อาชญากรรมของซาอุดีอาระเบียต่อผู้อพยพ! ความเป็นจริงอันเลวร้ายของชาวแอฟริกาในซาอุดีอาระเบีย
การสังหารผู้อพยพชาวแอฟริกันที่ชายแดนของซาอุดีอาระเบียเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของความโหดร้ายของพวกซาอุดีอาระเบียที่มีต่อแรงงานต่างชาติและผู้อพยพที่ขาดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่สุดของประเทศ
จากสถิติล่าสุด แสดงให้เห็นว่า ประมาณ 56 ล้านคนที่อาศัยอยู่ใน 6 ประเทศความร่วมมืออ่าวเปอร์เซีย ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต โอมานและกาตาร์และมากกว่า 28 ล้าน 6 แสนคน กล่าวอีกนัยหนึ่ง 51 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมดนั้นเป็นแรงงานชาวต่างชาติ จากสถิติเหล่านี้พบว่า ประชากรชาวซาอุดีอาระเบีย 33 ล้าน 4 แสนคน เป็นชาวซาอุดีอาระเบีย และมีแรงงานต่างชาติประมาณ 48 เปอร์เซ็น หรือมากกว่า 12 ล้าน 6 แสนคน
แม้ว่าการค้าทาสจะถูกห้ามอย่างเป็นทางการในซาอุดิอาระเบียตั้งแต่ปี 1964 พ.ศ. 2507 แต่แรงงานต่างชาติจํานวนมากในราชอาณาจักรก็อยู่ในสภาพเดียวกับทาส และโดยทั่วไปมีรายงานสารคดีที่แสดงให้เห็นว่าแรงงานต่างชาติในราชอาณาจักรประสบปัญหาต่างๆ เช่น การทํางานที่หนักเกินไป ความเหนื่อยล้า การทรมาน และแม้แต่การกีดกันอาหารและน้ำ
เป็นเวลาหลายปีแล้ว ที่แรงงานต่างชาติอยู่ในสภาพการดำเนินชีวิตที่เลวร้ายที่สุด เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในซาอุดิอาระเบียและในขณะที่จํานวนแรงงานต่างชาติโดยเฉพาะผู้หญิงในซาอุดิอาระเบียเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีเพียงไม่กี่คนที่สามารถหางานทําและตําแหน่งที่ดีในราชอาณาจักรได้ ในขณะที่สถานการณ์ของพวกเขาหลายคนน่าเสียใจและน่าผิดหวังและไม่มีใครยอมทําอะไรเพื่อพวกเขา
แรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ที่มาทำงานที่ซาอุดิอาระเบียนั้นมาจากประเทศยากจน เช่น ศรีลังกาฟิลิปปินส์ เนปาล ปากีสถานและมอริเตเนีย โดยมีวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียว ในการหลบหนีจากความยากจนและความทุกข์ยากในประเทศของตนและการปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาและยินดีที่จะทํางานเป็นเวลานานสําหรับเจ้านายชาวซาอุดิอาระเบียเพื่อแลกกับเงินจํานวนเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม นายจ้างชาวซาอุดีอาระเบียของพวกเขาไม่เต็มใจที่จะจ่ายเงินให้พวกเขาจํานวนเล็กน้อยอย่างตรงเวลาและเต็มจํานวนและหากพวกเขาร้องขอดังกล่าว พวกเขาจะได้รับการปฏิบัติในทางที่เลวร้ายที่สุดและไม่มีการสนับสนุนทางกฎหมายที่มั่นคงเพื่อป้องกันตัวเองจากการกดขี่ของนายจ้างในซาอุดีอาระเบีย
แรงงานหญิงจํานวนมากได้ออกจากบ้านเกิดของพวกนางและเดินทางไปซาอุดิอาระเบียด้วยความหวังที่จะได้รับเงินที่มากขึ้นและจัดหาให้ครอบครัวของพวกนาง แต่หลายคนไม่มีการคุ้มกันหรือสิทธิตามกฎหมาย แม้กระทั่งนายจ้างของพวกนางเองก็ตาม
สําหรับแรงงานหญิงเหล่านี้หลายคน ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะดําเนินการทางกฎหมายใด ๆ กับนายจ้างของพวกนางและแรงงานเหล่านี้ไม่สามารถหนีออกสถานการณ์นี้และช่วยเหลือตัวเองได้ ในขณะที่พวกนางถูกจับกุมในซาอุดีอาระเบียโดยที่ไม่มีเอกสารเพียงพอ พวกนางจะต้องจ่ายค่าปรับจํานวนมากและในหลาย ๆ กรณี แรงงานต่างชาติเหล่านี้จะถูกจําคุกเป็นเวลานานโดยไม่ทราบว่าความผิดของพวกนางนั้นคืออะไร
ความเป็นจริงที่เลวร้ายของชาวแอฟริกาในการใช้ชีวิตในซาอุดีอาระเบีย
แรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ มาจากประเทศแอฟริกาที่ต้องอพยพไปยังประเทศอาหรับ รวมถึงซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากการหนีความยากจนและความหิวโหยในทวีปแอฟริกา แต่สถานการณ์ที่พวกเขาประสบในประเทศเหล่านี้ ในกรณีส่วนใหญ่ทําให้พวกเขาเสียชีวิต ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 นิวยอร์กไทมส์ ระบุในรายงานว่า แรงงานชาวแอฟริกันและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงในซาอุดิอาระเบียนั้นมีสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่าแรงงานต่างชาติอื่นๆที่การใช้ชีวิตในซาอุดีอาระเบียจะไม่ปลอดภัยสําหรับแรงงานต่างชาติอีกต่อไป
หลังจากที่แรงงานทั้งชายและหญฺิงเดินทางเข้าประเทศยังสถานที่ทํางาน พวกเขาจะต้องลงนามในสัญญาการจ้างงานที่มีคํามั่นดังกล่าว
โดยนักวิจัยด้านสิทธิสตรีในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือในฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวว่า สัญญาและกฎหมายแรงงานเหล่านี้อาจใช้กับแรงงานในประเทศที่เปราะบาง แรงงานหญิงต่างชาติจํานวนมากในซาอุดีอาระเบียถูกกดขี่ข่มเหงโดยนายจ้างชาวซาอุดีอาระเบีย และการแสดงออกถึงความเจ็บปวดและภัยพิบัติเพียงเล็กน้อย จะนําไปสู่การทรมานทางจิตใจและร่างกายและอาจถูกไล่ออกอีกด้วย
เอธิโอเปีย เป็นประเทศในแอฟริกาที่โดดเด่นที่สุดที่มีจํานวนผู้อพยพสูงสุดในซาอุดิอาระเบีย ในขณะที่องค์กรสิทธิมนุษยชนรายงานรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เลวร้ายของแรงงานชาวแอฟริกันและผู้อพยพในซาอุดิอาระเบีย
เมื่อเร็วๆนี้ องค์กรภาคประชาสังคมเอธิโอเปีย ได้เปิดตัวแคมเปญโซเชียลมีเดีย เพื่อแสดงความทุกข์ทรมานของแรงงานชาวแอฟริกันในซาอุดีอาระเบีย แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ไร้มนุษยธรรมในเรือนจําของซาอุดีอาระเบีย นายอัมแบ วัลดี (Ambae Valdi) ผู้อํานวยการฝ่ายกฎหมายของกระทรวงสันติภาพเอธิโอเปีย กล่าวว่า ปัจจุบันจํานวนผู้อพยพชาวเอธิโอเปียในซาอุดีอาระเบียอยู่ที่ประมาณ 60,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเรือนจําของซาอุดิอาระเบียในสภาพที่ยากลําบากอย่างมาก
หนังสือพิมพ์เดอะเทเลกราฟของอังกฤษ ยังเปิดเผยในเดือนกันยายน 2020 ว่า ซาอุดีอาระเบียกําลังกักขังผู้อพยพชาวเอธิโอเปียประมาณ 16,000 คนในเรือนจําอัล-ชามิซี เพียงลําพังบนถนนเมกกะในสภาพที่ “น่าสังเวช” เช่นเดียวกับซาอุดีอาระเบียที่ควบคุมผู้อพยพชาวแอฟริกันและกักตัวไว้ในค่ายที่แออัด ซึ่งขาดมาตรฐานด้านสุขภาพและมนุษยธรรมที่ต่ำที่สุดซึ่งหลายคนฆ่าตัวตาย เนื่องการทรมานโดยทางการของซาอุดิอาระเบีย
หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ ยังเขียนว่าทางการซาอุดิอาระเบียได้เปลือยกายผู้อพยพชาวแอฟริกันและจับใส่กุญแจมือในคุกระหว่างการตรวจสอบอีกด้วย
อับดุลเราะห์มาน ซุฟยาน ผู้อพยพชาวเอธิโอเปีย ซึ่งเคยถูกกักขังอยู่ในเรือนจําของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า “การทุบตีถือเป็นเรื่องปกติในเรือนจําของซาอุดีอาระเบีย และคุณไม่รู้ว่าทําไมคุณจึงต้องถึงถูกทุบตี เจ้าหน้าที่เรือนจําทุบตีเราด้วยหมัดและเตะนักโทษ ด้วยการทุบตีเมื่อพวกเขาเหนื่อย พวกเขาเรียกเราด้วยชื่อสัตว์
ผู้อพยพรายหนึ่ง ที่ชื่อว่า กับริมิเคล ซึ่งถูกจับขังในเรือนจำจาซาน เป็นเวลา 7 ้เดือน เผยว่า หลังจากสภาพที่เจ็บปวดและความทุกข์ทรมานของเรา กลายเป็นที่รู้จักของโลก ความโหดร้ายของผู้คุมเรือนจำก็ได้เพิ่มมากขึ้น วันหนึ่งนักโทษคนหนึ่งหมดสติและเราตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่แทนที่จะได้รับการช่วยเหลือ ผู้คุมเรือนจำกลับมาจับพวกเราทั้ง 8 คนและพาพวกเขาไปที่ห้องต่าง ๆ และทุบตีฉันด้วยกระบอง และพวกเขาหวาดกลัวว่าฉันจะดูบาดแผลของฉัน พวกเขาจึงมัดมือและเท้าของฉันโดยที่ไม่ได้ให้อาหารและน้ำ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
นักโทษบางคนอ่อนแออย่างมากและไม่สามารถพูดหรือเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นพวกเขาจึงนอนลงบนพื้นและเราไม่สามารถทําอะไรให้พวกเขาได้ นอกจากนั่งข้างๆพวกเขาและพยายามปลอบประโลมพวกเขาเวลาที่พวกเขาเสียชีวิต
เดอะเทเลกราฟ เปิดเผย เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2021 ว่า ผู้อพยพชาวแอฟริกันเหล่านี้หลายคนฆ่าตัวตายในเรือนจําของซาอุดีอาระเบียภายใต้การข่มขู่และสภาพที่ไร้มนุษยธรรม ซึ่งวัยรุ่นแอฟริกันอายุ 16 ปี ฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ และร่างของเขาถูกโยนทิ้งลงในถังขยะโดยทางการซาอุดิอาระเบีย เป็นเหตุทําให้สหประชาชาติต้องสอบสวนกรณีของผู้อพยพและแรงงานชาวแอฟริกันในซาอุดิอาระเบีย อีกทั้งองค์กรสิทธิมนุษยชน เช่น แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล และฮิวแมนไรท์วอทช์ ยังยืนยันความถูกต้องของรายงานดังกล่าวอีกด้วย
เมื่อเดือนตุลาคม 2020 The Sunday Telegraph ได้รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เลวร้ายของผู้อพยพชาวแอฟริกันในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งตรงกับช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา เปิดเผยว่า ซาอุดีอาระเบียได้จับกุมผู้อพยพหลายร้อยคนในสภาวะวิกฤตภายใต้เงามืดของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ในรายงานนี้ อาบีบี อัล-เอธิยูบี Abibi al-Athyubi ซึ่งอยู่ในคุก กล่าวว่า “นรกอยู่ที่นี่และเราได้รับการปฏิบัติเหมือนเช่นสัตว์และเราถูกทําร้ายร่างกายทุกวัน เมื่อฉันได้ข้อสรุปว่าไม่มีทางออกจากที่นี่ ฉันตั้งใจจะฆ่าตัวตายและนั่นคือสิ่งที่คนอื่นได้กระทํากัน
ผู้อพยพชาวแอฟริกันคนนี้กําลังสนทนาผ่านโทรศัพท์มือถือที่แอบนําเข้ามาในเรือนจํา
การสังหารหมู่ผู้อพยพชาวแอฟริกันที่ชายแดนซาอุดีอาระเบีย
แต่การสังหารผู้อพยพชาวแอฟริกันที่ชายแดนซาอุดิอาระเบีย เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของอาชญากรรมของประเทศนี้ที่มีต่อพวกเขา ในเดือนสิงหาคมของปีนี้มีการประกาศว่า ซาอุดีอาระเบียจงใจฆ่าผู้อพยพชาวแอฟริกันที่ชายแดนของประเทศติดกับเยเมน
ซาอุดิอาระเบียได้ทําการสังหารหมู่ผู้อพยพชาวแอฟริกันมากกว่า 9 ครั้ง ที่ชายแดนเยเมน ทําให้มีผู้เสียชีวิต 189 คนและบาดเจ็บมากกว่า 500 คน ตามรายงานของ ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ UNHCR
ตามรายงานของ UNHCR ระบุว่า ผู้อพยพชาวแอฟริกัน ที่อยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดซาดาของเยเมน มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาชญากรรม โดย UNHCR เน้นย้ำว่า ผู้อพยพตกเป็นเป้าหมายของเจ้าหน้าที่รักษาชายแดนของซาอุดีอาระเบียด้วยปืนใหญ่และปืนกล
แหล่งข่าวท้องถิ่นในตอนเหนือของเยเมน เผยว่า ผู้อพยพมากกว่า 1,000 คนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตโดยกองกําลังความมั่นคงของซาอุดีอาระเบียในปีนี้ รวมถึงผู้หญิงและเด็ก และในทุกเดือน มีผู้อพยพหลายร้อยคนได้รับการรักษาบาดแผลจากกระสุนปืนในโรงพยาบาลและคลินิกที่ได้รับการสนับสนุนจากสํานักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติใกล้เมืองชายแดนซาดาซึ่งบางส่วนอาจจะเป็นอัมพาตได้
พื้นที่ชายแดนของเยเมน มักเห็นจ้าหน้าที่รักษาชายแดนซาอุดิอาระเบียยิงปืนใหญ่ การโจมตีด้วยขีปนาวุธ เข้าใส่พลเรือน ทําให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาร วมถึงผู้อพยพชาวแอฟริกันจํานวนหนึ่งด้วยน้ำมือของกองกําลังซาอุดิอาระเบียอีกด้วย
ในบริบทนี้ ล่าสุด ผู้อพยพชาวแอฟริกันที่รอดชีวิตจากความโหดร้ายของซาอุดีอาระเบียได้เปิดเผยว่า ซาอุดีอาระเบียได้สังหารผู้อพยพชาวเอธิโอเปีย 5 คนในแต่ละวัน
ตามคำบอกเล่าของผู้รอดชีวิตผู้นี้ ระบุว่า กองกําลังรักษาชายแดนซาอุดีอาระเบียได้สังหารหมู่ผู้อพยพชาวเอธิโอเปียหลายสิบคน โดยเจ้าหน้าที่รักษาชายแดนซาอุดีอาระเบียพุ่งเป้าโดยตรงและสังหารผู้อพยพชาวเอธิโอเปียด้วยกระสุนปืนสงคราม
สถานีโทรทัศน์ อัล-มาซีราห์ของเยเมน ยังได้เผยแพร่ภาพหลุมศพจํานวนมากของเหยื่อชาวแอฟริกันหลายสิบคนถูกฝังอยู่ ซึ่งพวกเขาถูกสังหารโดยเจ้าหน้าที่รักษาชายแดนซาอุดีอาระเบีย
Burapanews
อ้างอิง
No Result
View All Result