เพื่อไทย ซัด “ดอน” เยือนเมียนมา ย้อนแย้งประชาคมโลกที่ประณามและกังวลสิทธิมนุษยชนในเมียนมา ถามหอบของฝากใช่วัคซีนโควิดไหม?

Related posts

รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เผยจีน-สหรัฐสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้น ชี้มีพันธกิจระดับโลกร่วมกัน

มิถุนายน 5, 2024

นายกรัฐมนตรีปากีสถาน จ่อลาออกก่อนครบวาระ พร้อมส่งมอบอำนาจให้รัฐบาลรักษาการ

มิถุนายน 5, 2024

เพื่อไทย ซัด “ดอน” เยือนเมียนมา ย้อนแย้งประชาคมโลกที่ประณามและกังวลสิทธิมนุษยชนในเมียนมา ถามหอบของฝากใช่วัคซีนโควิดไหม?

Burapanews  รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ย.2564 น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เดินทางเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2564 ว่า การเยือนครั้งนี้เป็นการแสดงท่าทีของประเทศไทยที่สวนทางกับประชาคมโลก ที่ร่วมกันประณามและแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนของเมียนมาหลังทำการรัฐประหาร ทั้งยังเป็นการตอกย้ำว่า รัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีพฤติกรรมที่ปากว่าตาขยิบ กล้าไปประกาศในเวทีโลกว่าจะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนต่อสหประชาชาติ แต่ความจริงประชาชนถูกไล่ล่าปราบปรามจับกุมผู้ชุมนุม จนมีนักโทษทางความคิดจำนวนมากถูกจองจำไร้อิสระภาพ ไม่ได้รับสิทธิประกันตัว พลเอก ประยุทธ์ จึงเป็นได้แค่ผู้นำรัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจที่ไร้จุดยืนด้านประชาธิปไตยเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยจะยังคงเดินหน้าเพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยใช้กระบวนการทางสภาทุกวิถีทางในการช่วยเหลือนักโทษทางความคิด เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ประชาชนพึงมีต่อไป

“การเยือนเมียนมาครั้งนี้รัฐบาลไทยยังหอบหิ้วเอาสิ่งของไปบริจาคเชื่อมสายใยเผด็จการถึง 17 ตัน จึงอยากทราบว่าในสิ่งของเหล่านั้นมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือไม่ หากเป็นวัคซีนก็คงต้องตั้งคำถามถึงการกระทำครั้งนี้ว่าเหมาะสมหรือไม่ ? เพราะยังมีคนไทยอีกหลายล้านคนยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก” นางสาว ชญาภา ระบุ

โดยก่อนหน้านี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่เดินทางไปเมียนมา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายนว่า สถานการณ์ของเมียนมาในปัจจุบันถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ จึงได้มีการประชุมและพูดคุยกับหน่วยงานระหว่างประเทศในหลายๆ ประเทศ ซึ่งต้องการให้ความช่วยเหลือ ด้านมนุษยธรรมกับเมียนมาและได้สิ่งของที่บริจาคมาให้ จึงได้นำสิ่งของ 17 ตันไปส่งมอบ ซึ่งมีเอกชนไทยที่มีความห่วงใยประเทศเพื่อนบ้านร่วมสมทบ ในโอกาสนี้ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ลาย ด้วย

“มีการพูดคุยกันในเรื่องทวิภาคีและเรื่องที่สำคัญ ซึ่งถือเป็นประโยชน์และมีสิ่งสร้างสรรค์ที่ออกมาจากการหารือ” นายดอนกล่าว