ปาเลสไตน์ดับ 9 หลังทหารอิสราเอลบุกค่ายผู้อพยพเขตเวสต์แบงก์ “อับบาส” เดือดประกาศตัดสัมพันธ์ “เทลอาวีฟ” ทันที แต่โดนสหรัฐฯ ตำหนิ
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า
สหรัฐฯวิจารณ์ผู้นำองค์การบริหารปาเลสไตน์ PA ยังไม่ถึงเวลาหลัง ปาเลสไตน์เดือดประกาศคืนวานนี้ ที่26 มกราคม เลิกความร่วมมือทางความมั่นคงกับรัฐบาลเทลอาวีฟ หลังทหาร IDF ใช้หลายช่องทางบุกเข้าค่ายผู้พยพในเจนินเขตเวสต์แบงก์เช้าวันพฤหัสบดี(26 ม.ค)อ้างตามหาบุคคลต้องสงสัยยิงปะทะนาน 4 ชั่วโมงและมีชาวปาเลสไตน์ 9 คนเสียชีวิตรวมผู้สูงอายุ และอีก 20 คนบาดเจ็บสาหัส นำมาสู่การยิงตอบโต้ด้วยมิสไซล์เช้านี้ 27 มกราคม ระหว่างกัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน บินด่วนห้ามศึกเตรียมเยือนอิสราเอล ปาเลสไตน์ และอียิปต์สัปดาห์หน้า
เดอะการ์เดียนรายงานวันพฤหัสบดี(26 ม.ค)ว่า กลุ่มติดอาวุธฮามาสที่มีอิทธิพลในเขตฉนวนกาซ่าพร้อมกับกลุ่มมุสลิมญิฮาด(Islamic jihad) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่กำลังน้อยกว่าประกาศให้คำมั่นที่จะตอบโต้อิสราเอล
ในเช้าวันศุกร์ที่ 27 มกราคม มีจรวด 6 ลูกยิงออกไปจากฉนวนกาซ่ามุ่งหน้าเข้าทางภาคใต้ของอิสราเอล แต่ถูกสกัดด้วยระบบต่อต้านมิสไซล์ กองทัพอิสราเอลแถลง
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการโจมตี และทหาร IDF ของอิสราเอลทำการตอบโต้กลับด้วยการระดมโจมตีต่อไซต์เป้าหมายที่อ้างว่าเป็นจุดทำระเบิดในย่านตอนกลางของฉนวนกาซ่า
การตอบโต้เกิดขึ้นหลังกองกำลังทหาร IDF บุกเข้าค่ายผู้อพยพเจนิน(Jenin)ตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมของอิสราเอลทางเหนือของเขตเวสต์แบงก์เช้าวันพฤหัสบดี(26) ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 รายและบาดเจ็บมากกว่า 20 คน เป็นการเสียชีวิตภายในวันเดียวมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา
กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์แถลงว่า หญิงวัย 61 ปีจำนวน 1 คนและพลเรือนชาย 1 คนรวมอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิต
นอกเหนือจากนี้กระทรวงกล่าวว่า มีการสูญเสียอื่นอีก 7 รายจากฝีมือของกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ และการปะทะเกิดขึ้นที่รอมัลลอฮ์(Ramallah)และเยรูซาเลมตะวันออกในเวลาต่อมาภายในวันเดียวกันส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
เดอะการ์เดียนรายงานว่า กำลังทหาร IDF บุกเข้าในหลายทางที่ค่ายผู้อพยพเจนิน ในทางตอนเหนือของปาเลสไตน์ฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธ ซากีร์ คาเดอร์ (Sakir Khader )ผู้สร้างภาพยนต์สัญชาติปาเลสไตน์-ดัตช์ ที่อยู่ในเหตุการณ์เปิดเผย
คาเดอร์เสริมต่อว่า ชาวปาเลสไตน์ติดอาวุธยิงยานยนต์หุ้มเกราะของทหาร IDF ที่พรางตัวว่าเป็นรถตู้เชิงพาณิชย์ และส่งผลทำให้กำลังทหารอิสราเอลยิงตอบโต้กลับนานร่วม 4 ชั่วโมง เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง
เอบีซีนิวส์ของสหรัฐฯรายงานเพิ่มเติมว่า กองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ว่า ปฎิบัติการบุกค่ายผู้อพยพเจนินนี้มีเป้าหมายไปที่เซลล์ที่ยังคงเคลื่อนไหวของกลุ่มมุสลิมญิฮัดและได้สังหารนักรบบางส่วนแต่จะมีการสอบสวนการเสียชีวิตใดๆของพลเรือนที่อาจเกิดขึ้น
โฆษกIDF กล่าวผ่านแถลงการณ์มีใจความว่า
“เมื่อก่อนหน้าเช้านี้กองกำลังความมั่นคงอิสราเอลรวม หน่วย IDF หน่วย ISA ตำรวจชายแดนอิสราเอล และกองกำลังตำรวจเยเมนร่วมกันออกปฎิบัติการต่อต้านก่อการร้ายภายในศูนย์ค่ายผู้อพยพเจนิน”
ไม่มีทหาร IDF ได้รับบาดเจ็บในปฎิบัติการนี้
เดอะการ์เดียนรายงานว่า องค์การบริหารปาเลสไตน์ประกาศในคืนวันพฤหัสบดี(26)ว่า ปาเลสไตน์ยกเลิกความร่วมมือทางความมั่นคงกับรัฐบาลเทลอาวีฟของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู
อันวาร์ การ์กัช (Anwar Gargash) นักการทูตระดับสูงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ออกมาเตือนวันศุกร์(27) ว่าการยกระดับของอิสราเอลที่เจนินนั้นเป็นอันตรายและยังเป็นการบั่นทอนต่อความพยายามจากนานาประเทศในการเดินหน้าเพื่อเป้าหมายสันติภาพ เอพีรายงาน
ทั้งนี้ ยูเออีรับรองอิสราเอลในปี 2020 พร้อมกับบาห์เรนที่ยังคงไม่ออกมาแสดงความเห็นในเหตุการณ์บุกค่ายผู้อพยพเจนิน อ้างอิงเอเฟพี นอกเหนือจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แล้วพบว่า ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และจอร์แดน ล้วนออกมาประณามการกระทำของเทลอาวีฟ
ขณะที่สหรัฐฯในวันพฤหัสบดีที่26 มกราคม ออกมาแสดงความเสียใจที่องค์การบริหารปาเลสไตน์ประกาศตัดความสัมพันธ์กับอิสราเอล
นักการทูตระดับสูงสหรัฐฯด้านตะวันออกกลาง บาร์บารา ลีฟ( Barbara Leaf) แสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวว่า “อย่างเห็นได้ชัดพวกเราไม่คิดว่านี่เป็นย่างก้าวอย่างถูกต้องในเวลานี้” และเสริมต่อว่า “ห่างไกลจากการก้าวถอยหลังในความร่วมมือทางความมั่นคง พวกเราเชื่อมั่นว่ามันมีความสำคัญมากที่ทุกฝ่ายต้องยังคงความร่วมมือทางความมั่นคงอย่างลึกซึ้งต่อไป”
เอเอฟพีรายงานว่า เป็นการแถลงที่ออกมาจากวอชิงตันในวันเดียวกันถึงกำหนดการเยือนตะวันออกกลางสัปดาห์หน้าของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ซึ่งจะเดินทางไปเยือนอิสราเอล ปาเลสไตน์ และอียิปต์
จะมีการพบปะหารืออย่างเป็นทางการครั้งแรกร่วมกับเนทันยาฮู นับตั้งแต่เขาสามารถกลับเข้าสู่อำนาจได้อีกครั้งเมื่อ 1 เดือนก่อนหน้า
และตามกำหนดการบลิงเคนจะพบกับประธานาธิบดีปาเลสไตน์ มาห์มูด อับบาสที่เมืองรอมัลลอฮ์ ในระหว่างการเยือนวันจันทร์ที่ 30 มกราคมและวันอังคารที่ 3กุมภาพันธ์
No Result
View All Result