เป้าหมายของอเมริกาและอิสราเอล คือ การครองโลกและเผยแพร่ลัทธิเถื่อนไซออนิสต์
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า
ปัจจุบันนี้ ชาติมหาอำนาจอเมริกาและไซออนิสต์ได้เปลี่ยนวิธีดำเนินนโยบายแสดงอำนาจแตกต่างไปจากอดีตพอสมควร จากเดิมที่เน้นการรุกรานชาติอื่นๆ เพื่อแผ่ขยายอานานิคม ในยุคนี้แม้ว่าจะยอมรับบูรณาการทางดินแดนประเทศต่างๆก็จริง แต่ก็ยังคงแสดงพฤติกรรมและนิสัยแห่งความอหังการ กดขี่ข่มเหงชาติที่อ่อนแอด้วยวิธีอื่นๆ อย่างไรก็ดีเราได้ประมวลเป้าหมายและนโยบายของอเมริกาและยิวไซออนิสต์ในช่วงไม่กี่ศตวรรษที่ผ่านมาดังนี้
1 – แย่งชิงผลประโยชน์
เป็นที่ทราบกันดีว่าการแย่งชิงผลประโยชน์คือสาเหตุหลักของการกดขี่ข่มเหง หากจากพิจารณาจากพฤติกรรมของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่มีต่อชาติเหล่าบริวารในกลุ่มประเทศโลกที่สามก็จะเข้าใจถึงข้อเท็จจริงข้างต้นได้เป็นอย่างดี
“อเมริกาเป็นศัตรูกับทุกศาสนา รวมถึงศาสนาคริสต์ด้วย อเมริกาไม่เคยศรัทธาต่อศาสนาใดๆ ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นนอกจากผลประโยชน์ แม้แต่ผลประโยชน์ของชาวอเมริกันเองก็ไม่สนใจ อเมริกาสนใจเพียงผลประโยชน์ที่รัฐบาลจะได้เท่านั้น” (คำกล่าวของอิมามโคมัยนี)
2 – สวาปามโลกและแสวงหาอำนาจ
หนึ่งในเป้าหมายของอเมริกาและยิวไซออนิสต์ คือ จ้องจะฮุบทรัพยากรที่มีอยู่ทั่วโลก พวกเขามักนิยมการขยายอำนาจเพื่อฮุบทรัพยากรของชาติต่างๆ เพื่อหวังจะควบคุมชีพจรทางเศรษฐกิจของโลกให้ได้
3- ฉุดรั้งมิให้ชาติที่อ่อนแอ พัฒนาศักยภาพที่แท้จริง
สิ่งหนึ่งที่อเมริกาและยิวไซออนิสต์มักจะกระทำกับชาติที่อ่อนแอเสมอ อาจถือได้ว่า นี่คือ ยุทธ์ศาสตร์สำหรับสำหรับชาติมหาอำนาจเลยทีเดียว เพราะอาวุธที่อันตรายที่สุดของมหาอำนาจก็คือ การที่ประชาชนในประเทศต่างๆ “ไม่รู้เท่าทันเลห์กล” ของพวกเขา พวกเขาจึงพยายามที่จะรั้งมิให้ประชาชนได้มีความคิดอ่านที่ทันสถานการณ์
“หากใช้ความคิดเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก( โดยเฉพาะโลกมุสลิม) ก็จะรู้ว่าสิ่งที่อเมริกาและยิวไซออนิสต์เห็นพ้องต้องกันก็คือ จะต้องฉุดรั้งประเทศโลกที่สามโดยเฉพาะโลกมุสลิมอันกว้างใหญ่ไพศาลให้ประสบกับสภาวะล้าหลัง ไม่ว่าจะทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การทหาร และพยายามยัดเยียดวัฒนธรรมแบบจักรวรรดินิยมแก่ประเทศโลกที่สามอีกด้วย” (คำกล่าวของอิมามโคมัยนี)
4- ปล้นสะดมทรัพยากรและมรดกทางวัฒนธรรม
เพื่อการแสวงหาผลประโยชน์อย่างเต็มที่ จึงเสี้ยมให้ประชาชน(ผู้ด้อยโอกาส)ทะเลาะกันเอง โดยที่พวกเขาจะพยายามตักตวงผลประโยชน์จากความขัดแย้งเพื่อที่จะกุมอำนาจทั้งหมด
ยุทธ์ศาสตร์และช่องทางการโจมตีของอเมริกาและไซออนิสต์เพื่อบรรลุเป้าหมาย
1 – การโจมตีโดยตรง : ด้วยวิธี
การโจมตีโดยตรงทางทหาร
การลอบสังหารบุคคลที่มีอุดมการณ์
คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
ภารกิจลับของนาโต้ในเอเชียตะวันออก
2- การโจมตีทางอ้อม
-การโจมตีด้านวัฒนธรรม
วัฒนธรรมถือเป็นสนามรบที่ชาติมหาอำนาจอย่างเช่นอเมริกาชื่นชอบมากที่สุด เพราะเป้าหมายการโจมตีทางวัฒนธรรมก็คือ การทำให้ฝ่ายตรงข้ามสูญเสียพื้นฐานทางความคิดและวัฒนธรรมอันจะนำไปสู่การยอมรับวัฒนธรรมของมหาอำนาจโดยจำนน
“วัฒนธรรมคือรากฐานของทุกชนชาติ เป็นรากเหง้าที่สร้างสำนึกในชาติ เป็นพื้นฐานของอิสรภาพของประเทศชาติ นี่จึงทำให้พวกเขาพยายามขัดขวางมิให้มีมนุษย์คนใดใฝ่หาศีลธรรมจรรยาเพราะเกลียดกลัวมนุษย์ประเภทนี้” (คำกล่าวของอิมามโคมัยนี)
-ดูถูกความคิดของชาติอื่น (เหยียดวัฒนธรรม)
-โฆษณาโจมตีสถาบันวัฒนธรรมและศาสนา
3- การโจมตีทางการเมือง
-ดำเนินการผ่านแนวร่วมของตนภายในประเทศเป้าหมาย
แกนนำทางการเมืองในกลุ่มประเทศเล็กๆที่มีความทะเยอทะยานอยากจะเป็นใหญ่มักจะเป็นกลุ่มที่นำพาประเทศชาติไปอยู่ใต้อาณัติของมหาอำนาจเสมอ เหล่ามหาอำนาจเมื่อเห็นจุดอ่อนดังกล่าวก็จะรีบดำเนินการเจรจาลับทางการเมืองกับพวกขายชาติกลุ่มนี้ทันที
“ชาติมหาอำนาจเหล่านี้มักจะเจรจากับผู้ที่ต้องการอำนาจวาสนาและเงินทองเพื่อหวังจะปล้นสะดมประชาชนได้อย่างสะดวก เข้าทำนองทำนาบนหลังคน ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะมหาอำนาจไม่เคยชนะประชาชน หากประชาชนมีสิทธิ์มีเสียงทางการเมือง และหากเจ้าหน้าที่รัฐและ ส.ส. มาจากชนชั้นกลางและรากหญ้า ไม่มีทางที่ประเทศยักษ์ใหญ่เช่นอเมริกา จะทำอะไรได้เลย ทุกครั้งที่มหาอำนาจไม่สบอารมณ์รัฐบาลใดหรือประธานาธิบดีคนใด ก็มักจะปั้นฝ่ายตรงกันข้ามขึ้นมาเพื่อโค่นล้มในที่สุด” (คำกล่าวของอิมามโคมัยนี)
-โฆษณาชวนเชื่อให้ผู้อื่นเกรงบารมีการเมืองของตน
อีกวิธีสำคัญหนึ่งที่ชาติมหาอำนาจเช่นอเมริกาและยิวไซออนิสต์มักจะใช้กำราบชาติที่อ่อนแอกว่าก็คือ การโฆษณาชวนเชื่อยกเมฆเพื่อให้ชาติอื่นๆไม่กล้าแม้แต่จะคิดแข็งข้อ
ที่มา
ห้องยุทธการข่าวโลก
No Result
View All Result