แอมเนสตี้ เรียกร้องดำเนินคดีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารพลเรือนยูเครน ชี้มีหลักฐานยืนยันชัดเจนถึงการก่ออาชญกรรมสงครามโดยรัสเซีย
วันที่ 6 พ.ค. 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นองค์กรรณรงค์เกี่ยวกับประเด็นในเรื่องสิทธิมนุษยชน ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการดำเนินคดีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารพลเรือนในยูเครน โดยระบุว่ามีหลักฐานชัดเจนที่ชี้ให้เห็นว่าทหารรัสเซียกระทำการที่เป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม รวมถึงการสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ขณะเข้ายึดครองพื้นที่รอบกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ในช่วงเดือนก.พ.-มี.ค. ที่ผ่านมา
แถลงการณ์ของแอมเนสตี้ระบุว่า พลเรือนชาวยูเครนถูกล่วงละเมิดทั้งจากการยิงโดยไม่ตั้งใจและการทารุณกรรม ด้วยน้ำมือของทหารรัสเซียระหว่างการโจมตีกรุงเคียฟในช่วงแรกที่รัสเซียนำกองกำลังเข้ารุกรานอยู่เครนตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.
“รูปแบบของอาชญากรรมสงครามที่กระทำโดยกองกำลังรัสเซียซึ่งเราได้บันทึกไว้นั้น มีทั้งการโจมตีอย่างผิดกฎหมาย และการจงใจสังหารพลเรือน ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้รับผิดชอบทั้งหมด รวมถึงผู้มีอำนาจสั่งการ จะต้องถูกนำตัวมาดำเนินคดี” แอกเนส คัลลามาร์ด เลขาธิการของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว
แอมเนสตี้ระบุว่า ทางองค์กรได้ทำการรวบรวมหลักฐานและคำให้การจากผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง 8 แห่งรอบกรุงเคียฟ รวมถึงในเมืองบูชา ซึ่งปรากฏภาพการสังหารหมู่ภายหลังจากที่ทหารรัสเซียได้ถอนกำลังออกมาจากเมืองเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา และทางการยูเครนได้ออกมาเปิดเผยหลังจากที่เข้าตรวจสอบสถานการณ์ว่า พบศพพลเรือนถูกสังหารอย่างน้อย 1,235 รายในเมืองนี้และภูมิภาคโดยรอบ
รายงานของแอมเนสตี้ยังระบุด้วยว่า จากการสำรวจผู้เสียชีวิตในเมืองบูชา พบบางรายถูกสังหารด้วยปืนไรเฟิล ซึ่งเป็นอาวุธเฉพาะที่ใช้ในหน่วยรบพิเศษของรัสเซียบางหน่วย อีกทั้งยังพบหัวกระสุน 7N12 ขนาด 9×39 มม. ซึ่งถูกใช้โดยหน่วยทหารชั้นยอดของรัสเซียตกอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย
นอกจากนี้ ข้อความในแถลงการณ์ยังระบุว่า มีเหตุการณ์อย่างน้อย 22 เหตุการณ์ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสังหารพลเรือนโดยผิดกฎหมายของทหารรัสเซีย ในบริเวณเมืองบูชาและพื้นที่ใกล้เคียงที่ถูกบันทึกไว้ รวมถึงการทิ้งระเบิดจากอากาศยานใส่ที่อาคารพักอาศัยในเมืองโบโรเดียนกา ซึ่งได้คร่าชีวิตพลเรือนไปอย่างน้อย 40 ราย เมื่อวันที่ 1-2 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ได้ถูกระบุว่า เป็นการดำเนินการที่ขาดการไตร่ตรองและไร้ซึ่งเหตุผล และเป็นการก่ออาชญากรรมสงครามโดยกองทัพรัสเซียที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน
“เราได้พบกับครอบครัวที่ต้องสูญเสียบุคคลที่รักไปจากการถูกสังหารในสงครามที่น่าสะพรึงกลัว และชีวิตของพวกเขาก็ต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลเนื่องจากการรุกรานของรัสเซีย เราสนับสนุนการควงคืนความยุติธรรมของพวกเขา และขอเรียกร้องให้ทางการยูเครน ศาลอาญาระหว่างประเทศ และหน่วยงานอื่นๆ ดำเนินการตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้มีการเก็บรักษาหลักฐานสำคัญที่จะสามารถนำมาสนับสนุนการดำเนินคดีอาชญากรรมสงครามในอนาคตต่อรัสเซียเอาไว้” เลขาธิการแอมเนสตี้ระบุในแถลงการณ์
ทั้งนี้ รัสเซียออกมาปฏิเสธตลอดว่า ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนนั้น พุ่งเป้าไปที่ทหารและจุดยุทธศาสตร์ของยูเครน เพื่อปลดอาวุธและปกป้องยูเครนจากลัทธิเผด็จการฟาสซิสต์ พร้อมกับยืนยันว่ากองทัพรัสเซียไม่เคยล่วงละเมิดพลเรือน ขณะที่ทางฝั่งยูเครนและตะวันตกระบุว่า การปกป้องยูเครนจากฟาสซิสต์นั้นเป็นเพียงข้ออ้างในการรุกรานยูเครนอย่างไร้เหตุผล
ที่มา
https://apnews.com/article/russia-ukraine-kyiv-europe-war-crimes-amnesty-international-5f551b78754ba18e1de820aa97444535
https://www.reuters.com/world/europe/amnesty-says-evidence-shows-russian-troops-committed-war-crimes-near-kyiv-2022-05-06/