รัฐบาลนิการากัว ไม่อนุญาตให้เทูตสหรัฐคนใหม่ เดินทางเข้าประเทศ พร้อมประกาศยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับเนเธอร์แลนด์
เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ว่า นางโรซาริโอ มูริโย รองประธานาธิบดีและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของนิการากัว ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่านายฮูโก โรดริเกซ เอกอัครราชทูตสหรัฐ จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้านิการากัว “อย่างเด็ดขาด”
ด้านทำเนียบขาวและกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐมีมติรับรองโรดริเกซ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำนิการากัวคนใหม่ เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา แม้รัฐบาลมานากัว ยืนกรานว่า จะไม่ยอมรับอักษรสาส์นตราตั้งของโรดริเกซ
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศนิการากัวออกแถลงการณ์ ยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับเนเธอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นประเทศที่ “แทรกแซงและพยายามใช้หลักจักรวรรดินิยมใหม่” โดยไม่มีการลงลึกในรายละเอียด หลังประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ให้นางเบตตินา มูไชดต์ เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป (อียู) มีสถานะเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา” และต้องเดินทางออกนอกประเทศ
นิการากัวจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว และประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตกา ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคสังคมนิยม ที่เป็นพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย “ชนะอย่างง่ายดาย” รักษาตำแหน่งผู้นำนิการากัวได้เป็นสมัยที่ 4 ต่อเนื่องกัน หรือนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2550 และถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ยาวนานที่สุดในกลุ่มประเทศภูมิภาคอเมริกาทั้งหมด
ทั้งนี้ สหรัฐประณามผลการเลือกตั้งอย่างหนักและออกมาตรการคว่ำบาตรรัฐบาลนิการากัวอย่างต่อเนื่อง ส่วนสำนักงานใหญ่ของอียูที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ยื่นหนังสือต่อสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เมื่อปลายเดือนที่แล้ว เรียกร้องออร์เตกา “ฟื้นฟูประชาธิปไตย” ที่รวมถึงการปล่อยตัวนักโทษการเมือง และเคารพหลักการพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชน ด้านกระทรวงการต่างประเทศนิการากัว เรียกร้อง ให้ตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร