ชาวโมร็อกโก รวมตัวประท้วงต่อต้านการสถาปนาความสัมพันธ์ปกติกับอิสราเอล และเรียกร้องให้สนับสนุนปาเลสไตน์
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ชาวโมร็อกโกรวมตัวกันเพื่อประท้วงทั่วประเทศ โดนเน้นย้ำถึงการสนับสนุนต่อชาวปาเลสไตน์ที่ต่อต้านการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล ซึ่งสหรัฐอเมริกาให้การสนับสนุนเมื่่อ 2 ปีที่ผ่านมา
ประชาชนจากทุกชนชั้นของสังคมทั่วสาระทิศ ถือว่า เป็นแนวร่วมฝ่ายหน้าของโมร็อกโกที่สนับสนุนปาเลสไตน์และต่อต้านการสถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอล จนทำให้เกิดการประท้วงเกือบ 30 เมืองในโมร็อกโก เพื่อแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์และการต่อต้านการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างโมร็อกโกและอิสราเอล
ผู้ประท้วงได้ออกมารวมตัวกันหน้ารัฐสภาโมร็อกโกในเมืองราบัต โดยมีการชูธงชาติปาเลสไตน์และถือป้ายภาษาอารบิกที่ระบุว่า “การสถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอล เป็นการทรยศ” และ “การต่อสู้ จะดำเนินต่อไปไปจนกว่าข้อตกลงเรื่องความสัมพันธ์จะได้ถูกยกเลิก”
บรรดาผู้เข้าร่วมจุดไฟเผาธงอิสราเอลหน้าตึกสภานิติบัญญัติ นายตาเย็บ มิธมัท Tayeb Midhmadh ผู้ประสานงานแนวร่วมการสนับสนุนปาเลสไตน์และการต่อต้านการสถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอล ระบุว่า การประท้วงทั่วประเทศครั้งนี้ ได้ส่งสารให้เห็นว่า โมร็อกโกต่อต้านการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอิสราเอลอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ อิสราเอลและโมร็อกโก ได้บันทึกข้อตกลงร่วมกัน เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ปี 2020 ว่าจะมีการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างโมร็อกโกและอิสราเอล โดยมีรัฐบาลสหรัฐในขณะนั้น ซึ่งมีนายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นตัวกลางในข้อตกลงดังกล่าว ทำให้ประเทศโมร็อกโก กลายเป็นประเทศที่ 4 ของกลุ่มประประเทศชาติอาหรับที่ยอมรับในการสถาปนาความสัมพันธ์อย่างปกติกับอิสราเอล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และซูดาน ได้ประกาศสถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอลมาแล้ว
ทรัมป์ระบุ ในข้อตกลงดังกล่าว ด้วยการโทรศัพท์พูดคุยกับกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 6 แห่งโมร็อกโก โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตกลงที่จะยอมรับอํานาจอธิปไตยของโมร็อกโกที่อยู่เหนือภูมิภาคซาฮาราตะวันตก ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางของข้อพิพาทกับแอลจีเรียที่อยู่ใกล้เคียง
แอลจีเรีย ได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับโมร็อกโก เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2021 โดยอ้างว่า มีการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์
หลังจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศแอลจีเรียออกมาปฏิเสธท่าทีของทรัมป์ โดยกล่าวว่า การตัดสินใจของสหรัฐฯนั้นไม่มีผลทางกฎหมาย เพราะว่าขัดแย้งกับมติของสหประชาชาติ โดยเฉพาะมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับภูมิภาคซาฮาราตะวันตก”
อย่างไรก็ตาม แนวร่วมโปลิซาริโอ Polisario ที่ได้รับการสนับสนุนจากแอลจีเรียและเป็นอิสระ ยังปฏิเสธจุดยืนที่มั่นคงของทรัมป์ เกี่ยวกับภูมิภาคทะเลทรายซาฮาราตะวันตกซึ่งเป็นข้อพิพาทโดยระบุว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐพยายามมอบพื้นที่ดังกล่าวให้โมร็อกโก
ทั้งนี้ ชาวปาเลสไตน์ยังได้ประณามข้อตกลงดังกล่าวกับอิสราเอลอีกด้วย
No Result
View All Result