กลุ่มสมาชิกไอเออีเอ ชาติยุโรปและสหรัฐ ลงมติเสียงข้างมาก ต่อต้านอิหร่าน กรณีการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กระทรวงว่าการต่างประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษและสหรัฐอเมริกา ได้ลงมติของคณะกรรมการบริหารทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือไอเออีเอ (IAEA)เป็นเสียงข้างมาก 30 จาก 35 เสียง ในกรณีการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม โดยเตือนอิหร่านว่า “จำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงของตนเองและจะต้องมีความโปร่งใสในกรณีการเสริมแร่ยูเรเนียมอีกด้วย”
ยูโร่นิวส์ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวว่า “ผมขอกล่าวยินดีต่อการตัดสินใจของไอเออีเอจากการมีมติเสียงดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ชัดเจนและแสดงให้เห็นว่า อิหร่านนั้นยังคงเล่นเกมต่อไปและมีการปิดบังที่ซ่อนเร้นอยู่อีกด้วย
หากอิหร่านมีการเคลื่อนไหวอีกต่อไป ชาติมหาอำนาจก็จะต้องนำบัญชีของอิหร่านไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ”
ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของอิสราเอล กล่าวว่า “อิหร่านนั้นเป็นตัวอันตรายสำหรับสันติภาพในภูมิภาคและโลก นอกเหนือจากการประณามแล้ว ก็จะต้องมีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อกล้องวงจรปิดใดๆที่ถูกดับลง ก็จะต้องได้รับการตอบโต้ด้วยการคว่ำบาตรทางการทูตและเศรษฐกิจ” ยูโร่นิวส์รายงาน
อัลอะรอบีย่า Al Arabiya สื่อซาอุดีอาระเบีย รายงานว่า ทางด้านซาอุดีอาระเบียก็ให้การตอบรับต่อมติของไอเออีเอ และยังเรียกร้องให้รัฐบาลกรุงเตหะรานให้ความร่วมมือกับไอเออีเอและแก้ไขปัญหาที่คงเหลืออยู่โดยไร้ความล่าช้าแต่อย่างใด
รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า “มติเสียงข้างมากของไอเออีเอนั้นมีข้อความที่สำคัญสำหรับอิหร่าน เพื่อที่จะสร้างความโปร่งใสในประเด็นที่เหลืออยู่”
มิคาอิล อุลยานอฟ ผู้แทนถาวรของรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า “ตรรกะที่อยู่เบื้องหลังมติดังกล่าวนี้ สามารถที่จะเข้าใจได้ไม่มากก็น้อย แล้วมตินี้จะปรับปรุงความร่วมมือระหว่างเตหะรานกับไอเออีเอได้หรือไม่? และจะช่วยทำให้การเจรจาที่กรุงเวียนนาเสร็จสิ้นลงได้หรือไม่? ดังนั้นในสองกรณีคำตอบเป็นลบ แล้วเหตุใดหรือที่พวกคุณจึงลงมติดังกล่าวนี้?”
ไมเคิล แม็คเคิล Michael McCaull สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “ผมยินดีที่สำนักงานปรมาณูระหว่างประเทศกล่าวประณามอิหร่านสำหรับการขัดขวางที่สร้างปัญหาต่างๆ และถือเป็นสิ่งที่มีความหมายอย่างยิ่งที่รัสเซียและจีนต่างต่อต้านการประณามอิหร่าน ซึ่งเรานั้นไม่สามารถที่จะไว้วางใจอิหร่านได้ในกรณีการเจรจานิวเคลียร์”
โรเบิร์ต เมเนนเดซ ประธานคณะกรรมการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของวุฒิสภาสหรัฐฯ กล่าวว่า “คณะกรรมการไอเออีเอ จะต้องบอกให้อิหร่านต้องรับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการให้ความร่วมมืออย่างทันท่วงทีกับคำถามของไอเออีเอที่เกี่ยวกับวัสดุนิวเคลียร์ที่ไม่ได้ประกาศออกไป ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงการคุ้มครอง safeguard ของอิหร่าน ขณะเดียวกันอิหร่านก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถามของโลกมาหลายต่อครั้งมาแล้วในกรณีโครงการนิวเคลียร์ของตน”
รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า “อิหร่านควรร่วมมือกับไอเออีเอ และให้ข้อมูลทางเทคนิคที่ถูกต้องเพื่อที่จะตอบคำถามและการดำเนินการของอิหร่าน ก็อาจที่จะทำให้วิกฤตนิวเคลียร์เกิดความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นและทำให้ประเทศนี้ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกด้วย
และการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน สามารถที่จะสรุปได้ ก็ต่อเมื่อรัฐบาลเตหะรานยกเลิกข้อเรียกร้องที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมดเสียก่อน”
เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล The Wall Street Journal เปิดเผยว่า ร่างกฏหมายที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคการเมือง เดโมแครตและรีพับลิกันของสหรัฐ จะถูกนำเสนอไปยังสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกา ภายใต้ร่างกฏหมายนี้ระบุว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐได้ร่วมมือกับอิสราเอลและหลายประเทศชาติอาหรับ เพื่อที่จะบูรณาการระบบการป้องกันภัยทางอากาศในการตอบโต้ภัยคุกคามจากอิหร่าน
No Result
View All Result