ประธานาธิบดียูเครน ชี้ ยูเครนจะไม่ดึงดันและกดดันให้นาโต้รับยูเครนเป็นสมาชิก

Related posts

ไบเดน ชี้ สหรัฐฯ ไม่สนับสนุนอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้อิหร่าน

ตุลาคม 3, 2024

กระทรวงการต่างประเทศเตือน! คนไทย หากไม่จำเป็นขอให้เดินทางออกจากอิสราเอล

ตุลาคม 2, 2024

ประธานาธิบดียูเครน ชี้ ยูเครนจะไม่ดึงดันและกดดันให้นาโต้รับยูเครนเป็นสมาชิก

Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เผยว่า ยูเครนจะไม่ดึงดันและกดดันให้องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกแล้ว ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เงื่อนไขที่รัฐบาลรัสเซียยื่นข้อเสนอต่อยูเครน หากต้องการให้ยุติสงครามในครั้งนี้

โดยผู้นำยูเครนระบุว่า “ผมควบคุมสติและพิจารณาประเด็นนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว และเข้าใจว่า นาโต้ไม่พร้อมที่จะอ้าแขนรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก กลุ่มพันธมิตรนี้เกรงจะเผชิญต่อความขัดแย้งที่จะตามมา และเกรงจะต้องเผชิญหน้ากับรัสเซีย” ซึ่งเขายังเผยอีกว่า เขาไม่ต้องการจะเป็นประธานาธิบดีของประเทศที่ต้องนั่งคุกเข่าร้องขอความช่วยเหลือจากใคร

ทางการรัสเซียนั้นไม่ต้องการให้ประเทศเพื่อนบ้านของตนอย่างยูเครนสมัครเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ NATO องค์กรพันธมิตรทางทหารที่ก่อตั้งขึ้นในช่วงสงครามเย็น เพื่อปกป้องยุโรปจากสหภาพโซเวียตที่เป็นพี่ใหญ่ของสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ในช่วงเวลานั้น หากรัสเซียปล่อยให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิก NATO ได้สำเร็จ จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัสเซียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รัสเซียจึงใช้ประเด็นนี้เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญในการตัดสินใจรุกรานยูเครน รัสเซียจึงต้องการให้ยูเครนแก้รัฐธรรมนูญของตนและประกาศตนเป็นกลาง กล่าวคือ ต้องไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO และสหภาพยุโรป (EU)

ในขณะที่เงื่อนไขอีกข้อคือ ทางการยูเครนจะต้องรับรองเอกราชให้แก่แคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ แคว้นทางภาคตะวันออกของยูเครนที่สนับสนุนรัสเซีย และได้รับการรับรองเอกราชจากรัสเซียก่อนที่จะเปิดฉากรุกรานยูเครน ซึ่งด้านผู้นำยูเครนระบุว่า ประตูของการเจรจาประนีประนอมสำหรับประเด็นนี้ยังเปิดอยู่เสมอ และต้องการให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียหันหน้ามาพูดคุยและสื่อสารกัน มากกว่าที่จะใช้กำลังทางทหารบีบบังคับและทำร้ายชาวยูเครน

“สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผมคือ ประชาชนในแคว้นสองแคว้นนั้นที่ยังอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของยูเครนจะเป็นอย่างไร อีกทั้งคนในยูเครนก็ต้องการให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศนี้

นี่เป็นอีกหนึ่งคำขาดและเราไม่ได้เตรียมพร้อมต่อคำขาดเหล่านี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำมากที่สุดในเวลานี้คือ ประธานาธิบดีปูตินต้องเริ่มที่จะพูดคุยเจรจาได้แล้ว”

โดยเงื่อนไขอีกสองข้อที่เหลือคือ ทางการยูเครนจะต้องยอมรับว่า ไครเมียร์ที่เคยถูกรัสเซียผนวกรวมเมื่อปี 2014 เป็นของรัสเซีย และต้องยุติปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดของยูเครน หากบรรลุเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อ ทางการรัสเซียจะยุติการรุกรานยูเครนในทันที