สมาคมนักศึกษาไทยในอิหร่าน ออกแถลงการณ์ข้อเท็จจริงกรณีประหารชีวิตในประเทศอิหร่าน
Burapanews สมาคมนักศึกษาไทยในอิหร่าน ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับข้อเท็จจริงกรณีการประหารชีวิตในประเทศนี้ โดยโพสต์ผ่านหน้าเพจสมาคม ระบุว่า
แถลงการณ์จากสมาคมนักศึกษาไทยในอิหร่าน
เรื่อง ข้อเท็จจริงของการประหารชีวิตที่เกิดขึ้นในประเทศอิหร่าน
ความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านมีความแน่นแฟ้นกันมาอย่างช้านานกว่า 400 ปี มีการเยือนพบปะอาคันตุกะระหว่างสองประเทศตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา และเมื่ออิหร่านเกิดการปฏิวัติโดยนำประชามติ 98% ของคนในชาติบอกว่าให้นำกรอบของอิสลามมาปกครอง ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอิหร่านก็ยังไม่ถูกตัดขาด แต่ยิ่งมั่นคงขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
สืบเนื่องจากตลอดระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมา อิหร่านต้องตกเป็นจำเลยของสังคมโลก สื่อทุกสายต่างจ้องโจมตีไปยังอิหร่าน ซึ่งจุดเริ่มต้นของกระแสที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ คือสตรีคนหนึ่งชื่อว่า มะฮฺซอ อามีนี ได้เสียชีวิต ณ สถานีตำรวจ โดยการควบคุมตัวของตำรวจศีลธรรม ผลชันสูตรทางการอิหร่านชี้ชัดแล้วว่าไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
ในช่วงที่ความจริงยังไม่ปรากฏ สื่อตะวันตกและเหล่าคนดังที่เป็นปฏิปักษ์กับรัฐต่างร่วมกระแสจุดไฟจนลุกลามไปทั่วโดยการติดแฮชแท็กจนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกโซเชียล ภายใต้สโลแกนของ “สตรี ชีวิต สันติภาพ” จนเหตุการณ์ลุกลามจากการประท้วงกลับกลายเป็นการก่อจลาจล ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ จุดไฟเผามัสยิด เผาอัลกุรอาน เผาธงชาติ และบางส่วนของผู้ประท้วงตรวจพบทั้งอาวุธเบาและอาวุธหนัก ซึ่งไม่ใช่การประท้วงอย่างสันติตามระบอบประชาธิไตยแต่อย่างใด เหตุการณ์ประท้วงเป็นเหตุให้ผู้ก่อการร้ายและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนเข้าร่วมเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิในประเทศอีกด้วย เมื่อค้นหาต้นตอของความไม่สงบในประเทศอิหร่านก็จะเห็นว่า สาเหตุสืบเนื่องมาจากสื่อตะวันตกและเหล่าคนดังที่อาศัยอยู่ต่างประเทศล้วนปลุกระดมคนหนุ่มคนสาวให้ออกมาต่อต้านรัฐทั้งสิ้น
และกรณีล่าสุดนายมาญิด ราห์นาวาร์ดได้ไล่แทงเจ้าหน้าที่ 2 คนจนถึงแก่ชีวิต และคนบาดเจ็บอีก 4 คน จนเป็นเหตุให้ศาลสั่งประหารชีวิต ได้มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และคำสารภาพอย่างชัดเจน ซึ่งตามกฎหมายอิสลามการฆ่าผู้อื่นอย่างอธรรมโทษคือต้องตายตกไปตามกัน
และอีกกรณีคือนักฟุตบอลชื่อ อมีร นัซร์ อาซอดอนี สื่อต่างๆรวมถึงสื่อไทยกลับโฆษณาชวนเชื่อ และเสนอข่าวอย่างหมกเม็ดว่า โดนโทษประหารชีวิตเพราะความเห็นต่างเท่านั้น
ทางสมาคมจึงใคร่นำเสนอข้อเท็จจริงจากแหล่งข่าวท้องถิ่นและจากสื่อที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากชาติตะวันตกว่า
1. อมีร นัสร์ อาซอดอนีเพียงแค่ถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่24พฤศจิกายน ยังไม่มีการตัดสินโทษประหารชีวิตตามที่สื่อไทยนำเสนอมา
2. นักเตะรายนี้ถูกคุมขังในข้อหาว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มติดอาวุธที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถึงสามชีวิต ซึ่งเป็นข้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับประท้วงเรื่องมะฮ์ซอ อามีนี่ใดๆทั้งสิ้น
3. สถานที่เกิดเหตุ ไม่ใช่ที่ชุมนุมประท้วง แต่เกิดเหตุบนถนนที่กลุ่มติดอาวุธไม่กี่คนพยายามจะปิดถนน และได้ฆ่าเจ้าหน้าที่ถึงสามคน
4. ในระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคดี หากพิสูจน์ได้ว่ามีส่วนเกี่ยวกับการฆาตกรรมเจ้าหน้าที่สามรายจริง ก็อาจต้องโทษประหารชีวิตมีเพียงครอบครัวผู้เสียชีวิตเท่านั้นสามารถยับยั้งการประหารได้ ซึ่งเป็นกฎหมายของประเทศ
ตามที่ได้ชี้แจ้งข้อเท็จจริงข้างต้น ทำให้เห็นว่าสื่อไทยยังคงตกเป็นเครื่องมือของการบิดเบือนข่าวจากสื่อตะวันตกโดยไม่พิจารณาและคัดกรองข้อเท็จจริงให้ถี่ถ้วน
สุดท้ายนี้ ทางสมาคมฯจึงใคร่ขอให้สื่อไทยมีใจเป็นกลางในการรับข้อมูลข่าวสารและไม่ตกเป็นเหยื่อและเครื่องมือของสื่อตะวันตก
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
สมาคมนักเรียนไทยในอิหร่าน
No Result
View All Result