อิหร่าน ประกาศความสำเร็จในการยิงทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวรุ่นใหม่ซึ่งมีรัศมีทำการถึง 2,000 กิโลเมตรวันนี้ (25 พ.ค.) เพียง 2 วันหลังจากที่ผู้บัญชาการกองทัพอิสราเอลขู่จะใช้มาตรการต่อต้านโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า
อิหร่านซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในชาติตะวันออกกลางที่มีโครงการพัฒนาขีปนาวุธขนาดใหญ่ที่สุด ระบุว่า ขีปนาวุธรุ่นนี้สามารถเดินทางได้ถึง “อิสราเอล” รวมถึงบรรดาฐานทัพสหรัฐฯ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค
แม้จะถูกสหรัฐฯ และชาติตะวันตกข่มขู่ต่างๆ นานา แต่รัฐบาลอิหร่านยังประกาศเสียงแข็งว่าจะเดินหน้าพัฒนาขีปนาวุธ “เพื่อการป้องกันประเทศ” ต่อไป
“สารที่อิหร่านต้องการส่งไปถึงบรรดาศัตรูทั้งหลายก็คือ เราจะปกป้องประเทศและความสำเร็จของเรา ส่วนสารที่เราอยากจะส่งไปถึงบรรดามิตรประเทศก็คือ อิหร่านจะธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพในภูมิภาค” โมฮัมหมัดรีซา อัชติอานี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอิหร่าน ระบุในถ้อยแถลง
สถานีโทรทัศน์แห่งชาติอิหร่านเผยแพร่คลิปการทดสอบขีปนาวุธโครัมชาห์ร 4 (Khoramshahr 4) รุ่นอัปเกรด ซึ่งมีพิสัยโจมตีไกลถึง 2,000 กิโลเมตร และสามารถบรรทุกหัวรบที่มีน้ำหนักสูงสุด 1,500 กิโลกรัม
ด้านสำนักข่าว IRNA ของทางการอิหร่านรายงานว่า ขีปนาวุธรุ่นนี้มีชื่อเรียกว่า “เคย์บาร์” (Kheibar) โดยสื่อความถึงป้อมปราการของชาวยิวที่ถูกนักรบมุสลิมทำลายในช่วงเริ่มต้นเผยแผ่ศาสนาอิสลาม
รัฐบาลอิสราเอลมองอิหร่านว่าเป็นภัยคุกคามความอยู่รอด (existential threat) ของตน ในขณะที่อิหร่านย้ำว่าการพัฒนาและครอบครองขีปนาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงจะช่วยป้องปรามและเป็นเครื่องมือในการแก้แค้นสหรัฐฯ อิสราเอล ตลอดจนรัฐที่ไม่เป็นมิตรอื่นๆ ในภูมิภาค
เมื่อวันอังคาร (23) ผู้นำกองทัพอิสราเอลออกมากล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะใช้ “มาตรการ” ต่อต้านอิหร่าน หลังความพยายามของกลุ่มมหาอำนาจ 6 ชาติที่จะรื้อฟื้นข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 หยุดชะงักไปตั้งแต่เดือน ก.ย.ปีที่แล้ว
แผนปฏิบัติการเบ็ดเสร็จร่วม (JCPOA) ซึ่งสหรัฐฯ ประกาศถอนตัวออกมาในปี 2018 กำหนดให้อิหร่านต้องจำกัดการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพื่อยืดเวลาที่เตหะรานจำเป็นต้องใช้ในการผลิตวัสดุฟิสไซล์เพียงพอสำหรับระเบิดนิวเคลียร์ 1 ลูกออกไป ในขณะที่รัฐบาลอิหร่านเองยืนกรานว่าไม่เคยคิดครอบครองอาวุธทำลายล้างสูง