามมาอีกหลายประการ ที่รัฐบาลตั้งเป้าจะแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะปัญหาค่าครองชีพ ที่ทั่วโลกยังได้รับผลกระทบต่อเนื่อง จากสถานการณ์ความขัดแย้งในยุโรปที่ยังไม่จบสิ้นลง โดยผมเชื่อมั่นว่า ปี 2566 นี้ ไทยเราจะก้าวเดินต่อไปด้วยความมั่นคง และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังที่ IMF ได้คาดการณ์ไว้ ด้วยรายได้จากการท่องเที่ยวที่กลับมา โอกาสในการทำธุรกิจและการส่งออกที่จะตามมาอีกมาก จากการที่ผมและรัฐบาลได้ทำงานอย่างหนัก ในการเปิดตลาดและเจรจาการค้าในประเทศต่าง ๆ ซึ่งหากประชาชนคนไทยเรารักและสามัคคีกัน ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันเอง บ้านเมืองก็จะสงบสุขและมั่นคง สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักธุรกิจ นักลงทุน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่งเสริมให้การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว เป็นไปอย่างราบรื่น ก็จะยิ่งทำให้ในปี 2566 นี้ เป็นปีแห่งโอกาสและการฟื้นฟูประเทศไทยได้อย่างแท้จริงครับ