ขบวนการไซออนิสต์ (Zionism) ลัทธิก่อการร้ายโลก
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทุกวันนี้ เมื่อพูดถึงการก่อการร้าย สิ่งแรกที่ทุกคนจะนึกถึงและวาดมโนภาพล่วงหน้าเอาไว้ในใจก็คือ ภาพของชายชาวอาหรับมุสลิมสวมหมวกสีขาวไว้เคราอย่างนายอูซามะฮ บินลาเด็น ผู้ก่อการร้ายอันตรายอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งอันที่จริงการที่ใครๆ จะคิดอย่างนั้นก็คงไม่แปลก เพราะอิทธิพลสื่อยักษ์ใหญ่ของชาติมหาอำนาจตะวันตก ได้ใช้พลังอำนาจในทุกๆ ด้าน โหมโฆษณาชวนเชื่อ ทำให้คนเสพสื่อเข้าใจว่า ลัทธิก่อการร้ายมาจากชาวอาหรับ และคำสอนของศาสนาอิสลาม
สิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีอิสลาม เห็นได้อย่างชัดเจน จากภาพยนต์ฮอลลีวู้ดหลายต่อหลายเรื่องที่นำออกฉายก่อนเกิดเหตุการณ์ 911 รวมทั้งการปฏิบัติการข่าวสาร (Information Operation:IO) ทำลายศาสนาอิสลามทุกรูปแบบ เพื่อสร้างความชอบธรรมก่อนการบุกประเทศอิรัก แต่ในขณะเดียวกันแผนการเพื่อการครอบงำ และทำลายโลกที่น่าสะพึงกลัวที่สุดเท่าที่เคยพบในโลกยุคใหม่นี้ กลับไม่มีใครที่จะระแคะระคายล่วงรู้ถึงภยันตรายของมันได้เลย เว้นแต่ผู้ที่ได้ติดตามศึกษามันอย่างพินิจพิเคราะห์ และได้ใคร่ครวญอย่างละเอียดถี่ถ้วนถึงภัยคุกคามที่เกิดขึ้นทั่วโลก เมื่อนั้นเขาก็จะประจักษ์ถึงแผนการร้ายของยิวที่ต้องการจะครองโลก บงการโลกแต่เพียงผู้เดียวโดยขบวนการก่อการร้ายที่มีชื่อว่า “ไซออนิสต์ (Zionist)”
บทความนี้ ต้องการจะอธิบายถึงการก่อการร้ายที่น่าสะพึงกลัวที่สุดในโลกยุคใหม่ที่กระทำโดย “ชาวยิว” ที่เป็นสมาชิกของ “ขบวนการไซออนิสต์” ซึ่งได้กระทำทารุณกรรม เข่นฆ่าสังหารชาวปาเลสไตน์อย่างเหี้ยมโหด การรุกรานขยายดินแดนด้วยการเข่นฆ่าและขับไล่ชาวอาหรับและปาเลสไตน์ได้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยการรู้เห็นเป็นใจและการให้ความสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจตะวันตกมาโดยตลอด ขณะเดียวกันเราจะต้องไม่ลืมชาวยิวผู้บริสุทธิ์ใจที่ยอมรับสิทธิของชาวปาเลสไตน์ในแผ่นดินของพวกเขา และอยากที่จะเห็นสันติภาพที่ทำให้คนทั้งสองกลุ่มอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบ
ลัทธิไซออนิสต์” หรือ “องค์การไซออนิสต์” (Zionist) ยุคใหม่ ก่อตั้งโดยนายธีโอดอร์ เฮอร์เซิล (Theodor Herzl) ด้วยเจตนาที่จะรื้อฟื้นสิ่งที่พวกเขาคิดว่า เป็นแผ่นดินที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้เป็นการเฉพาะแก่พวกยิว (แผ่นดินแห่งพันธสัญญา) (Theodor Herzl: เกิดที่บูดาเปส ปี ค.ศ.1860 แล้วย้ายไปอยู่ที่กรุงเวียนนา ในปี ค.ศ.1895 เสียชีวิตในเมือง โอลาค เมื่อ 2 ก.ค. 1904 ศพของเขาถูกย้ายไปยังปาเลสไตน์และฝังที่นั่น)
เพื่อสานต่อแนวคิดไซออนิสต์ในอดีต “เฮอร์เซิล” ( Theodor Herzl ) ได้จุดประกายความฝันให้กับชาวยิวทั้งโลกด้วยหนังสือชื่อว่า “Der Judenstaat” หรือ “The Jewish State” ที่ฉายภาพ “รัฐยิว” ในจินตนาการให้คนยิวและชาวโลกได้เห็น สิ่งที่เขาเน้นในหนังสือเล่มนี้คือ “ชาวยิว” จะต้องรับโทษประหัตประหารหรือตามเข่นฆ่าอยู่เสมอ ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้มีประโยชน์ต่อประเทศชาติที่เขาอาศัยอยู่เพียงใดก็ตาม นอกเสียจากว่าชาวยิวจะมีประเทศเป็นของตนเอง ภาพร่างการก่อกำเนิดประเทศยิวของเฮอร์เซิล คือ รวบรวมและอพยพชาวยิวไปยังดินแดนหนึ่ง และทำสัญญากับมหาอำนาจในยุโรปเพื่อประกันสิทธิในดินแดนนั้น รวมทั้งต้องมีองค์กรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการอพยพ และตั้งถิ่นฐานใหม่นี้ด้วย และองค์กรที่ว่านี้คือ “ไซออนิสต์” นั่นเอง
อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ชาวยิวถึงได้มีความคิดอันยิ่งใหญ่เช่นนั้น ?
สำหรับพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่ทำให้เกิดแนวความคิด แผนก่อการร้ายเพื่อที่จะครองโลกนั้นคือ
1. ยิวมีทัศนะว่ารูปแบบของการปกครองบนโลกทั้งหมดนั้น “ใช้ไม่ได้” จำเป็นต้องเพิ่มการบ่อนทำลายไปจนถึงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อก่อตั้งอาณาจักรยิว
2. การปกครองมนุษย์ คืองานอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ความคิดของมนุษย์ยังขาดความประนีต เพราะฉะนั้น การปกครองมวลมนุษย์จึงเป็น “หน้าที่” ของชนชาติยิว
3. มนุษย์ทั่วไปนอกจากชาวยิวจะต้องถูกปกครองเสมือนฝูงสัตว์ที่ต่ำต้อย ถูกต้อน (ถูกปกครอง)
4. ล่อลวงมนุษย์ด้วยตันหาราคะ และแพร่ความชั่วช้า ความเสื่อมโทรม จนกระทั่งประชาชาติต่างนองเลือดกันเอง และไม่มีทางเลือกใดๆ นอกเสียจากจะต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของชาวยิว
5. บรรดา ชาวโลกนอกจากยิว โดยเฉพาะพวกผู้นำ ก็คือหมากรุกในมือของพวกเขาที่จะต้องควบคุมให้ได้โดยการข่มขู่ ล่อลวง ให้ผลประโยชน์ ผู้หญิง ตำแหน่งต่างๆ ฯลฯ
6. สร้างวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อโลกจะได้เกิดความวุ่นวาย แล้วก็หันไปขอความช่วยเหลือการปัดเป่าความโศกเศร้า และทำให้คนสิ้นคิดมีความสุขด้วยอำนาจของยิว
7. สื่อทุกชนิดจะต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของยิว ไม่ว่าจะเป็นสื่อการพิมพ์ หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงละคร บริษัทผลิตภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์ ศาสตร์แขนงต่าง ๆ กฏหมาย การลงทุนและตลาดหุ้น ฯลฯ
8. ขอความช่วยเหลือจากทองคำ ซึ่งยิวได้กักตุนมันไว้ เพื่อขจัดจิตสำนึก ทำลายมนุษย์ และครอบครองโลกทั้งหมดไว้
ผู้นำไซออนิสต์ยุคใหม่ ได้จัดประชุมครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ.1897 จนถึงปี ค.ศ.1951 ถึง 23 ครั้งด้วยกัน กำหนดเป้าหมายเพื่อศึกษาแผนการต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่การก่อตั้งอาณาจักรไซออนิสต์สากล โดยมีแผนยุทธศาสตร์ 3 ขั้น คือ
1. ก่อนตั้งรัฐอิสราเอลในปาเลสไตน์
2. ระหว่างตั้งรัฐอิสราเอลในปาเลสไตน์
3. หลังตั้งรัฐอิสราเอลในปาเลสไตน์
การขับเคลื่อนองค์กรของลัทธิไซออนิสต์ ในการไปสู่จุดหมายตามแผนยุทธศาสตร์ 3 ขั้นตอนนั้นจะต้องสร้าง “คน” โดยการคัดเลือกกลุ่มเยาวชนยิวที่มีคุณภาพดีที่สุด เข้าสู่ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพมากที่สุด ส่งเสริมกลุ่มเยาวชนยิวที่มีคุณภาพการศึกษาดีที่สุด เข้าสู่กระบวนการอุดมศึกษาที่ดีที่สุดในโลก (ฮาวาร์ด, เคม บริดจ์, ออกซ์ฟอร์ด , เอ็มไอที ฯลฯ) สนับสนุนและส่งเสริมกลุ่มเยาวชนยิวที่มีคุณภาพเหล่านี้เข้าทำงานในหน่วยงาน ต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลต่อการเมืองและเศรษฐกิจของทั้งยุโรปและอเมริกา และของโลก (UN, FBI, CIA ฯลฯ)
ถ้าจำเป็นก็ให้กำจัดคู่แข่งของเยาวชนยิวเหล่านี้ทุกวิถีทาง โดยใช้อิทธิพลทางการเมืองและทางเศรษฐกิจที่เยาวชนยิวรุ่นก่อน ๆ ได้สร้างสมไว้ หากมองเพียงผิวเผินก็เป็นลักษณะรุ่นพี่สนับสนุนรุ่นน้องให้เติบโตตามสายงานธรรมดา ๆ แต่เมื่อวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งแล้วจะพบว่า เป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และเต็มไปด้วยพลังอำนาจ มีการใช้อิทธิพลทั้งทางการเมือง และทางเศรษฐกิจอย่างกว้างขวางและรุนแรง เพื่อเป็นหลักประกันว่า กลุ่มเยาวชนยิวที่มีคุณภาพจะได้ที่นั่งที่ดีที่สุดรุ่นต่อรุ่น
เพื่อการครอบครองโลกอย่างเบ็ดเสร็จ พวกยิวยังมีความพยายามในการที่จะควบคุมระบบการเงิน การคลัง การธนาคาร ให้อยู่ในกำมือของพวกเขาเท่านั้น พวกเขาจึงคิดสร้างเครื่องมือเพื่อควบคุมระบบการเงิน การคลัง การธนาคารไว้ทั้งหมด โดยการพยายามจัดตั้งองค์การทางการเงินที่สำคัญระดับโลกไว้คอยควบคุมระบบการ เงิน การคลัง การธนาคารทั้งระบบ เช่น ธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการฟื้นฟูบูรณะและการพัฒนา หรือธนาคารโลก (International Bank for Reconstruction and Development/World Bank) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund/IMF) เป็นต้น
หากเราจะพิจารณาลึกลงไปอีกก็จะพบว่ามีชาวยิวหลายคนควบคุมระบบการเงิน การคลัง การธนาคารของโลก เช่น นายอลัน กรีนสแปน อดีต ผู้ว่าการธนาคารชาติอเมริกา (แม้ในปัจจุบันก็ยังมีบทบาทอย่างสูง) นายจอร์จ โซรอส ยิวอเมริกันพ่อมดการเงินระดับโลก ที่เข้ามาถล่มค่าเงินบาทไทยจนเศรษฐกิจไทยแทบล่มสลาย ซึ่งตัวนายจอร์จ โซรอส เอง ก็ประกาศเจตนารมย์อย่างชัดเจนว่าจะบริจาคผลกำไรที่ได้ทั้งหมดจากการถล่ม ค่าเงินบาทไทย ไปเพื่อการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาของเยาวชนยิวในยุโรปตะวันออก เป็นต้น
สื่อในอเมริกา ปัจจุบันเกือบทั้งหมดเป็นของยิว อาทิเช่น นิตยสารไทม์ เดลี่ เทเลกราฟ วอชิงตันโพสต์ ดิอิโคโนมิสต์ รวมทั้งบริษัทสร้างภาพยนต์ต่าง ๆ ฯลฯ หมายความว่ากระบวนการรับรู้ข่าวสารของอเมริกันชนและยุโรปทั้งหมด ถูกปิดหูปิดตาด้วยโฆษณาชวนเชื่อ และสร้างภาพให้ดูให้รู้สึกโดย “ขบวนการไซออนิสต์” ซึ่งพัฒนาไปไกล และยิ่งใหญ่กว่า “CIA” หรือ “FBI” หรือแม้แต่ “รัฐชาติ” (Nation State) ไปมากแล้ว นั่นก็คือการดำเนินชีวิตประจำวันของอเมริกันชน ผิวขาว ผิวดำ ผิวสี ในปัจจุบัน เป็นไปเพื่อรับใช้ยิวโดยไม่รู้ตัว
ไซออนิสต์ มีสมาคมและองค์กรทั้งลับและไม่ลับอีกเป็นจำนวนมากทั้งในยุโรปและอเมริกา และตามภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก (สโมสรไลออนส์, สโมสรโรตารี่) ปฏิบัติงานในทุก ๆ ด้าน แม้ว่าบางครั้งอาจจะมองว่าขัดแย้งกัน แต่ธาตุแท้แล้วทั้งหมดนั้นเป็นการจัดฉากแสดงละคร เพื่อผลประโยชน์ถาวรของยิวโลกทั้งสิ้น
บทเรียนในเรื่องความฉลาดของยิว ได้สอนให้เราเห็นถึง “ความฉลาด ที่ไร้คุณธรรม” หากเราคนไทยได้อ่านบทพระราชนิพนธ์แปลของล้นเกล้ารัชการที่ 6 เรื่อง “เวนิส วานิช” พระองค์ได้ทรงสอนคนไทยเราให้รู้จักยิวมาเกือบร้อยปีแล้วว่า แท้จริง “ยิว” นั้นเป็นอย่างไร?
รัฐบาล หรือกองทัพของบางประเทศที่ดำเนินนโยบายตามหลักนิยมชาติมหาอำนาจตะวันตกอย่างไม่มี เงื่อนไข ไม่บิดพลิ้ว ไม่ลืมหูลืมตา จนได้รับฉายา หรือคำเรียกขานว่า “Good Boy” จงสำเหนียกไว้ว่า กำลังนำอนาคตของชาติไปฝากไว้ในอุ้งหัตถ์ซาตาน รอวันเวลาที่จะสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน
บทสรุป
จากร่องรอยหลักฐานที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ทำให้เราพอจะมองออกแล้วว่า ใครคือ “ภัยคุกคาม” หรือ “ผู้ก่อการร้าย” ตัวจริงของโลก พฤติกรรมต่าง ๆ ของรัฐอิสราเอล โดยมี “ขบวนการยิวไซออนิสต์” ชักใยอยู่เบื้องหลังนั้น ล้วนเป็นพฤติกรรมของการก่อการร้าย ที่นิยมการใช้ความรุนแรงและแนวทางสุดโต่งเป็นพื้นฐาน เป็นเผด็จการอำนาจนิยมอย่างแท้จริง โลกจะต้องรู้เท่าทันองค์การก่อการร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกยุคนี้ให้ได้ ถ้าหากพวกเรายังนิ่งเฉย ไม่คิดหาวิธีการหรือกระบวนการที่เหมาะสม ไว้เพื่อต่อกรกับ ขบวนการไซออนิสต์ แล้ว เชื่อแน่ว่าภายในไม่เกินหนึ่งร้อยปีจากนี้ไป พวกเราจะมีสภาพไม่แตกต่างไปจากชาวปาเลสไตน์นั่นเอง!
อ้างอิง:
เส้นทางสายไหม The Silk Road