<!-- wp:paragraph --> <h2><strong>บรรดาครอบครัวของเหยื่อทั้งหลายจากเหตุการณ์ก่อการร้ายในฮะรัมอะฮ์มัด บิน มูซา ศาสนสถานสำคัญเมืองชีราซ เข้าพบ ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม </strong><br /><br /><strong>“เหตุการณ์ก่อการร้ายในฮะรัมชาห์เชร็อฆ ได้สร้างความน่าอัปยศอดสูให้กับพวกสหรัฐที่ตีสองหน้าและใจดำ”</strong><br /><br /></h2> <h3><strong><a href="https://burapanews.com/">Burapanews </a></strong>สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่านว่า เมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2022 บรรดาครอบครัวของชะฮีด (ผู้พลีชีพ) ทั้งหลายจากเหตุการณ์ก่อการร้ายในฮะรัมอะฮ์มัด บิน มูซา เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า เหตุการณ์ก่อการร้ายในฮะรัมอันศักดิ์สิทธิ์ของท่านชาห์เชร็อฆ Shah Cheragh (อ.) ) เป็นเหตุการณ์ที่น่าขมขื่น ซึ่งทำให้หัวใจทั้งหลายได้รับความเจ็บปวดรวดร้าว แต่จะต้องถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของอิหร่านตลอดไป และท่านผู้นำได้เน้นย้ำถึงความอัปยศอดสูของเหล่ามือที่อยู่เบื้องหลังม่านกั้นแห่งความชั่วร้ายนี้ นั่นหมายถึง พวกสหรัฐฯที่เกลียดชังและเป็นผู้ที่สร้างกลุ่มไอซิส (ดาอิช)ขึ้นมา โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “หน่วยงานต่างๆด้านวัฒนธรรมและศิลปะ จะต้องให้ความสนใจต่อเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่นี้ เหมือนดั่งเช่น เหตุการณ์วันอาชูรอ และประเด็นอื่นๆที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และจะต้องมีการส่งต่อไปยังบรรพชนรุ่นหลังอีกด้วย”<br /><br />ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การสังหารบรรดาผู้แสวงบุญนั้น มีความแตกต่างจากเหตุการณ์ก่อการร้ายอื่นๆ และยังทําให้ศัตรูเกิดความอัปยศอดสูมาเป็นทวีคูณ โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “นอกเหนือจากเหล่าผู้ก่อเหตุ อาชญากร แล้ว ผู้สนับสนุนหลักและผู้ที่สร้างกลุ่มไอซิสขึ้นมาก็มีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมครั้งนี้ด้วย พวกเขาเป็นผู้ที่โกหก ใจดํา สร้างความอปยศอดสู และเป็นพวกกลับกลอกที่ตีสองหน้า โดยอ้างว่า เป็นผู้ชูธงแห่งสิทธิมนุษยชน แต่ในทางปฏิบัติ พวกเขากลับเป็นผู้สร้างกลุ่มก่อการร้ายที่อันตรายมากที่สุด”<br /><br />ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้ให้คำแนะนําแก่หน่วยงานด้านวัฒนธรรมและการสื่อสารว่า ให้มีการผลิตผลงานด้านศิลปะเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้และเหตุการณ์อื่นๆในหน้าประวัติศาสตร์ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “เรานั้นได้ละเลยต่อประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่างๆและประวัติศาสตร์ของการปฏิวัติอิสลามและอาชญากรรมของศัตรู ทั้งในแง่ของการสื่อสารและการเผยแพร่ เพื่อที่ให้บรรดาคนรุ่นใหม่ของเรา ซึ่งไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต รวมถึง อาชญากรรมของพวกมุนาฟิก( MKO) ได้เข้าถึงยังข้อเท็จจริง”<br /><br />ท่านผู้นําสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้เน้นย้ำว่า “การอธิบายถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้ ถือเป็นหนึ่งในหน้าที่หลักของบรรดานักเคลื่อนไหวด้านศิลปะ การเผยแพร่ และการเขียน และหน่วยงานต่างๆด้านวัฒนธรรมทั้งหมด”<br /><br />ทั้งนี้ เหตุการณ์ก่อการร้ายได้เกิดขึ้นในศาสนสถานในเมืองชีราซ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอิหร่าน เมื่อวันพุธที่ 26 ตุลาคม 2022 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 รายและได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 40 คน รวมทั้งเด็กและผู้หญิงรวมอยู่ด้วย<br /><br />โดยหลังจากนั้น กลุ่มก่อการร้ายไอซิส (ดาอิช) ได้ประกาศผ่านเครื่อข่ายสังคมออนไลน์ของตัวเองว่า อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุโจมตีดังกล่าว<br /><br />อ้างอิง:<br /><span style="color: #ff0000;"><strong><a style="color: #ff0000;" href="https://www.leader.ir/fa">เว็บไซต์สำนักผู้นำสูงสุดอิหร่าน</a></strong></span><br /><br /></h3> <!-- /wp:paragraph -->