สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ตรัส ต้องการพบปูติน คุยเรื่องสงครามยูเครน
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสตรัสในบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (3 พ.ค.) ระบุต้องการพบประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเพื่อพูดคุยเรื่องสงครามยูเครน พร้อมเปรียบเทียบการนองเลือดที่เกิดขึ้นว่าไม่ต่างจากการสังหารหมู่ที่รวันดา ขณะเดียวกัน ทรงชี้ว่าชนวนเหตุของสงครามครั้งนี้อาจมาจากพฤติกรรมขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่ไปข่มขู่รัสเซียถึงหน้าบ้าน
โป๊ปฟรานซิสได้ประทานสัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์ Corriere Della Sera ของอิตาลี โดยตรัสว่าพระองค์เคยส่งสาส์นถึงปูติน ราวๆ 20 วันหลังเกิดสงคราม เพื่อบอกกับเขาว่า “ข้าพเจ้ายินดีที่จะเดินทางไปมอสโก”
“เรายังไม่ได้รับคำตอบใดๆ และยังยืนกรานข้อเสนอนั้นอยู่ แต่ข้าพเจ้าเกรงว่า ปูติน อาจจะไม่สามารถ หรือไม่ต้องการที่จะพบกับข้าพเจ้าในเวลานี้”
“แต่เราจะไม่พยายามยับยั้งความรุนแรงป่าเถื่อนนี้ได้หรือ? เมื่อ 25 ปีก่อน เราก็ได้เห็นสิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นที่รวันดามาแล้ว”
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยชาวทุตซี (Tutsi) โดยรัฐบาลฮูตูสุดโต่งระหว่างเดือน เม.ย.-ก.ค. ปี 1994 ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปราว 800,000 คน และถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สังหารหมู่ครั้งเลวร้ายที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 20
โป๊ปฟรานซิสทรงออกมาเรียกร้องสันติภาพในยูเครนอย่างต่อเนื่อง และทรงประณาม “สงครามที่โหดร้ายและขาดสติ” ครั้งนี้ โดยไม่ได้ทรงเอ่ยถึง ปูติน หรือมอสโกตรงๆ
“ข้าพเจ้ายังไม่ไปกรุงเคียฟในตอนนี้ ข้าพเจ้าคิดว่ายังไม่ควรที่จะไป ข้าพเจ้าจะต้องไปเยือนมอสโกก่อน และต้องได้พบกับ ปูติน ก่อน” โป๊ปตรัส
ประมุขแห่งคริสตจักรคาทอลิกยังทรงฝากคำเตือนผ่านทางโทรศัพท์ไปถึง “อัครบิดรคีริลล์” แห่งคริสตจักรรัสเซียออร์โธดอกซ์ว่าไม่ควรยอมเป็น “เด็กประจำแท่นบูชาของปูติน” (Putin’s altar boy)
นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. อัครบิดรคีริลล์ก็แสดงจุดยืนปกป้องการทำสงครามต่อต้าน “ศัตรูทั้งภายนอกและภายใน” ของ ปูติน มาโดยตลอด ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงจากการเรียกร้องสันติภาพของโป๊ปฟรานซิส
เมื่อสื่อทูลถามว่าอะไรคือสาเหตุของสงครามครั้งนี้ โป๊ปทรงตอบว่า “ความโกรธเกรี้ยว” ของเครมลินนั้นอาจจะถูกกระตุ้นโดย “เสียงเห่าของนาโตที่หน้าประตูบ้านรัสเซีย”
คำพูดของโป๊ปนำมาซึ่งปฏิกิริยาตอบโต้จากโปแลนด์ โดยรัฐมนตรีกระทรวงการศึกษา พริเซอมิสลาฟ ชาร์เนก (Przemyslaw Czarnek) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อโทรทัศน์แห่งชาติว่า “แน่นอนว่าพวกเราหลายคนคงกุมขมับ เมื่อได้ยินสิ่งที่โป๊ปพูด”