โดมินิก ราบ ประกาศลาออก หลังผลตรวจสอบมีพฤติกรรมข่มเหงรังแกเจ้าหน้าที่
โดมินิก ราบ ของอังกฤษ รองนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังจากผลการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนพบว่า มีพฤติกรรมข่มเหงรังแกเจ้าหน้าที่
โดมินิก ราบ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรียุติธรรมของอังกฤษ วัย 49 ปี เผยภาพหนังสือลาออกที่ยื่นต่อนายกรัฐมนตรีริชี ซูแน็กในวันศุกร์ (21 เม.ย.) มีเนื้อหาระบุว่า เขาตัดสินใจยื่นหนังสือลาออก หลังจากการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนเรื่องเขามีพฤติกรรมข่มเหงรังแกเจ้าหน้าที่ได้ผลสรุปแล้ว เขาระบุด้วยว่า เขาสั่งให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ และเป็นเรื่องสำคัญที่เขาต้องรักษาคำพูดว่า จะลาออกจากตำแหน่ง หากพบการกระทำข่มเหงรังแกเจ้าหน้าที่
แต่เขาก็วิจารณ์ว่า เกณฑ์วัดพฤติกรรมข่มเหงรังแกที่เบาเกินไป อาจเป็นแบบอย่างที่อันตราย กระตุ้นให้เกิดการร้องเรียนมากมายต่อรัฐมนตรี และจะส่งผลกระทบต่อคนที่พยายามผลักดันการเปลี่ยนแปลงในนามของรัฐบาล และกระทบต่อประชาชนในท้ายที่สุด ขณะที่เขายังยืนยันให้การสนับสนุนรัฐบาลต่อไป
ด้านนายกรัฐมนตรีซูแน็ก ระบุในจดหมายถึงนายราบ แสดงความขอบคุณสำหรับการตัดสินใจลาออก และบอกว่า เขายอมรับใบลาออกด้วยความเศร้าใจอย่างยิ่ง
การประกาศลาออกของราบมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากซูแน็กได้รับรายงานผลการตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของราบ แต่ราบ ระบุว่า รายงานให้เขาพ้นข้อกล่าวหาเกือบทั้งหมด ยกเว้นเพียง 2 กรณีเท่านั้น
รายงานผลการตรวจสอบยาว 48 หน้าระบุถึงข้อร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของราบในช่วงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม และพบว่า ในโอกาสที่ราบพบกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบายหลายครั้ง เขาประพฤติตัวในลักษณะข่มขู่ จากการวิจารณ์เกินความจำเป็นหรือความเหมาะสม และมีลักษณะของการดูหมิ่นจากการวิจารณ์อย่างไม่สร้างสรรค์เกี่ยวกับคุณภาพของงาน
รายงานยังตรวจสอบเรื่องพฤติกรรมของเขาในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศระหว่างปี 2562-2564 และสรุปว่า การสั่งการเพื่อให้ปฏิบัติตามการตัดสินใจบางเรื่อง เขากระทำในลักษณะการข่มขู่ ในแง่การกระทำที่ก้าวร้าวอย่างไร้เหตุผลและสม่ำเสมอในช่วงการประชุมงาน นอกจากนี้ยังมีการใช้อำนาจในทางมิชอบ ที่เป็นการบั่นทอนหรือทำให้อับอาย แบะเสนอมาตรการลงโทษที่ไม่สมเหตุสมผล
ราบเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงสำคัญรายที่ 3 ที่ต้องออกจากตำแหน่งสืบเนื่องจากความประพฤติส่วนตัว นับตั้งแต่ซูแน็กเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนต.ค. ปีที่แล้ว ด้วยการให้ให้สัญญาจัดตั้งรัฐบาลที่มีความซื่อสัตย์