อดีตบอสนาโตขู่ ‘จีน’ ระวังหายนะทางเศรษฐกิจ หากคิดรุกราน ‘ไต้หวัน’

Related posts

ไบเดน ชี้ สหรัฐฯ ไม่สนับสนุนอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้อิหร่าน

ตุลาคม 3, 2024

กระทรวงการต่างประเทศเตือน! คนไทย หากไม่จำเป็นขอให้เดินทางออกจากอิสราเอล

ตุลาคม 2, 2024

อดีตบอสนาโตขู่ ‘จีน’ ระวังหายนะทางเศรษฐกิจ หากคิดรุกราน ‘ไต้หวัน’

อันเดอร์ส ฟ็อก ราสมุสเซน อดีตเลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ออกมาเรียกร้อง ให้ชาติประชาธิปไตยทั่วโลกร่วมกันส่งคำเตือนไปถึงจีนว่าจะต้องเผชิญ “ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่ร้ายแรง” หากคิดใช้กำลังทหารรุกรานไต้หวัน

รัฐบาลจีนถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนในอธิปไตยของตน และได้เพิ่มมาตรการกดดันไต้หวันหนักขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ รวมถึงการส่งเครื่องบินเข้าประชิดชายแดนของเกาะประชาธิปไตยแห่งนี้แทบจะทุกวันตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

ราสมุสเซน ได้ยกตัวอย่างเปรียบเทียบปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซียกับพฤติกรรมข่มขู่ที่จีนกระทำต่อไต้หวัน โดยย้ำว่าชาติประชาธิปไตยทั่วโลก “ต้องร่วมมือกัน” เพื่อช่วยให้ยูเครนได้รับชัยชนะ ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณป้องปรามที่ชัดเจนไปถึงจีนด้วย

“หากจีนพยายามเปลี่ยนแปลงสถานะปัจจุบัน (status quo) ของไต้หวันด้วยกำลังทหาร ก็จะต้องเผชิญมาตรการตอบโต้ที่เด็ดเดี่ยวเช่นกัน และเราจำเป็นต้องบอกให้จีนรับรู้เสียแต่วันนี้” ราสมุสเซน ระบุในงานแถลงข่าวที่กรุงไทเป

“จีนจำเป็นต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานโลกมากกว่ารัสเซีย ดังนั้น การเตือนพวกเขาให้ระวังผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่จะตามมาจากการโจมตีจึงเป็นแนวทางป้องปรามที่ทรงพลังที่สุด”

อดีตเลขาฯ นาโตเชื่อว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เองก็เฝ้าจับตาดูสถานการณ์ในยูเครนอย่างใกล้ชิดว่าจะออกมาในรูปใด

ราสมุสเซน ซึ่งเป็นอดีตนายกฯ เดนมาร์ก และเคยเป็นหนึ่งในนักการทูตระดับอาวุโสสูงสุดของโลกก่อนจะอำลาตำแหน่งเลขาธิการนาโตเมื่อปี 2014 ยังเรียกร้องให้บรรดาชาติยุโรป “กำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างครอบคลุม” ต่อจีนหากไต้หวันถูกรุกราน

รัฐบาลจีนไม่ปฏิเสธทางเลือกใช้กำลังทหารนำไต้หวันมาอยู่ภายใต้การปกครองหากมีความจำเป็น ขณะที่ไต้หวันชี้ว่าข้ออ้างของปักกิ่งนั้น “ฟังไม่ขึ้น” เนื่องจากจีนไม่เคยปกครองเกาะแห่งนี้มาก่อน

ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ยืนยันว่าไทเปจะปกป้องตนเองเต็มที่ และอนาคตของไต้หวันนั้นมีเพียงประชากรไต้หวัน 23 ล้านคนที่จะเป็นผู้ตัดสินได้

ราสมุสเซน ยังเสนอให้ชาติยุโรปเปิดการซ้อมรบร่วมกับกองทัพไต้หวัน ซึ่งในปัจจุบันใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตเองในประเทศ และนำเข้าจากสหรัฐฯ เป็นส่วนใหญ่