วิเคราะห์ เมื่ออเมริกาส่งอาวุธให้ยูเครนอาจสะเทือนสัมพันธ์เกาหลีใต้-รัสเซีย?
Burapanews –เกาหลีใต้ ซึ่งมีอุตสาหกรรมอาวุธขนาดใหญ่ระดับโลก กำลังเผชิญแรงกดดันในการหาทางจัดส่งอาวุธและกระสุนต่าง ๆ ให้แก่ยูเครน โดยไม่สร้างความขุ่นเคืองให้แก่รัสเซียซึ่งส่งสัญญาณว่าอาจกลับมาเพิ่มความร่วมมือทางทหารกับเกาหลีเหนืออีกครั้ง
ทางโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ กล่าวกับวีโอเอว่า “รัฐบาลกรุงโซลได้จัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ประชาชนยูเครน แต่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจุดยืนที่จะไม่ส่งอาวุธร้ายแรงไปยังยูเครน”
นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อเกือบหนึ่งปีก่อน คลังสรรพาวุธของสหรัฐฯ ได้ลดลงไปมากเนื่องจากอาวุธจำนวนมากถูกส่งไปให้แก่ยูเครน
กลุ่มพันธมิตรทางทหารของยูเครนที่นำโดยสหรัฐฯ หรือ Ukraine Defense Contact Group ที่มีประเทศเข้าร่วมราว 50 ประเทศ ได้จัดส่งอาวุธหลายประเภทให้แก่ยูเครน ตั้งแต่ระบบยิงจรวดแบบเคลื่อนที่ High Mobility Artillery Rocket Systems (HIMARS) ไปจนถึงปืนใหญ่ฮาววิตเซอร์
และเมื่อวันพุธ สหรัฐฯ และเยอรมนี ประกาศว่าจะส่งรถถังเอบรัมส์ 31 คัน และรถถังเลพพาร์ด 2 จำนวน 14 คัน ให้แก่ยูเครน รวมทั้งรถถังที่อีกสมาชิกขององค์การนาโต้อีกหลายชาติรับปากว่าจะส่งให้เพิ่มเติม
สื่อนิวยอร์กไทมส์รายงานว่า เวลานี้ยูเครนใช้กระสุนปืนใหญ่ราว 90,000 ลูกต่อเดือน โดยที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรในยุโรปสามารถผลิตได้เพียงครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้
โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ พันโทมาร์ติน เมนเนอร์ส ว่า “รัฐบาลวอชิงตันกำลังหารือเรื่องการซื้อกระสุนผ่านบริษัทอาวุธของเกาหลีใต้ที่ไม่ใช่รัฐบาล” และว่า “เกาหลีใต้มีอุตสาหกรรมอาวุธระดับโลกซึ่งมักขายให้กับชาติพันธมิตรและประเทศคู่ค้า รวมทั้งสหรัฐฯ “
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ยอดขายอาวุธของบริษัทเกาหลีใต้ให้กับสหรัฐฯ อาจช่วยยกระดับเกาหลีใต้ในฐานะ “ประเทศสำคัญบนเวทีโลก” ซึ่งเป็นนโยบายต่างประเทศหลักของประธานาธิบดี ยูน ซุก-ยอล ตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม โดยตั้งเป้าให้เกาหลีใต้เป็น 1 ใน 4 ประเทศผู้ค้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดในโลก
รายงานประจำปี 2022 ที่จัดทำโดย Stockholm International Peace Research Institute (SIPRI) ระบุว่า เกาหลีใต้คือผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่อันดับ 8 ของโลกระหว่างปี 2017 – 2021 โดยมีสหรัฐฯ นำมาอันดับหนึ่ง ตามด้วยรัสเซีย ฝรั่งเศส จีน และเยอรมนี ใน 5 อันดับแรก
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หากเกาหลีใต้ยินยอมให้บริษัทเอกชนขายอาวุธจะช่วยเพิ่มความร่วมมือทางทหารกับมหาอำนาจทางตะวันตกได้ และยังเป็นการแสดงให้เพื่อนบ้านอย่างจีนและเกาหลีเหนือเห็นว่า การรุกรานประเทศอื่นอย่างที่รัสเซียทำกับยูเครนนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อาจเกิดขึ้นตามมาคือการบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับรัสเซีย ซึ่งกระท่อนกระท่อนในช่วงหลัง ๆ เมื่อเกาหลีใต้สนับสนุนมาตรการลงโทษที่สหรัฐฯ นำมาใช้กับรัสเซีย
เทอเรนซ์ โรห์ริก ศาสตราจารย์ด้านความมั่นคงและผู้เชี่ยวชาญเรื่องเกาหลี แห่ง U.S. Naval War College กล่าวว่า เกาหลีใต้จำเป็นต้องปกป้องสันติภาพ ความมั่นคงและอธิปไตยเหนือดินแดนของตนเองจากประเทศที่รุกราน และเกาหลีใต้ต้องตัดสินใจว่าจะเลือกยืนข้างชาติตะวันตกและสนับสนุนความช่วยเหลือต่อยูเครนอย่างไร
“เราจะไม่เห็นเกาหลีใต้ส่งอาวุธให้แก่ยูเครนโดยตรง แต่จะใช้วิธีสนับสนุนประเทศอื่นทางอ้อมแทน เนื่องจากกังวลว่ารัสเซียอาจเพิ่มบทบาทมากขึ้นในเกาหลีเหนือผ่านการถ่ายโอนเทคโนโลยีและพัฒนาอาวุธ” ศาสตราจารย์โรห์ริกกล่าว
เมื่อเดือนตุลาคม ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน เตือนไปถึงเกาหลีใต้ว่า การส่งอาวุธและกระสุนไปให้กับยูเครนจะถือเป็นการทำลายความสัมพันธ์ของสองประเทศ พร้อมตั้งคำถามว่า “เกาหลีใต้จะทำอย่างไรหากรัสเซียกลับมาร่วมมือทางการทหารกับเกาหลีเหนือบ้าง?”
ก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนมีนาคม รัสเซียได้ใส่ชื่อเกาหลีใต้ไว้ในรายชื่อประเทศที่มี “ท่าทีไม่เป็นมิตร” กับรัสเซีย โดยสื่อ Tass รายงานว่า ประเทศที่มีชื่อในรายชื่อดังกล่าวได้กำหนดหรือร่วมใช้มาตรการลงโทษต่อรัสเซียที่บุกรุกยูเครน
แพทริก โครนิน ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียแปซิฟิกแห่ง Hudson Institute เชื่อว่า “รัฐบาลกรุงโซลต้องการรักษาความสัมพันธ์กับรัสเซียเอาไว้ ดังนั้นการส่งอาวุธของสหรัฐฯ จากฐานทัพในเกาหลีใต้กลับไปน่าจะเป็นหาทางที่ดีกว่าการขายอาวุธโดยตรงให้กับอเมริกา” “แต่ในอีกด้านหนึ่ง เกาหลีใต้เองก็ต้องการรับรองว่าความก้าวร้าวของรัสเซียในยูเครนจะไม่ลุกลามออกไป” เพราะนั่นอาจกลายเป็นตัวอย่างให้ประเทศเพื่อนบ้านของเกาหลีใต้เดินรอยตามได้เช่นกัน
No Result
View All Result