ญี่ปุ่น-อังกฤษ ลงนามกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคง

Related posts

เฮนรี คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 100 ปี

พฤศจิกายน 30, 2023

กระทรวงการต่างประเทศ ขอบคุณกาตาร์ อิหร่าน ตุรกี มาเลเซียและอียิปต์ ในการประสานช่วยปล่อยตัวประกันชาวไทย

พฤศจิกายน 27, 2023

ญี่ปุ่น-อังกฤษ ลงนามกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคง

Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คิชิดะ ฟูมิโอะ เดินทางพบ ริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ เพื่อร่วมลงนามในข้อตกลงการเข้าถึงซึ่งกันและกันระหว่างญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักรฉบับใหม่ เพื่อกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกในการฝึกซ้อมร่วมและปฏิบัติการอื่น ๆ ระหว่างกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นกับกองทัพอังกฤษ

หลังการลงนาม คิชิดะ จัดงานแถลงข่าวในกรุงลอนดอน เขากล่าวว่า “อังกฤษเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนด้านความมั่นคงที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่นในทวีปยุโรป เราคาดหวังว่าการลงนามของทั้งสองประเทศในครั้งนี้จะส่งเสริมความพยายามในการสร้างภูมิภาคอินโดแปซิฟิกให้เป็นดินแดนที่เปิดกว้างและเสรี”

ด้านสำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษก็ออกแถลงการณ์หลังการลงนามเช่นกัน โดยกล่าวว่าทั้งสองผู้นำได้แบ่งปันมุมมองที่ว่า การทำงานร่วมกันในด้านการป้องกันและความมั่นคง จะไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเสถียรภาพทั่วโลกด้วย

แถลงการณ์กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีซูนัค เห็นพ้องกับแผนการของญี่ปุ่น ที่มุ่งเน้นการจัดการความมั่นคงทางอาหารและความปลอดภัยของเศรษฐกิจโลก อันเป็นผลกระทบมาจากการรุกรานยูเครน

นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าวยังระบุถึงคำขอเข้าร่วมข้อตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership หรือ CPTPP) ของสหราชอาณาจักรว่า นี่เป็นข้อเสนอพิเศษที่จะทำให้สหราชอาณาจักรได้เข้าร่วมกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดในการพัฒนาเศรษฐกิจและค่านิยมที่คล้ายคลึงกัน

ทั้งยังระบุอีกว่า ผู้นำทั้งสองประเทศเห็นพ้องกันว่าการลงนามในครั้งนี้ จะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศมีศักยภาพเพิ่มขึ้นมหาศาล

โดย CPTPP คือข้อตกลงความร่วมมือเขตการค้าเสรีระหว่างแคนาดา กับกลุ่มประเทศแถบเอเชีย-แปซิฟิก ได้แก่ ออสเตรเลีย บรูไนฯ ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ และเวียดนาม

อ้างอิง:

https://www.nippon.com/en/news/yjj2023011100691/

https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/en/news/20230112_11/