นักวิจัยชาวอิสราเอล ชี้ หากนาโต้ส่งทหารเข้ายูเครน จะไม่เกิดสงครามโลก
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ดร. ลิมอร์ ซิมฮอนี (Dr. Limor Simhony) ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อการร้าย นักวิจัยของ Institute for National Security Studies(อิสราเอล) เขียนบทความในเว็บไซต์ Foreign Policy นิตยสารด้านกิจการต่างประเทศที่ทรงอิทธิพลของสหรัฐโดยบอกว่า “การแทรกแซงของนาโต ในยูเครนจะไม่จุดชนวนสงครามโลกครั้งที่สาม”
ดร. ซิมฮอนี กล่าว่า มีเหตุผลสองประการที่ไม่น่าเป็นไปได้ว่าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม “อย่างแรกคือความสามารถทางทหารของรัสเซียนั้นแย่เมื่อเทียบกับความสามารถของกองทัพตะวันตก กองกำลังของพวกเขาไม่ได้รับการฝึกฝนเพียงพอ อุปกรณ์และอาวุธของพวกเขาล้าสมัยและด้อยกว่า พวกเขาประสบปัญหาด้านลอจิสติกส์ การปฏิบัติงาน และยุทธวิธีที่สำคัญ และทหารของพวกเขามีขวัญกำลังใจต่ำ”
เหตุผลข้อที่สอง ดร. ซิมฮอนี ชี้ว่าเพราะปรัสเซียกกำลังถูกโดดเดี่ยวมากขึ้น แม้แต่พันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดของรัสเซียก็คือจีน “ก็ยังคงอยู่ข้างสนามตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น” โดยจีนงดออกเสียงคัดค้านมติของสหประชาชาติที่เรียกร้องให้รัสเซียยุติการรุกราน ส่วน ประเทศที่โหวตให้ปฏิเสธการประณามรัสเซียคือเบลารุส เกาหลีเหนือ เอริเทรีย และซีเรีย “ซึ่งแทบจะไม่เป็นพันธมิตรที่จะเอาชนะได้เลย”
ดร. ซิมฮอนี จึงสรุปว่า “ปัจจัยเหล่านี้หมายความว่าไม่มีความเสี่ยงสูงที่จะเพิ่มความรุนแรงในสงครามโลกทั้งหมดแบบเบ็ดเสร็จ” และควรทำให้ชาติตะวันตกเปลี่ยนใจไปช่วยยูเครนด้วยการแทรกแซงทางการทหาร
ส่วนภัยคุกคามจากสงครามนิวเคลียร์นั้น ดร. ซิมฮอนีกล่าวว่า “ความเสี่ยงนี้มีจำกัด เมื่อพิจารณาว่าการตอบโต้ใดๆ อาจส่งผลกระทบต่อรัสเซียเช่นกัน” ด้วยเหตุผลนี้ ซิมฮอนีจึงย้ำวา่การแทรกแซง “ความขัดแย้งในท้องถิ่น” จะไม่ขยายวงเป็นสงครามโลก และชาติตะวันตกควรเข้าไปแทรกแซงทางการทหารได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในการให้สัมภาษณ์กับ Die Welt เมื่อวันที่ 2 เมษายน นายพลเอเบอร์ฮารืด ซอร์น (Eberhard Zorn) ของเยอรมนี ได้ให้คำตอบเมื่อถูกถามว่า นาโตสามารถเข้าไปพัวพันกับยูเครนได้หรือไม่ หากรัสเซียใช้อาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง ซึ่งนายพลเยอรมันเน้นย้ำว่า “สิ่งที่นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐเยอรมนีและประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ได้กล่าวไว้” คือ “เราจะไม่ส่งกำลังของเราไปยังดินแดนของยูเครนไม่ว่าในกรณีใด”
ซอร์น กล่าวว่า “ในขณะนี้ เราไม่เห็นสัญญาณบ่งชี้ว่ารัสเซียกำลังจู่โจมประเทศสมาชิกนาโต” ทำให้นาโตมีเวลาเสริมแสนยานุภาพทางตะวันออกได้ และ “จะเคลื่อนไหวกองกำลังรบที่จำเป็นในทุกประเทศตั้งแต่ทะเลบอลติกไปจนถึงทะเลดำภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม”
No Result
View All Result