ประธานาธิบดีบราซิลที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งคนใหม่ถูกบีบให้ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตสหพันธ์บราซิเลียในวันอาทิตย์ หลังจากผู้สนับสนุโบลโซนาโร ซึ่งเป็นกลุ่มขวาจัดรุ่นก่อนของเขาหลายพันคน เข้าครอบงำรัฐสภา ศาลฎีกา และทำเนียบปธน.พลานาลโต
ผู้นำฝ่ายซ้ายประณามผู้ประท้วงว่าเป็น“พวกป่าเถื่อนและพวกฟาสซิสต์”กล่าวโทษบอลโซนาโรปลูกฝังหัวรุนแรงใส่หัวประชาชน และสาบานว่าจะทำให้ผู้ที่รับผิดชอบต่อความโกลาหล“ชดใช้ด้วยอำนาจของกฎหมาย”ในขณะที่ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุดว่า “ใครคือนักการเงินผู่สนับสนุนความไม่สงบ”
กองกำลังความมั่นคงได้ควบคุมตัวแกนนำอย่างน้อย ๑๗๐ คนนข้อหาบุกอาคารรัฐบาลและอาชญากรรมอื่นๆ ที่ถูกกล่าวหาว่าก่อขึ้นระหว่างการจลาจล อ้างจากตำรวจ ผู้ว่าการเขต Ibaneis Rocha ของรัฐบาลกลางอ้างว่า”ผู้เข้าร่วมประท้วงหลายเมืองถูกควบคุมตัวมากกว่า ๔๐๐ คนแล้ว”
ระหว่างการแถลงข่าว ลูลา กล่าวโทษ อดีตปธน.บอลโซนาโร และคร่ำครวญเกี่ยวกับมาตรการความมั่นคงที่ไม่เพียงพอในเมืองหลวง โดยบอกว่าพวกเจ้าหน้าที่ปล่อยให้พวกฟาสซิสต์ และพวกคนคลั่งก่อความเสียหายร้ายแรง
การบุกรุกครั้งนี้เสี่ยงก่อปัญหาแก่ ลูลา ในทันที ในขณะที่เขาเพิ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ ๑ มกราคมที่ผ่านมา และให้คำมั่นประสานรอยร้าวสร้างความเป็นหนึ่งเดียวแก่ประเทศที่ถูกฉีกขาดเป็นชิ้นๆ จากความแตกแยกทางการเมือง ภาพข่าวสถานีโทรทัศน์ พบเห็นพวกผู้ประท้วงฝ่าแนวกั้นเข้าไปยังศาลสูงและสภาคองเกรส ตะโกนสโลแกนและทุบทำลายเฟอร์นิเจอร์ โดยสื่อมวลชนท้องถิ่นคาดหมายว่ามีประชาชนราวๆ ๓,๐๐๐ เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้
บอลโซนาโร ซึ่งนานๆ ครั้งจะออกมาพูดต่อสาธารณะนับตั้งแต่พ่ายแพ้ศึกเลือกตั้ง เงียบกริบ แต่เขาเดินทางออกจากบราซิลมุ่งหน้าสู่ฟลอริดา ๔๘ ชั่วโมงก่อนสุดสิ้นวาระการดำรงตำแหน่ง และไม่ได้เข้าร่วมในพิธีสาบานตนของ ลูลา
แต่เมื่อสถานการณ์พลิกผัน ฝ่ายบอลโซนาโรผู้ได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และผู้นำโลกต่างพากันแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับรัฐบาลของปธน.ลุลา ดาซิลวา ประเทศเพื่อนบ้านต่างรุมประณามความพยายามก่อรัฐประหารในบราซิล สหรัฐรีบออกมาป่าวร้องสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยทันที งานนี้ส่งผลสะเทือนถึงการเมืองในสหรัฐเองด้วย ตอกย้ำว่าทรัมป์อาจเจอคดีอาญาอดลงสมัครปธน.สมัยหน้า
ท่าทีของพันธมิตรเพื่อนบ้านละติน ต่างพากันประกาศสนับสนุนลูลาอย่างกว้างขวาง ประธานาธิบดีของโคลอมเบีย กุสตาโว เปโตร เป็นหนึ่งในผู้นำระดับภูมิภาคกลุ่มแรกๆ ประณามวิกฤตที่เขาขนานนามว่าเป็นความพยายามก่อรัฐประหาร เขาทวีตเมื่อวันอาทิตย์ว่า “ลัทธิฟาสซิสต์ตัดสินใจทำรัฐประหาร โดยฝ่ายขวาที่ไม่สามารถรักษาสนธิสัญญาไม่ใช้ความรุนแรงได้” เขาเรียกร้องให้องค์การรัฐอเมริกันพิสูจน์ความเกี่ยวข้องและจัดการประชุมเกี่ยวกับกรณีนี้โดยด่วน
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีอัลแบร์โต เฟอร์นันเดซแห่งอาร์เจนตินา ประกาศว่าประเทศของเขายืนหยัดร่วมกับประชาชนชาวบราซิลในการปกป้องประชาธิปไตย และจะไม่ยอมให้การกลับมาอีกครั้งของผีรัฐประหารที่ส่งเสริมโดยฝ่ายขวา” เขากล่าวว่า “ผมขอให้ประเทศสมาชิกตื่นตัวเพื่อที่เราจะรวมตัวกันในปฏิกิริยาต่อต้าน ความที่ยอมรับไม่ได้ที่กำลังบีบบังคับใช้ในบราซิล”เขากล่าวเสริมในฐานะประธานหมุนเวียนขององค์กรระดับภูมิภาคอีกสองแห่ง ได้แก่ ชุมชนแห่งละตินอเมริกาและแคริบเบียน และ ตลาดรวมภาคใต้
ปธน.เม็กซิกัน อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ยังได้กล่าวถึงความวุ่นวายว่าเป็น“ความพยายามก่อรัฐประหารที่น่าตำหนิและต่อต้านประชาธิปไตย”โดยกล่าวหาว่า“ผู้นำของอำนาจคณาธิปไตย โฆษก และผู้คลั่งไคล้ขวาจัดยุยงให้เกิดความไม่สงบ
ด้านกาเบรียล โบริก ปธน.ชิลีตำหนิเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็น“การโจมตีประชาธิปไตยอย่างขี้ขลาดและชั่วช้า”ทั้งยังแสดงการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อรัฐบาลลูลา
นิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลาแสดงความมั่นใจว่าชาวบราซิล“จะระดมพลปกป้องสันติภาพและประธานาธิบดีของพวกเขาอย่างแน่นอน” พร้อมกล่าวโทษการใช้ความรุนแรงต่อ“กลุ่มนีโอฟาสซิสต์ของบอลโซนาโร”
ฮาวานายังแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับ“ชาติพี่น้อง” ของตน โดยประธานาธิบดีมิเกล ดิแอซ-กาเนล ของคิวบาประณาม“การกระทำที่รุนแรงและไม่เป็นประชาธิปไตยที่เกิดขึ้นในบราซิล โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความวุ่นวายและไม่เคารพเจตจำนงของประชาชน”
กระทรวงต่างประเทศเอกวาดอร์ประณามความรุนแรงว่าเป็นการโจมตีต่อสถาบันในบราซิล”และยืนยันอีกครั้งว่าประเทศนี้ “สนับสนุนประชาธิปไตยและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างชอบธรรม” อย่างไม่จำกัด