วิเคราะห์การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและซาอุดีอาระเบีย ตอนฝรั่งด้อยค่าข้อตกลงซาอุดีอาระเบีย-อิหร่าน
โดย นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย
สิ่งที่สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส และพวกตะวันตกคาดไม่ถึงและรับฟังข่าวอย่างตกตะลึงพรึงเพริดก็คือ การลงนามข้อตกลงฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียและอิหร่าน
การลงนามครั้งนี้ สร้างความสะเทือนเลื่อนลั่นในใจของสหรัฐฯและพรรคพวก ซึ่งพวกนี้แบ่งแยกและปกครองประเทศในตะวันออกกลางให้อ่อนแอ เพื่อตนจะได้มีความชอบธรรมในการเข้าไปช่วยเหลือเกื้อกูลฝ่ายต่างๆ ขณะเดียวกัน ก็สูบทรัพยากรน้ำมันจากใต้แผ่นดินตะวันออกกลางไปขายทั่วโลก
สื่อตะวันตกออกมาตีข่าวกันกันถ้วนหน้า ที่ประโคมโหมหนักกว่าใครก็คือ Cable News Network ที่เรารู้จักกันในชื่อย่อว่า CNN ของสหรัฐฯ ที่พยายามออกข่าวปลอบใจประชาชนคนอเมริกันและตะวันตกพวกเดียวกันเองว่า การตกลงฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างซาอุฯ กับอิหร่านไม่ได้เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง ทว่าไปเกิดที่ปักกิ่ง
CNN แพร่ข่าวย้ำๆซ้ำๆ เหมือนกับจะบอกว่า การลงนามครั้งนี้ไม่น่าเชื่อถือ สองประเทศตั้งในตะวันออกกลาง แต่ทำไมไปลงนามในตะวันออกไกล (จีน)
เมื่อสิ่งที่แพร่กระจายขยายข่าวออกไปไม่ได้รับความสนใจจากประชาชน เพราะเนื้อข่าวบาง การอ้างว่าไม่ได้ลงนามในตะวันออกกลางเหมือนการใช้สีข้างเข้าถู
ท่านผู้อ่านครับ The Quincy Institute for Responsible Statecraft เป็นหน่วยงานตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทำงานวิจัยและสนับสนุนนโยบายสังคม กลยุทธ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ การทหาร เทคโนโลยี และวัฒนธรรม
เพื่อไม่ให้คนอเมริกันกังวลใจ CNN จึงไปสัมภาษณ์นายทริตา พาร์ซี รองประธานสถาบันควินซี นายพาร์ซีบอกว่า “คนอเมริกันส่วนใหญ่มองว่าการกระทำของจีนเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ ทว่าตามความเห็นของข้าพเจ้า การที่อิหร่านและซาอุฯ ไม่เป็นศัตรูกันนั้น น่าจะเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ”
ขณะที่สื่ออังกฤษเงียบด้วยความเหวอ ไม่รู้ว่าจะเสนอข่าวยังไงเพื่อไม่ให้ประชาชนคนของตนกังวลใจว่าในอนาคต อังกฤษอาจถูกเตะจากภูมิภาคตะวันออกกลางและทำให้มีปัญหาพลังงาน (น้ำมัน) มากขึ้น
สื่อฝรั่งเศสเอาประโยคของคณะผู้นำที่วิจารณ์เรื่องนี้มาลงกันยกใหญ่ พวกผู้นำของฝรั่งเศสบอกว่า อ้า ก็…ขอแสดงความยินดี แต่ความสัมพันธ์ครั้งนี้พวกนี้จะอยู่นานหรือ อิหร่าน อ้า…อิหร่านจะทำตามข้อตกลงได้ทุกอย่างหรือเปล่า
ฝรั่งเศสขอเรียกร้องให้อิหร่านประกาศยกเลิกการกระทำที่ไร้เสถียรภาพ (โดยไม่ได้แจ้งว่าไร้เสถียรภาพในเรื่องอะไร)
การประสานเสียงระหว่างสหรัฐฯกับฝรั่งเศสที่ดูหมิ่นถิ่นแคลนข้อตกลงฯ เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
โดยเริ่มจากประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งออกมาตะโกนทันทีที่ได้ยินข่าวการลงนามว่า จีนไม่มีส่วนได้เสียที่มีความรับผิดชอบ (โลก) จะไว้ใจจีนให้เป็นผู้ไกล่เกลี่ยที่ยุติธรรมหรือ เป็นกลางไม่ได้
สื่อตะวันตกบางแห่งพยายามลำดับความสำคัญของคนลงนาม ให้เห็นว่าพวกนี้ไม่ใช่เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศ ฝ่ายซาอุดีอาระเบีย คื อนายมูซาอัด บิน โมฮัมเหม็ด อัล ไอบาน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ฝ่ายอิหร่าน คือ นายอาลี ชามคานี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
การที่เอาภาพและตำแหน่งของสองคนมาย้ำในสื่อของตนก็เพื่อจะด้อยค่าข้อตกลง
ขอเรียนนะครับ ในบางประเทศตำแหน่งพวกนี้อาจจะเล็ก แต่ในซาอุฯ และอิหร่านนี่คือตำแหน่งใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม
คนที่ยืนเป็นสักขีพยานก็ไม่ใช่ไอ้ปื๊ดที่ไหน แต่คือนายหวัง อี้ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน (2012-2022) สมาชิกโปลิตบูโรพรรคคอมมิวนิสต์จีน (2022-ปัจจุบัน) ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการฝ่ายต่างประเทศกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (2018-ปัจจุบัน)
ถ้าเป็นเรื่องต่างประเทศ หวัง อี้ นี่ละครับใหญ่สุดในจีน จะบอกให้
No Result
View All Result