ภาพการทำละหมาดของประธานาธิบดีอิหร่านในมัสยิดอุมัยยาด ถือเป็นภาพที่มีความหมายที่สุดในซีเรีย

Related posts

ไบเดน ชี้ สหรัฐฯ ไม่สนับสนุนอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้อิหร่าน

ตุลาคม 3, 2024

กระทรวงการต่างประเทศเตือน! คนไทย หากไม่จำเป็นขอให้เดินทางออกจากอิสราเอล

ตุลาคม 2, 2024

ภาพการทำละหมาดของประธานาธิบดีอิหร่านในมัสยิดอุมัยยาด ถือเป็นภาพที่มีความหมายที่สุดในซีเรีย

Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย ว่า นายซัยยิดอิบรอฮีม ราอีซี ประธานาธิบดีอิหร่าน เข้าไปทำการละหมาดในมัสยิดอุมัยยาด Umayyad Mosque กรุงดามัสกัส ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมัสยิดเป็นที่ถูกรู้จักมากที่สุดในโลกอิสลามนั้น มีความหมายในเชิงยุทธศาสตร์อย่างแท้จริง โดยมีการวางแผนที่มากกว่าการทำละหมาดตะฮียะห์เพียงอย่างเดียว

สื่ออิหร่าน รายงานว่า มัสยิดอุมัยยาด กรุงดามัสกัส ถือเป็นเพื่อนบ้านทางเหนือของซีเรีย ขณะที่เหล่าสมาชิกสันนิบาตอาหรับให้สัญญาการทำละหมาดในสถานที่แห่งนี้ ตามเงื่อนไขที่จะมีชัยชนะเหนือนายบาชาร์ อัลอัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย แต่ยังคงอยู่ จนกระทั่งประธานาธิบดีอิหร่านได้เดินทางเยือนซีเรีย ซึ่งถือได้ว่า เขาได้ทำให้งานเฉลิมฉลองของกลุ่ม ริซิสเทนส์ resistance ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ด้วยการละหมาด

สงครามแปดปีในซีเรีย ซึ่งเริ่มขึ้นโดยโลกที่ประกอบไปด้วย นาโต้ อิสราเอล ชาติอาหรับและเหล่าประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่ซื่อสัตย์และฉวยโอกาสต่อซีเรีย ขณะที่กลุ่มนักต่อสู้ได้ทำให้ความหวังที่เป็นโมฆะและไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นด้วยชื่อของการทำละหมาดในมัสยิดอุมัยยาด ทั้งยังไม่ปล่อยให้เหล่าเพื่อนบ้านและพวกชาติอาหรับที่ไม่มีความเชื่อในการละหมาด เข้าไปทำละหมาดในสถานที่นี้และในความเป็นจริง เพื่อประกาศถึงชัยชนะให้กับรัฐบาลและประชาชาติซีเรีย

ความสำคัญของการเยือนมัสยิดอุมัยยาดของประธานาธิบดีราอิซีของอิหร่าน นอกจากความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์แล้ว

ทั้งนี้ ความสำคัญของการเยือนมัสยิดอุมัยยาดขอประธานาธิบดีอิหร่าน นอกเหนือจากความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่า กระะแสตักฟีรีย์และผู้สนับสนุนระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นผู้กำหนดสงครามและวิกฤติในวงกว้างต่อประชาชนและรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฏหมายของซีเรีย มักจะโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับการละหมาดร่วมกันในมัสยิดแห่งนี้ถือเป็นการกระทำเชิงสัญลักษณ์ โดยคาดว่าในอนาคต ระบอบการปกครองในซีเรียจะพบกับการล่มสลาย และบัดนี้ หลังจากการยืนหยัดต่อสู้ของรัฐบาลและประชาชนซีเรีย ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ในแนวแกนหลักของการยืนหยัดต่อสู้ ไม่เพียงแต่เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นเท่านั้น ขณะเดียวกันกับการเข้ามายังมัสยิดแห่งประวัติศาสตร์ของซีเรียของประธานาธิบดีอิหร่าน แสดงให้เห็นถึงชัยชนะจากการต่อสู้กับกลุ่มตักฟีรีย์และการก่อการร้าย