ลมเปลี่ยนทิศในตะวันออกกลาง
เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีการประชุมที่กรุงมอสโคว ระหว่างตัวแทนของรัสเซีย ซีเรีย และตุรกี
การประชุมนี้เกิดขึ้นได้เนื่องจากประธานาธิบดีรีเซฟ ตอยับ แอร์โดอันของตุรกีได้รับรองรัฐบาลของนายบาซ่าร์ อัสสาดอย่างเป็นทางการ แอร์ดออันกับอัสสาดอาจจะพบกันต่อตัวตัวในครึ่งหลังของปีนี้
แน่นอนเลยทีเดียวว่า ประธานาธิบดีปูตินมีบทบาทสำคัญที่สุดในการทำให้ตุรกีกับซีเรียกลับมาคืนดีกัน
ในอดีต ตุรกีร่วมมือกับโลกตะวันตกในการทำสงครามในซีเรียในสมัยของโอบามา โดยตุรกี ซึ่งเป็นสมาชิกของนาโต้เป็นทางผ่านสำหรับส่งพวกนักรบรับจ้าง รวมท้ังพวกอัลเคด้า และไอซิสเข้าไปรบในซีเรียเพื่อโค่นล่มรัฐบาลอัสสาด
ในใจลึกๆ ตุรกีอยากจะได้ดินแดนทางตอนเหนือของซีเรียที่ติดพรมแดนกับตุรกี จะได้จัดการกับกองกำลังเคิร์ด ซึ่งใช้ซีเรียทางเหนือเป็นฐานทำสงครามกับซีเรีย และบ่อนทำลายความมั่นคงของตุรกีอีกด้วย
พวกเคิร์ด ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินและอาวุธจากสหรัฐ มีพลเรือนอยู่ในตุรกี และได้มีการเคลื่อนไหวเพื่อขอตั้งเป็นรัฐอิสระทำให้ตุรกีประกาศว่าองค์กรของพวกเคิร์ดเป็นองค์กรก่อการร้ายที่ต้องถูกทำลาย
สถานการณ์ในซีเรียจึงค่อนข้างสลับซับซ้อน เพราะว่ารัสเซียเข้ามาหนุนอัสสาด ตั้งแต่ปี 2014เพื่อช่วยซีเรียรบกับพวกนักรบก่อการร้ายที่ตะวันตก รวมท้ังกลุ่มประเทศโลกอาหรับให้การสนับสนุนเพื่อโค่นล้มอัสสาด
สงครามซีเรียอยู่ในแผนการก่อสงครามรวมท้ังหมด7ประเทศของสหรัฐที่เพนตากอนร่างขึ้นมาก่อนเหตุการณ์911 โดยนายพลWestley Clarkแห่งกองทัพบกสหรัฐได้ออกมาเปิดเผยว่า เพนตากอนต้องการทำสงครามกับอิรัค ซีเรีย เลบานอน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ก่อนที่จะปิดเกมที่อิหร่าน
911จึงเป็นเงื่อนไขที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นข้ออ้างให้สหรัฐทำสงครามครูเสดในตะวันออกกลาง เพื่อเป้าหมายสูงสุดในการยึดครองนครเยรูซาเลมอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจากโลกมุสลิม
แผนการนี้ดูเหมือนว่าเดินหน้าไปได้ดี เพราะว่าสหรัฐเปิดฉากทำสงครามกับอัฟกานิสถานก่อน ซึ่งไม่ได้อยู่ในแผนพิมพ์เขียวของเพนตากอนแต่เริ่ม เพราะว่าต้องการยึดพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ก่อนตามมาด้วยการถล่มอิรัค และลิเบีย เมื่ออิรัคและลิเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่สำคัญในตะวันออกกลางและแอฟิรกาเหนือถูกทำลายแล้ว เป้าหมายต่อไปคือซีเรีย ถ้ายึดซีเรียได้ อิหร่านจะถูกปิดล้อมสนิท และจะเป็นเป้าหมายสุดท้ายที่จะถูกทำลาย สหรัฐจะได้กลายเป็นผู้ครอบครองบ่อน้ำมันในตะวันออกกลางเกือบทั้งหมด
ปรากฎว่า ปูตินสบโอกาสเข้าไปช่วยซีเรียที่กำลังโดนหมาหมู่รุมกินโต๊ะ เพราะว่าถ้าไม่ช่วยซีเรีย พันธมิตรอิหร่านจะอยู่ยาก เมื่ออิหร่านล้ม ประเทศสถานท้ังหลายที่เคยเป็นบริวารของสหภาพโซเวียตจะอยู่ไม่ได้ หรือจะถูกตะวันตกแทรกซึม เพื่อทำลายความมั่นคงของรัสเซีย ที่เป็นเป้าหมายสุดท้ายของการทำลายของตะวันตก
กองทัพรัสเซียเข้าไปตั้งฐานทัพอากาศ ฐานทัพเรือ และฐานทัพบกในซีเรีย และสามารถรบพุ่งด้วยความสามารถ ทำให้พวกนักรบรับจ้าง พวกอัล เคด้า และไอซิสต้องแพ้แตกกระเจิง สหรัฐถึงกลับตั้งหลักไม่ทัน เพราะไม่คาดคิดว่า ปูตินจะเอาจริงในสงครามตัวแทนในซีเรีย
การเซฟซีเรียของปูตินทำให้กองทัพเรือของรัสเซียได้ทางออกทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และสามารถทำสงครามกับยุโรปได้ ถ้าหากว่าสงครามใหญ่เป็นสิ่งเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต ซีเรียเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในตะวันออกกลาง เพราะว่ามีทางออกสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และมีพรมแดนติดกับเลบานอน อิสราเอลปาเลสไตน์ ตอร์แอน อิรัคและตุรกี
ซีเรียโดนสหรัฐ นาโต้ ตุรกี อิสราเอล ซาอุดิ ยูเออี การ์ต้ารุมกินโต๊ะ แต่ไม่สามารถต้านทางกองทัพรัสเซียได้ ซาอุหันไปเปิดศึกกับเยเมนอีก ยิ่งไปกันใหญ่ทำให้อยู่ในฐานะลำบาก เพราะว่าเปิดศึกหลายด้านเกินไป ต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาลในการสนับสนุนการทำสงคราม นักรบฮูติของเยเมนได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ทำให้ซาอุ และชาติตะวันตกไม่สามารถเอาชนะสงรามเยเมนได้ง่ายๆ วันดีคืนดี พวกฮูติก็ใช้โดรนอิหร่าน หรือยิงขีปนาวุธเข้าดินแดนซาอุดิฯ
ไอซิสที่ว่าแน่ แทบจะสูญพันธุ์จากฝีมือการรบของรัสเซีย ซีเรียและอิหร่านที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ แต่สหรัฐกลับอ้างว่าตัวเองเป็นผู้ทำสงครามชนะไอซิสหน้าตาเฉย คงเหลือแต่พวกนักรบเคิร์ดที่อยู่ทางตอนเหนือของซีเรียเท่านั้นที่ยังคงอยู่ได้ เพราะว่าสหรัฐให้การสนับสนุนและมีการตั้งฐานทัพสหรัฐที่นั่น ซึ่งถือว่าเป็นการรุกรานดินแดนของซีเรียโดยตรง ทหารอเมริกันที่อยู่ในซีเรียได้ทำการปล้นน้ำมันซีเรีย ดูดน้ำมันและขนน้ำมันออกไปขายวันละ100,000บาเรลล์ นอกจากนี้สหรัฐยังคงฐานทัพอยู่ในอิรัค แม้ว่าจะถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานหมดแล้วก็ตาม
มาถึงจุดนี้แล้ว จะเห็นได้ว่าลมกำลังเปลี่ยนทิศในตะวันออกกลาง เนื่องจากความเข้มแข็งทางทหารของรัสเซีย และการปรากฎกายของจีนในตะวันออกกลาง เพื่อที่จะพลิกขั้วตะวันออกกลางให้ออกจากอิทธิพลของกลุ่มแองโกลอเมริกันที่ครอบงำภูมิภาคนี้มาเป็นเวลาช้านาน
ตุรกีเห็นท่าไม่ดี รีบชิ่งไปซบอกรัสเซีย เพราะว่ารู้ดีว่าการทำตัวเป็นศัตรูกับปูตินไม่ดีแน่ แม้ว่าในทางกายตุรกีจะเป็นสมาชิกของนาโต้ แต่หัวใจเอาไปอยู่กับปูตินทั้งหมดแล้ว ตุรกีจึงทำสงครามได้ไม่ถนัดมือในซีเรีย และล้มเลิกนโยบายที่จะล้มรัฐบาลอัสสาด เพราะว่าเกรงใจปูติน แต่เป้าหมายของการทำลายพวกเคิร์ดให้สิ้นซากก็ยังคงมีอยู่ ซึ่งทางรัสเซียก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ขึ้นอยู่กับว่าจะทำสงครามขับไล่ทหารอเมริกันออกจากซีเรียอย่างไรต่อไป
ส่วนซาอุดิ อาราเบียขยับตัวช้ากว่าตุรกี แต่ช้าดีกว่าไม่เปลี่ยนแปลงอะไร เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมัน มกฎราชกุมารของราชวงศ์ซาอุ มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศที่ถูกกลุ่มแองโกลแซกซอนครอบงำ และปู้ยี่ปู้ยำ แถมดูถูกมาตลอดว่าถ้าไม่มีน้ำมัน เศรษฐีซาอุดิฯคงจะต้องกลายเป็นยาจก กลับไปเลี้ยงอูฐเหมือนเดิม ซาอุฯต้องขายน้ำมันเป็นดอลล่าร์ และต้องซื้ออาวุธจากสหรัฐ และพันธมิตรนาโต้เท่านั้น ถ้าแหกคอนจะโดนอุบัติเหตุทางการเมืองที่คาดไม่ถึง
แต่เจ้าชายซาอุฮีดสู้ เพราะว่าไม่ต้องการให้ซาอุอยู่ใต้อิทธิพลของกลุ่มแองโกลแซกซอนตลอดไป จึงหันมาคบค้าสมาคมกับรัสเซีย และจีนมากยิ่งขึ้นเพื่อที่จะถ่วงดุลนโยบายต่างประเทศและความมั่นคง เมื่อซาอุขยับออกจากเงามืดของตะวันตก ยูเออีก็ขยับตาม และกลุ่มประเทศอาหรับก็ต้องยอมเดินทางอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะว่าอยู่ในภูมิภาคเดียวกัน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้เดินทางไปเยือนซาอุฯอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และได้ประชุมซัมมิทกับผู้นำของโลกอาหรับ โดยเนือหาที่สำคัญที่สุดและถือว่าเป้นจุดเปลี่ยนที่สำคัญคือข้อเสนอให้โลกอาหรัฐขายน้ำมันเป็นหยวน โดยจีนจะเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ ให้มีความร่วมมือทางการค้า การลงทุน เศรษฐกิจและการทหาร เพื่อที่จะให้ภูมิภาคนี้กลับมาสงบร่วมเย็น เมื่อปลอดสงครามแล้ว ตะวันออกกลางสามารถเป็นจุดเชื่อมโยงกับโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ของจีนได้
ข้อเสนอของจีนต่างจากข้อเสนอของสหรัฐ สหรัฐคบกับตะวันออกกลางด้วยหลักการน้ำมันเปโตรดอลล่าร์แลกอาวุธ และการสงคราม ส่วนข้อเสนอของจีนให้การคบค้าสมาคมเป็นไปอย่างฉันมิตร ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ วินวินทั้งสองฝ่าย เพราะว่าเน้นความมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
ซาอุและโลกอาหรับดูออกเหมือนกับที่ตุรกีดูออกว่า รัสเซียและจีนกำลังก้าวผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำของขั้วมหาอำนาจโลกใหม่ โดยรัสเซียมีแสนยานุภาพทางทหารที่ไร้เทียมทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก และหัวจรวดนิวเคลียร์ ส่วนจีนมีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มีระบบอุตสาหกรรมที่เข้มแข็งที่สุด และมีแสนยานุภาพทางทหารที่ไม่ด้อยไปกว่าโลกตะวันตก ในเมื่อรัสเซีย และจีนเป็นหัวหอกในการตั้งกลุ่มบริกส์ขึ้นมา ซึ่งประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีนและแอฟริกาใต้เพื่อสร้างระเบียบโลกใหม่ท้ังทางด้านเศรษบกิจและการเงิน จะทำให้โลกไม่จำเป็นต้องเดินตามกฎเกณฑ์ที่กลุ่มแองโกลอเมริกันวางเอาไว้ผ่านยูเอ็น ธนาคารโลก ไอเอมเอฟ วอลล์สตรีท ซิตี้ออฟลอนดอน ฯลฯ
โลกจะไม่มีกลุ่มใดผูกขาดอำนาจอีกต่อไป ซาอุ และตุรกีจึงแสดงความสนใจที่จะสมัครเข้าไปเป็นสมาชิกของกลุ่มบริกส์ ซึ่งจะเป็นแกนหลักของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกในอนาคต เพราะว่าในปัจจุบันนี้จีดีพีของประเทศที่กำลังพัฒนารวมกันเทียบเท่า60%ของโลก ส่วนของประเทศที่พัฒนาแล้วมีเพียง40% แต่ประเทศที่พัฒนาแล้วผ่านกลุ่มจี7กลับควบคุมระเบียบโลกในปัจจุบัน แม้ว่าจะเป็นเสียงส่วนน้อย ปัญหาของประเทศกำลังพัฒนาคือการรวมตัวกันไม่ติดในช่วงที่ผ่านมาจึงไม่สามารถต้านทานอิทธิพลของกลุ่มแองโกลอเมริกันได้ แต่เวลานี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป เพราะว่ารัสเซียและจีนอาสาเป็นผู้นำของประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องการสร้างระเบียบโลกใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องเดินตามหลังตะวันตกอีกต่อไป
ท้ังหมดนี้คือบริบทของความขัดแย้ง หรือสงครามในตะวันออกกลางที่ต้องทำความเข้าใจร่วมกันก่อน ก่อนที่จะเห็นอนาคตจะไปในทิศทางไหน
หลังจากการประชุมที่กรุงมอสโคว ระหว่างตัวแทนของรัสเซีย ตุรกีและซีเรีย ปรากฎว่าตุรกียอมรับที่จะถอนกองกำลังทหารตุรกีออกจากซีเรีย และรับรองรัฐบาลอัสสาด แม้ว่าตุรกีจะไม่พอใจสหรัฐที่ยังคงให้การสนับสนุนกองกำลังเคิร์ดที่เป็นชนกลุ่มน้อยอยู่ ทำให้สหรัฐกลายเป็นกองกำลังต่างชาติที่อยู่ในซีเรียอย่างผิดกฎหมายระหว่างประเทศ https://www.antiwar.com/blog/2023/01/01/are-foreign-forces-on-their-way-out-of-syria/
เมื่อดึงเอาตุรกีออกจากสมการของความขัดแย้งไปแล้ว รัสเซีย อิหร่านและพันธะมิตรตะวันออกจะได้ไม่ต้องพะว้าพะวงกับตุรกีอีกต่อไป เพราะว่าตุรกีจะเป็นพันธะมิตรที่สำคัญที่สุดของมหาอำนาจตะวันออกในวาระต่อไปเมื่อเกิดสงครามใหญ่ในยุโรป ทำให้สามารถโฟกัสไปยังการทำสงครามเพื่อขับไล่กองกำลังอเมริกันออกจากซีเรีย
คาดการณ์ได้เลยว่าสงครามซีเรียจะระเบิดขึ้นรอบใหญ่ โดยฐานทัพสหรัฐในซีเรียจะตกเป็นเป้า
เมื่อซาอุฯเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศ การปรองกองกันระหว่างซาอุฯกับอิหร่าน ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอดประวัติศาสตร์ที่ยาวนานจะเป็นสิ่งที่กำลังจะตามมา ล่าสุดทางอิหร่านส่งสัญญานชัดเจนว่า พร้อมที่จะนั่งลงพูดคุยเพื่อที่จะฟื้นสัมพันะไมตรีทางการทูต และการเมืองกับซาอุฯ ซึ่งทางซาอุฯน่าที่จะตอบรับด้วยดี หรืออาจจะมีการพูดคุยกันทางลับไปแล้ว อย่าลืมว่าอิหร่านเป็นพันธะมิตรที่สำคัญของรัสเซียและจีนhttps://www.1lurer.am/en/2022/12/19/Iran-is-ready-to-regulate-relations-with-Saudi-Arabia-Amir-Abdollahian/852356
เมื่ออิหร่านและซาอุฯสามารถจับมือกันได้ และตุรกีย้ายมาอยู่กับฝั่งทางรัสเซียและจีนที่กำลังเข้ามาการันตีความมั่นคงทางการเมือง การทหารแทนตะวันตก เราจะเห็นความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ แน่นอนกลุ่มแองโกลอเมริกันไม่ต้องการเห็น เพราะว่าการครองโลกที่ผ่านมาใช้นโยบายแบ่งแยกและปกครองมาตลอด
เมื่ออิทธิพลทางทหารของสหรัฐในซีเรียลดลงจากสงครามที่กำลังจะปะทุขึ้น จะเป็นการยากที่สหรัฐจะยังคงอิทธิพลในอิรัคได้อีกต่อไป เพราะว่าตะวันออกกลาง หรือโลกอาหรับโดยรวมกำลังหันหน้าไปคบกับรัสเซียและจีนอย่างแนบแน่นขึ้น
ทำให้อิสราเอล ที่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากแองโกลอเมริกันมาตลอดกำลังจะถูกโดดเดี่ยวอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดูเหมือนว่า911จะทำให้อิสราเอลเข้มแข็งขึ้น แต่ไปๆมาๆ สถานการณ์กลับพลิกทำให้อิสราเอลอยู่ในฐานะที่ง่อนแง่นมาก ทำให้ต้องเอานายเบนจามิน เนธันยายู ผู้นำสายเหยี่ยวกับมาบริหารประเทศแทนเพื่อความอยู่รอด
ระหว่างที่เยือนซาอุฯ สี จิ้นผิงส่งสัญญานชัดเจนไปยังอิสราเอลว่า ควรต้องมีสองรัฐ คือรัฐปาเลสไตน์อยู่ร่วมกับรัฐอิสราเอล โดยเยรูซาเลมตะวันออกต้องเป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์ เท่ากับดับฝันอิสราเอลที่ต้องการยึดดินแดนปาเลสไตน์ทั้งหมด และยึดนครเยรูซาเลมท้ังฝั่งตะวันกและตะวันออกเพื่อเป็นเมืองหลวงของรัฐอิสราเอลต้องเจอกับฝันร้าย
ถ้าอิสราเอลยอมรับเงื่อนไขของจีน ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ยูเอ็นรับรองอยู่แล้ว แต่อิสราเอลละเมิดมาตลอด สันติภาพในตะวันออกกลางจะกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์ ถ้าอิสราเอลไม่ยอม จะถูกโดดเดี่ยว และเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้เห็นสงครามอาร์มาเกดดน เพราะว่าอิหร่าน อิรัก ซีเรีย เยเมน เลบนอนทั้งหมดจะเข้าไปช่วยปาเลสไตน์รบกับอิสราเอลเพื่อปลดแอกให้เป็นไท
เมื่อถึงเวลานั้น แองโกลอเมริกันจะมีกำลังพอที่จะปกป้องอิสราเอลหรือไม่เพราะว่าต้องหันมาทุ่มทรัพยากรทั้งหมดเพื่อดูแลประเทศตัวเองก่อน ไหนจะหนุนยูเครนจนแทบหมดตัว และต้องเสี้ยมไต้หวันให้แตกแยกกับจีนอีก
นี่คือเรื่องราวทั้งหมดของลมที่กำลังเปลี่ยนทิศในตะวันออกกลาง ซึ่งมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อการดำรงอยู่ของโลกใบนี้ที่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ที่มา
Thanong FanClub