ยูเครนสปริง
โดย สิริอัญญา
วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2565
เหตุการณ์อาหรับสปริงที่ประชาชนในบางประเทศในตะวันออกกลางลุกฮือขึ้นขับไล่รัฐบาลของตน จนมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในภูมิภาคนั้นไปหลายรัฐบาล แต่หลังจากนั้นกลับมีรัฐบาลหุ่นที่เป็นสมุนบริวารของต่างชาติเข้ามาปกครอง นำพาชาติบ้านเมืองไปซุกใต้อุ้งตีนของต่างชาติอย่างหน้าตาเฉย ทำให้ประเทศเหล่านั้นกลายเป็นเมืองขึ้นแบบใหม่ของนักล่าอาณานิคม
เป็นที่สงสัยติดตามกันในทุกพื้นที่ของโลกว่าเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ในที่สุดความจริงก็เริ่มปรากฏขึ้นว่าสาเหตุที่เกิดอาหรับสปริงนั้นเกิดจากนักล่าอาณานิคมได้เข้ามาแทรกแซงจัดตั้งมวลชนโดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ป้อนข้อมูลและความเข้าใจให้ชิงชังรัฐบาลและชาติบ้านเมืองของตน เห็นดีเห็นงามให้ต่างชาติเข้ามาปกครองครอบงำ
ล่าสุดมีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญโดยสื่อมวลชนในสหรัฐว่ามีการจัดตั้งหน่วยงานหนึ่งขึ้นกำหนดแผนงานในการแทรกแซงครอบงำและล้มล้างรัฐบาลประเทศต่างๆ มีหลักปฏิบัติ คู่มือปฏิบัติและหน่วยงานที่รับผิดชอบปฏิบัติอย่างชัดเจน มีการสนับสนุนงบประมาณจำนวนมากให้แก่ขบวนการเหล่านี้
ข้อมูลล่าสุดระบุว่ามีการทำคู่มือในการล้มล้างรัฐบาลประเทศต่างๆ แจกจ่ายให้แก่ทุกเหล่าทัพเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติการต่อประเทศที่ต้องการจะล้มล้างการปกครองหรือเปลี่ยนรัฐบาล
ข่าวคราวดังกล่าวนี้ทำให้ความจริงปรากฏขึ้นชัดเจนในโลกว่านักล่าอาณานิคมบางประเทศมีองค์กรที่ทำหน้าที่ในการแทรกแซงครอบงำและล้มล้างประเทศต่างๆ ที่ตกเป็นเป้าหมาย เพื่อเปลี่ยนแปลงรัฐบาลให้เป็นรัฐบาลหุ่นที่เป็นสมุนบริวารของนักล่าอาณานิคม
ไม่เว้นแม้กระทั่งในประเทศไทยของเรา ปรากฏการณ์เคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนบางกลุ่มที่มีฐานหลักอยู่ใน 5 มหาวิทยาลัยในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศก็มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวทั้งสิ้น
เริ่มต้นจากการครอบงำยึดครองสภามหาวิทยาลัย แล้วส่งเสริมสนับสนุนให้อาจารย์หรือผู้มีตำแหน่งคณบดีของสถาบันนั้นๆ ที่อยู่ในเครือข่ายการจัดตั้งดังกล่าวให้มีบทบาทและอำนาจขึ้นในหน่วยงานของมหาวิทยาลัยแห่งนั้น จากนั้นก็เข้ายึดกุมองค์กรนิสิตนักศึกษาทำการอบรมบ่มเพาะป้อนข้อมูลตามที่ต้องการ เพื่อสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย สร้างความแตกแยกขึ้นในบ้านเมืองเพื่อให้มีความพร้อมที่จะล้มรัฐบาลได้ตามที่ต้องการ
ปรากฏการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นคือการเคลื่อนไหวของคนจำพวกนี้ในฮ่องกง พม่า และในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลจีนรู้เท่าทันจึงเข้าจัดการอย่างเด็ดขาด จนขบวนการดังกล่าวพังพินาศกระเจิดกระเจิงหมดบทบาทอีกแล้ว
ในพม่าก็เช่นเดียวกัน รัฐบาลพม่าก็รู้ถึงสถานการณ์เช่นนี้ และกำลังทำการปราบปรามอย่างกว้างขวาง ส่วนในประเทศไทยนั้นกำลังยักแย่ยักยันกันอยู่ ดังนั้นจึงเกิดปรากฏการณ์สร้างความขัดแย้งความแตกแยกขึ้นโดยขบวนการดังกล่าว นั่นก็เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะล้มล้างรัฐบาลตามที่จะมีการกำหนดต่อไป
เหตุการณ์แบบนี้กำลังเกิดขึ้นในยุโรป โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศนาโต้และสหภาพยุโรป ซึ่งประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็มีหน่วยจัดตั้งจำพวกนี้ดำรงอยู่ แต่บางส่วนกลายเป็นประเทศที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งองค์กรแบบนี้ในประเทศอื่น
หลังเกิดสงครามยูเครน กลุ่มประเทศนาโต้และสหภาพยุโรปหมายมั่นปั้นมือจะแยกรัสเซียออกเป็นชิ้นๆ ทำลายความสามัคคีของ SCO หรือกลุ่มองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ เพื่อหวังดำรงความเป็นมหาอำนาจขั้วเดียวที่กดขี่ข่มเหงประเทศต่างๆ ทั่วโลกต่อไป
ปรากฏว่ากลุ่ม SCO รู้เท่าทันแผนการดำเนินการดังกล่าวเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงสามัคคีกันรับมือกับความพยายามดังกล่าวอย่างเต็มที่ ทั้งในด้านแสนยานุภาพทางการทหาร สงครามเศรษฐกิจ สงครามสื่อ สงครามการเงิน และอื่นๆ ในทุกแนวรบ
สามเดือนเศษผ่านไป กลุ่ม SCO สามารถยันและรับมือกับทุกกระบวนการกระทำของกลุ่มนาโต้และกลุ่มสหภาพยุโรปได้ และสามารถรุกตอบโต้กลับจนเกิดผลกระทบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง และการดำรงชีวิตของประชาชนในยุโรป เป็นความเดือดร้อนรุนแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ในที่สุดประชาชนในประเทศเหล่านั้นก็ไม่สามารถทนต่อความเดือดร้อนและความไม่เป็นธรรมที่เห็นอยู่ตำตาได้ ไม่สามารถยอมรับนับถือการกระทำของรัฐบาลของตนที่ทุ่มเททุกสิ่งอย่างเพื่อทำร้ายรัสเซีย โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่ประชาชน
ในที่สุดประชาชนในประเทศเหล่านั้นก็พากันเดินขบวนประท้วงและก่อความรุนแรงขึ้นในทุกประเทศ จนความจริงปรากฏชัดถึงสภาพที่รัฐบาลของประเทศเหล่านั้นสร้างกรรมทำเข็ญแก่มวลมนุษย์ สร้างกรรมทำเข็ญแก่ประชาชนในชาติของตนเองอย่างแสนสาหัส จึงยิ่งลุกฮือขึ้นขับไล่รัฐบาล
พลังของประชาชนนั้นยิ่งใหญ่ มีอานุภาพใหญ่หลวง ไม่มีอำนาจการเมืองใดรับมือได้ ดังนั้นพลังกดดันนั้นจึงเป็นผลให้รัฐมนตรีที่ร่วมรัฐบาลไม่สามารถหน้าด้านทนต่อไปได้
สภาพเช่นนั้นกำลังเกิดขึ้นทั่วทั้งยุโรป และล่าสุดอังกฤษซึ่งออกหน้ามากกว่าใครก็ได้รับผลกระทบมากกว่าใคร รัฐมนตรีร่วมรัฐบาลถึง 50 คนยกขบวนกันลาออกเพื่อกดดันให้เปลี่ยนแปลงรัฐบาล เป็นผลให้หัวโจกใหญ่คือนายกรัฐมนตรีต้องลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อให้มีการเลือกผู้ดำรงตำแหน่งนายกต่อไป
นั่นคือปรากฏการณ์ยูเครนสปริงที่กำลังเกิดขึ้นแล้วในยุโรป และปรากฏผลชัดแล้วที่อังกฤษ ซึ่งจะเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้จนกระทั่งทำให้ประเทศยุโรปต้องเปลี่ยนแปลงรัฐบาลครั้งใหญ่ที่สุด และอาจทำให้นาโต้และสหภาพยุโรปล่มสลายก็เป็นได้.