รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ รียกร้องสิทธิการทำแท้งให้แก่ผู้หญิงทุกคนทั่วสหรัฐฯ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี คดีระหว่างโรกับเวด ที่เคยใช้เป็นบรรทัดฐานเรื่องสิทธิการทำแท้งในสหรัฐฯ
กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องสิทธิการทำแท้งให้แก่ผู้หญิงชาวอเมริกันทุกคนทั่วประเทศเมื่อวานนี้ (22 มกราคม) เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี คดีระหว่างโรกับเวด ที่เคยใช้เป็นบรรทัดฐานเรื่องสิทธิการทำแท้งในสหรัฐฯ มาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ก่อนที่เมื่อปีที่แล้ว ศาลสูงสุดสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งให้พลิกคำตัดสินเมื่อปีที่แล้ว
แฮร์ริส ระบุว่า ผู้หญิงชาวอเมริกันทุกคนทั่วประเทศ ควรมีสิทธิ์ในการตัดสินใจเกี่ยวกับร่างกายของตัวเอง พร้อมกับแสดงการคัดค้านเรื่องที่สมาชิกพรรครีพับลิกันพยายามที่จะเรียกร้องให้กฎหมายห้ามทำแท้งมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่า มีการเสนอร่างกฎหมายต่อต้านการทำแท้งจำนวน 60 ฉบับ ในการประชุมสภานิติบัญญัติประจำปี 2023 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้หญิงกว่า 26 ล้านคนทั่วสหรัฐฯ
ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมที่คัดค้านกฎหมายห้ามทำแท้งจำนวนหลายพันคน ก็ได้ยึดเอาวันครบรอบ 50 ปี คดีระหว่างโรกับเวด ออกมารวมตัวกันเดินขบวนประท้วงอย่างสงบไปยังศาลาว่าการประจำรัฐวิสคอนซิน เพื่อแสดงพลังเรียกร้องสิทธิ์ในการทำแท้ง และตัดสินใจเกี่ยวกับร่างกายของตัวเอง
ทั้งนี้ สิทธิ์ในการทำแท้งของผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในรัฐวิสคอนซินนั้น ได้รับอนุญาตตามกฎหมายมาตลอดจนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว ที่ศาลสูงสุดสหรัฐฯ ประกาศพลิกคำตัดสินคดีระหว่างโรกับเวด และกลับไปยึดตามกฎหมายฉบับปี 1849