ทำไมจึงเกิดความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ เจาะไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์อิสราเอล ภาคแรก ตอนประวัติศาสตร์อิสราเอลแบบคร่าวๆ
เนื้อหาที่เกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ จะขอนำเสนอในรูปแบบของไทม์ไลน์เวลา ดังนั้นในบางเหตุการณ์ที่มีความละเอียดซับซ้อน อาจจะไม่ได้ปรากฏอยู่ในไทม์ไลน์นี้
เนื้อหาจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ภาคหลักคือ
ภาคแรก ประวัติศาสตร์อิสราเอลแบบคร่าวๆ
ภาคที่สอง กำเนิดรัฐอิสราเอล
ภาคที่สาม ความขัดแย้งจนถึงปัจจุบัน
ภาคแรก ประวัติศาสตร์อิสราเอลแบบคร่าว ๆ
ราว 2,000 ปีก่อนคริสตกาล
อับราฮัม (Abraham) นำชาวฮีบรู (Hebrew) เดินทางอพยพจากดินแดนเมโสโปเตเมียเข้ามาในดินแดนคานาอัน (Canaan) หรือดินแดนแห่งพันธสัญญา (Promise Land) ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานให้กับชาวฮีบรู
ราว 1,500 ปีก่อนคริสตกาล
ภัยพิบัติทางธรรมชาติทำให้ชาวฮีบรูตัดสินละทิ้งดินแดนคานาอันและอพยพไปยังอียิปต์ แต่พวกเขาก็ได้กลายเป็นทาสที่อียิปต์ยาวนานหลายร้อยปี
ราว 1,300 ปีก่อนคริสตกาล
โมเสส (Moses) ได้ช่วยเหลือและอพยพชาวฮีบรูออกจากอียิปต์ เกิดเหตุการณ์สำคัญอย่างเอ็กโซดัส (Exodus) ที่โมเสสได้แยกทะเลแดงเพื่อให้ชาวฮีบรูสามารถหลบหนีจากทหารอียิปต์ รวมไปถึงเหตุการณ์ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานบัญญัติ 10 ประการ (Ten Commandments) เพื่อให้โมเสสใช้สั่งสอนแก่ชาวฮีบรู
เมื่อชาวฮีบรูอพยพมาถึงดินแดนคานาอัน ปรากฏว่าในขณะนั้นดินแดนคานาอันได้ตกเป็นของชาวฟิลิสทีน (Philistine) ซึ่งชื่อฟิลิสทีนก็เป็นที่มาของคำว่า “ปาเลสไตน์” (Palestine) ด้วยเหตุนี้ชาวฮีบรูจึงต้องทำสงครามกับชาวฟิลิสไตน์เพื่อแย่งชิงดินแดนคานาอัน
ราว 1,020 ปีก่อนคริสตกาล
ซาอูล (Saul) ผู้นำของชาวฮีบรูได้ถูกเลือกให้เป็นกษัตริย์พระองค์แรกของชาวฮีบรู
ในช่วงเวลาเดียวกันเด็กหนุ่มนามว่า เดวิด (David) ก็ได้สร้างวีรกรรมในการสังหารแม่ทัพโกไลแอธ (Goliath) ของฟิลิสไตน์ จนเป็นที่เลื่องลือของชาวฮีบรู
ราว 1,010 ปีก่อนคริสตกาล
ซาอูลสิ้นพระชนม์ ชาวฮีบรูได้เลือกเดวิดเป็นกษัตริย์ สถาปนาอาณาจักรอิสราเอล (Kingdom of Israel) โดยมีกรุงเยรูซาเล็ม (Jerusalem) เป็นเมืองหลวง ชาวฮีบรูเอาชนะชาวฟิลิสไตน์ได้อย่างเด็ดขาด
970 ถึง 931 ปีก่อนคริสตกาล
อาณาจักรอิสราเอลรุ่งเรืองถึงขีดสุดในสมัยของกษัตริย์โซโลมอน (Solomon) มีการก่อสร้างมหาวิหารโซโลมอน (Solomon’s Temple) อันเป็นศาสนสถานที่สำคัญของชาวฮีบรู
926 ปีก่อนคริสตกาล
หลังโซโลมอนสิ้นพระชนม์เกิดความแตกแยกภายในหมู่ชาวฮีบรู จนทำให้อาณาจักรอิสราเอลแตกออกเป็น 2 ส่วน คืออาณาจักรอิสราเอลเดิมที่มีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงซามาเลีย (Samalia) กับอาณาจักรยูดาห์หรือยิว (Kingdom of Judah) ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่นครเยรูซาเล็ม
722 ปีก่อนคริสตกาล
อาณาจักรอิสราเอลล่มสลายจากการบุกโจมตีของจักรวรรดิอัสซีเรียใหม่
587 ปีก่อนคริสตกาล
อาณาจักรยูดาห์ล่มสลายจากการบุกโจมตีของจักรวรรดิบาบิโลนใหม่ มหาวิหารโซโลมอนถูกทำลาย ชาวฮีบรูถูกกวาดต้อนไปที่กรุงบาบิโลน
ราว 530 ปีก่อนคริสตกาล
จักรวรรดิเปอร์เซียขยายอำนาจและยึดครองบาบิโลน พระเจ้าไซรัสมหาราช (Cyrus the Great) กษัตริย์เปอร์เซียทรงปลดปล่อยชาวฮีบรูในบาบิโลนให้เดินทางกลับมายังดินแดนบ้านเกิด
ชาวฮีบรูได้ฟื้นฟูกรุงเยรูซาเล็ม และก่อสร้างมหาวิหารเฮรอด (Herod’s Temple) เพื่อทดแทนมหาวิหารโซโลมอนที่ถูกทำลายไป
331 ปีก่อนคริสตกาล
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great) แห่งจักรวรรดิมาชิโดเนียบุกยึดครองอิสราเอล
64 ปีก่อนคริสตกาล
โรมันได้ผนวกอิสราเอลให้เป็นส่วนหนึ่งของโรมันในชื่อแคว้นยูเดีย (Judea) ซึ่งในช่วงเวลานี้เอง ที่ชาวฮีบรูถูกเรียกโดยโรมันว่า ชาวยิว
ค.ศ. 5 ถึง 30
ช่วงชีวิตของพระเยซู (Jesus) ศาสดาของศาสนาคริสต์ ซึ่งเป็นชาวยิวที่อาศัยอยู่ในแคว้นยูเดีย
66-73 ค.ศ.
ชาวยิวในแคว้นยูเดียก่อกบฏเพื่อต่อต้านอำนาจของโรมันแต่ไม่ประสบความสำเร็จ กรุงเยรูซาเล็มและมหาวิหารเฮรอดถูกเผาทำลาย ชาวยิวถูกเข่นฆ่าเป็นจำนวนมาก
คริสศักราช131-135
ชาวยิวพยายามก่อกบฏต่อต้านโรมันอีกครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จอีก ในช่วงเวลานี้เองที่ชาวยิวได้เริ่มอพยพออกจากแคว้นยูเดีย และเดินทางไปยังดินแดนต่าง ๆ ทั่วทั้งทวีปยุโรป
ศตวรรษที่ 5
ดินแดนอิสราเอลตกอยู่ภายใต้อำนาจของจักรวรรดิไบแซนไทน์ มีการปราบปรามชาวยิวครั้งใหญ่ ทำให้ชาวยิวอพยพออกจากอิสราเอลมากยิ่งขึ้น
ศตวรรษที่ 7
ดินแดนอิสราเอลตกอยู่ภายใต้อำนาจของจักรวรรดิอิสลาม ชาวอาหรับที่นับถือศาสนาอิสลามเริ่มอพยพเข้าไปอยู่ในดินแดนอิสราเอล ซึ่งพวกเขาจะกลายมาเป็นชาวปาเลสไตน์ในเวลาต่อมา ดินแดนอิสราเอลเริ่มถูกเรียกชื่อเป็นดินแดนปาเลสไตน์
ศตวรรษที่ 11 ถึง 13
นครเยรูซาเล็มและดินแดนปาเลสไตน์ตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งของสงครามครูเสด
ศตวรรษที่ 15 -16
ดินแดนปาเลสไตน์ตกอยู่ภายใต้อำนาจของจักรวรรดิออตโตมัน
อิสราเอลและอียิปต์ทำข้อตกลงสันติภาพแคมป์เดวิด (Camp David Accord) โดยมีสหรัฐฯ เป็นตัวกลาง
ศตวรรษที่ 15 จนถึง 19
ชาวยิวที่กระจัดกระจายทั่วทั้งยุโรป (รวมไปถึงทั่วโลก) ก็ได้ตกอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก พวกเขาอาศัยอยู่อย่างเร่ร่อนไม่มีหลักแหล่ง และเป็นที่รังเกียจของชาวยุโรป (โดยเฉพาะกับชาวคริสต์)
หลังจากที่พวกเขาต้องร่อนเร่กว่าพันปี นั่นจึงทำให้มีชาวยิวบางกลุ่มต้องการที่จะเดินทางกลับมายังดินแดนอิสราเอล (หรือดินแดนปาเลสไตน์) อันเป็นดินแดนที่พวกเขาจากมา
No Result
View All Result