ไทยเข้าร่วมนาโต้ 2 แล้วหรือไม่?
โดย สิริอัญญา
เรื่องยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก หรือที่ประเทศจีนเรียกว่านาโต้ 2 กำลังเป็นกระแสใหญ่ที่ไหม้ลามไปทั้งบ้านทั้งเมือง และเป็นเหตุทำให้คนทุกเหล่าทุกสีทั้งที่เคยมีความขัดแย้งกันมาก่อนได้มารวมตัวกันเพื่อหาทางไม่ให้ประเทศไทยถลำลึกจมปลักลงไปในนาโต้ 2
ข่าวสารจำนวนมากที่แพร่หลายโดยทั่วไปมีความชัดเจนว่าถ้าประเทศไทยเข้าร่วมนาโต้ 2 ก็มีความเสี่ยงสูงมากที่ประเทศไทยจะเป็นสนามรบแบบยูเครน ทำให้ประเทศไทยที่งดงามและร่มเย็นเป็นสุขมาช้านานแล้วต้องพังพินาศวายวอดแบบเดียวกับที่กำลังเกิดขึ้นในยูเครน
เพราะนาโต้ 2 นั้นเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของสหรัฐและพันธมิตร ที่ถือว่าจีนเป็นภัยคุกคามและต้องต่อต้าน ตลอดจนการกำจัดภัยคุกคามนั้น ถึงขั้นที่ต้องทำสงครามแก่กัน โดยสหรัฐก็มีพันธมิตรหลายประเทศ แต่จีนก็มีพันธมิตรหลายประเทศ มีประชากรของประเทศพันธมิตรของจีนกว่า 5,000 ล้านคน และต่างก็มีอาวุธยุทโธปกรณ์ร้ายแรงจำนวนมาก
ชาวไทยทั่วทั้งประเทศไม่ว่าหมู่เหล่าใดๆ พากันต่อต้านและขัดขวางเพื่อไม่ให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีของนาโต้ 2 และประณามไว้ล่วงหน้าว่าใครก็ตามที่นำประเทศไทยเข้าร่วมนาโต้ 2 ก็คือคนขายชาติ
ดังนั้นเรื่องราวของยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก หรือนาโต้ 2 เรื่องราวที่ประเทศไทยเสี่ยงที่จะเป็นสนามรบแบบยูเครน 2 และผู้กระทำกรรมอันหนักนี้จะถูกตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติ จึงเป็นเรื่องใหญ่ที่แพร่หลายและเป็นข้อห่วงใยกันทั้งบ้านทั้งเมือง
รัฐบาลก็ทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดีและย่อมรู้เป็นอย่างดีด้วยว่าถ้าใครก็ตามชักพาประเทศไทยไปเข้านาโต้ 2 แล้ว ก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติ จะเสื่อมเสียไปถึงครอบครัววงศ์ตระกูลที่คนไทยทั้งประเทศจะต้องตราหน้าไปตลอดกาล
ดังนั้นเมื่อได้ทราบถึงเหตุและผลดังกล่าวแล้วรัฐบาลจึงปฏิเสธมาโดยลำดับว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับนาโต้ 2
เริ่มต้นด้วยกระทรวงการต่างประเทศออกคำแถลงอย่างเป็นทางการว่า ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก นั้นเป็นเรื่องที่สหรัฐทำขึ้นแต่ฝ่ายเดียว ประเทศไทยไม่ได้ตกลงอะไรด้วย และการลงนามในแถลงการณ์ร่วมเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ก็ไม่มีผลผูกพันประเทศไทย
ในขณะที่สถานทูตสหรัฐในประเทศไทยได้นำแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวที่ลงนามโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ของสถานทูต ดังนั้นโดยหลักฐานดังกล่าวจึงชัดเจนว่าพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมเป็นพันธมิตรในยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก กับสหรัฐอเมริกา
ปัญหาคงเหลือคือการลงนามในแถลงการณ์ร่วมนั้นเป็นเรื่องเดียวกับที่ประเทศจีนเรียกว่านาโต้ 2 หรือไม่ และมีผลผูกพันประเทศไทยหรือไม่
เรื่องนี้เป็นเรื่องความเป็นความตายของชาติ ไม่ใช่เรื่องเย็บปักถักร้อย หรือเรื่องที่ทำกันแค่ “เราจะทำตามสัญญา…อีกไม่นาน” เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรุ่งเรืองและหายนะของชาติ ที่ประเทศไทยอาจเป็นคู่สงคราม ซึ่งเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญ และเป็นอำนาจของรัฐสภาด้วย
ไม่เคยปรากฏข่าวว่าพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้นำความกราบบังคมทูลฯ เพื่อขอพระบรมราชวินิจฉัยในเรื่องนี้ และไม่เคยนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาให้ความเห็นชอบของรัฐสภา
ดังนั้นในแง่ของความชอบด้วยกฎหมายก็ถือได้ว่าแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวไม่มีผลผูกพันประเทศไทย แต่ก็ยังคงเป็นปัญหาว่าการตกลงในแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวนั้นมีขอบเขตและความหมายอย่างไร
นั่นคือจะเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับสหรัฐในการตั้งตนเป็นศัตรูกับจีน ในการต่อต้านจีน หรือทำสงครามกับจีน ตามที่สหรัฐกำหนดว่าจีนคือภัยคุกคาม
ถัดมาก็ปรากฏว่าพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมฉบับที่สองกับสหรัฐเมื่อปี 2564 ปรับฐานะจากที่เป็นพันธมิตรในแถลงการณ์ร่วมปี 2562 เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจและพิจารณากันในรายละเอียดถึงความหมายของการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ว่าเป็นอย่างไร
แต่ชาวบ้านย่อมเข้าใจโดยทั่วไปว่าเมื่อเป็นหุ้นส่วนกันก็หมายถึงการได้เสียร่วมกัน หรือถ้าพูดภาษานักเลงก็พูดได้ว่าร่วมหัวจมท้ายด้วยกัน และแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ก็ไม่ปรากฏข่าวว่าได้มีการนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ เพื่อขอพระบรมราชวินิจฉัย หรือนำเข้าสู่การพิจารณาขอความเห็นชอบจากรัฐสภาแต่ประการใด
ถัดมาเป็นปรากฏการณ์สะท้อนจากฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของประเทศไทยและสหรัฐนั่นคือประเทศจีน ดังนั้นรัฐบาลจีนโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจึงได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยและประเทศอาเซียนอีกบางประเทศไปหารือกันที่ประเทศจีน
มีรายงานข่าวว่าในการหารือนั้นฝ่ายจีนได้แจ้งให้รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและผู้เข้าร่วมหารือว่าจีนไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อประเทศใดๆ ในโลกนี้เลย ประเทศจีนไม่เคยรุกรานยึดครองประเทศใด ไม่เคยเข้าแทรกแซงกิจการภายในไปล้มล้างการปกครองของประเทศใดๆ ประเทศจีนมีแต่ร่วมมือกับมิตรประเทศทั้งหลายในการสร้างสันติภาพและในการพัฒนาร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ดังนั้นถ้าประเทศใดตั้งตนเป็นศัตรูกับจีน เข้าร่วมกับนาโต้ 2 ในการต่อต้านจีน คุกคามประเทศจีน และเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศจีนแล้วไซร้ ประเทศจีนก็จะขัดขวางและต่อต้านทุกวิถีทาง
นั่นเป็นการพูดภาษาการทูต แต่ความหมายก็คือจีนพร้อมที่จะตอบโต้กับภัยคุกคามในทุกวิถีทาง แม้จะถึงขั้นทำสงครามแก่กัน
หมายความว่าสิ่งที่เรียกว่านาโต้ 2 นั้นจีนถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของจีน เป็นการตั้งขบวนการเพื่อต่อต้านหรือทำสงครามกับจีน นี่คือความรู้สึกซึ่งอาจเกิดจากการประมวลข้อมูลอย่างพรั่งพร้อมตามวิสัยของชาติมหาอำนาจ จึงเป็นเรื่องที่ดูแคลนไม่ได้
รวมความก็คือจีนได้แจ้งแก่รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยแล้วว่าจีนพร้อมจะขัดขวางและต่อต้านภัยคุกคามจากยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก หรือที่เรียกว่านาโต้ 2 ในทุกวิถีทาง ซึ่งเป็นธรรมเนียมของจีนมาตั้งแต่โบราณว่าเมื่อจะทำการศึกสงครามกับใครแล้วก็จะต้องแจ้งให้ทราบและทำความเข้าใจเสียก่อนเพื่อจะได้ไม่ถลำลึกจมปลักลงในการก่อสงคราม
ดังนั้นใครจะแก้ตัวกันอย่างไรก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ก็ต้องสำเหนียกว่าประเทศที่ได้รับผลกระทบเขารู้สึกและเข้าใจเรื่องนี้ว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของจีน ซึ่งย่อมหมายถึงพันธมิตรของจีน คือ รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนามด้วย
ดังนั้นเมื่อรัฐบาลปฏิเสธในเรื่องนี้ จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนชาวไทยจะต้องติดตามหาความจริงกันต่อไป ในขณะที่ต้องสามัคคีกันเพื่อต่อต้านขัดขวางไม่ให้นาโต้ 2 เกิดขึ้นกับประเทศไทย
No Result
View All Result