นิวยอร์กซิตี้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังประสบวิกฤตผู้อพยพไหลทะลักเข้าเมือง
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า
เอริก อดัมส์ นายกเทศมนตรีนิวยอร์กซิตี้ สหรัฐอเมริกา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังประสบวิกฤตผู้อพยพหลั่งไหลเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดว่ามีผู้อพยพมากกว่า 17,000 ราย เดินทางมาถึงเมืองแห่งนี้ นับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้อพยพในนิวยอร์กซิตี้สูงกว่า 61,000 รายแล้ว เตรียมทำลายสถิติที่เคยบันทึกไว้ที่ 61,415 ราย เมื่อปี 2019
ส่วนหนึ่งสืบเนื่องมาจากทางการสหรัฐฯ เปิดรับบรรดาผู้อพยพลี้ภัยอย่างต่อเนื่อง หลายรัฐที่เป็นรีพับลิกันอย่างเท็กซัส แอริโซนา และฟลอริดา ต่างส่งบรรดาผู้อพยพเหล่านี้มายังพื้นที่ต่างๆ ที่เดโมแครตคุมเสียงข้างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
อดัมส์เผยว่า นับตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา เฉลี่ยแล้วมีผู้อพยพราว 5-6 คันรถบัสเดินทางมาถึงเมืองแห่งนี้ในแต่ละวัน โดย 1 ใน 5 ของผู้อพยพในระบบเหล่านี้เป็นผู้ขอลี้ภัย อีกทั้งส่วนใหญ่ยังเดินทางมาพร้อมกับครอบครัวที่มีเด็กในช่วงวัยเรียน และบางรายต้องได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน
การไหลทะลักของบรรดาผู้อพยพดังกล่าว ทำให้ทางการนิวยอร์กจะต้องสูญเสียงบประมาณราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.75 หมื่นล้านบาท) ในปีงบประมาณนี้ และทางการนิวยอร์กซิตี้กำลังเรียกร้องให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ สนับสนุนค่าใช้จ่ายดังกล่าว
อดัมส์เผยว่า “ชาวนิวยอร์กจำนวนไม่น้อยกำลังไม่พอใจ ไม่เคยมีข้อตกลงใดที่เราจะต้องมารับทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้ขอลี้ภัยจำนวนมากเท่านี้ งบประมาณของเมืองที่ตั้งใจจะนำไปใช้ในเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าลดน้อยลงเรื่อยๆ นิวยอร์กซิตี้กำลังทำทุกอย่างที่เราทำได้ แต่เราก็กำลังจะเกินลิมิตที่เราสามารถมอบความช่วยเหลือให้พวกเขาได้แล้วเช่นกัน”
โดยสหรัฐฯ นับเป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้นๆ ของโลกที่เป็นจุดหมายปลายทางของบรรดาผู้อพยพลี้ภัยที่ต้องการจะเดินทางไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ หลังจากประสบกับภัยสงครามความขัดแย้ง วิกฤตเศรษฐกิจ ความยากจนสุดขีด และความท้าทายอื่นๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นในประชาคมโลก เป็นอีกหนึ่งภาพที่สะท้อนวิกฤตด้านความมั่นคงของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี
แหล่งข่าว
https://www.bbc.com/news/world-us-canada-63177892
https://www.cbsnews.com/news/new-york-declares-state-of-emergency-migrant-arrivals/
https://www.nytimes.com/2022/10/07/nyregion/eric-adams-migrant-crisis-response.html