รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ย้ำสถานะเป็นหุ้นส่วนใกล้ชิดกับกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ กล่าวต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (จีซีซี) และพันธมิตร ที่เมืองเจดดาห์ ทางตะวันตกของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่ารัฐบาลวอชิงตันยังคงเป็นหนึ่งใน “หุ้นส่วนการลงทุนที่ใกล้ชิด” ของจีซีซี
ขณะเดียวกัน จีซีซีคือ “แกนกลางวิสัยทัศน์” ของสหรัฐ ด้านนโยบายตะวันออกกลาง ซึ่งนับจากนี้จะเป็นภูมิภาคที่มีเสถียรภาพ ปลอดภัย และรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป นอกจากนั้น บลิงเคนเรียกร้องการเพิ่มความร่วมมือจากจีซีซี เพื่อคลี่คลายสงครามกลางเมืองในเยเมน “พฤติการณ์บ่อนทำลาย” ของอิหร่าน และการผลักดันทางออกทางการเมืองให้กับซีเรีย ตลอดจนการที่กลุ่มประเทศอาหรับ “ขยายขอบเขตและส่งเสริมความสัมพันธ์” กับอิสราเอล
แม้ต่างฝ่ายต่างยังคงยืนยันว่า ให้ความสำคัญต่อกันในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับซาอุดีอาระเบีย ตึงเครียดมากขึ้น ภายในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เริ่มจากการฆาตกรรมนายจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลริยาด ภายในสถานกงสุลใหญ่ซาอุดีอาระเบีย ที่เมืองอิสตันบูลของตุรกี เมื่อปี 2561
ทั้งนี้ ก่อนเข้าร่วมการประชุมจีซีซี บลิงเคนเข้าเฝ้าฯ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีแห่งซาอุดีอาระเบีย โดยทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในหลายประเด็น
ต่อจากนั้น ซาอุดีอาระเบียเปิดรับการเข้ามาของจีนในตะวันออกกลาง และมีการยกระดับความร่วมมือระหว่างกันในหลายด้าน โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับพลังงาน และการที่รัฐบาลปักกิ่งเป็นคนกลาง ให้ซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านกลับมาฟื้นฟูความสัมพันธ์ และการที่รัฐบาลริยาดมีบทบาทสำคัญ ให้สันนิบาตอาหรับรับซีเรียกลับเข้าเป็นสมาชิก เมื่อเดือนที่แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น รัฐบาลวอชิงตันยังคงไม่พอใจอย่างหนัก ต่อการที่องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (โอเปก) ซึ่งมีซาอุดีอาระเบีย ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกเป็นหัวเรือใหญ่ และร่วมด้วยรัสเซีย ตลอดจนผู้ผลิตน้ำมันอีกหลายประเทศ ในนาม “โอเปกพลัส” ยังคงลดเพดานการผลิตน้ำมัน ส่งผลให้ราคาเชื้อเพลิงในสหรัฐแพงขึ้นมาก
ที่มา
We appreciate the Gulf Cooperation Council @GCC’s partnership, including our urgent work together on the situation in Sudan, seeking a durable solution to the conflict in Yemen, and countering Iran’s destabilizing behavior. pic.twitter.com/xaGQvV6HK3
— Secretary Antony Blinken (@SecBlinken) June 7, 2023