สหรัฐ เตรียมจัดสรรงบ 55 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนแอฟริกา ภายในระยะเวลาอีก 3 ปี
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ว่า นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมจัดสรรงบประมาณ 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.91 ล้านล้านบาท) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สาธารณสุข และความมั่นคง ของทวีปแอฟริกา ภายในระยะเวลาอีก 3 ปีนับจากนี้
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้น ก่อนไบเดนเตรียมเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดวาระพิเศษ ร่วมกับผู้นำ 50 ประเทศจากทวีปแอฟริกา ระหว่างวันที่ 13-15 ธ.ค. นี้ ที่กรุงวอชิงตัน ทั้งนี้ ซัลลิแวนกล่าวว่า แนวทางการดำเนินงานของทุกประเทศในแอฟริกา แน่นอนว่าต้องเป็นไปตามแผนพัฒนาแห่งภูมิภาค เพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน ภายในปี 2606 ที่จัดทำโดยสหภาพแอฟริกา ไม่ใช่สหรัฐ แต่รัฐบาลวอชิงตันต้องการ “มีส่วนร่วม” และ “เพิ่มความสนับสนุน” เท่านั้น อีกทั้งการประชุมครั้งนี้ “ไม่เกี่ยวกับบุคคลที่สาม
การประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐกับแอฟริกาครั้งนี้ เกิดขึ้น 1 ปี หลัง นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ เดินสายเยือนหลายประเทศในภูมิภาคแห่งนั้น โดยเจ้าหน้าที่การทูตหมายเลขหนึ่งของรัฐบาลวอชิงตันกล่าวว่า การลงทุนของสหรัฐในแอฟริกา “ไม่มีทางให้ประเทศที่ร่วมลงนามต้องแบกรับกับภาระหนี้สินที่ไม่อาจจัดการได้” หรือ “การติดกับดักหนี้” แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อประเทศใดโดยตรง แต่สื่อชัดเจนว่า หมายถึงจีน ซึ่งเข้ามาเพิ่มการลงทุนในแอฟริกาอย่างจริงจัง เป็นเวลานานก่อนหน้าสหรัฐ
ขณะที่นายฉิน กัง เอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน กล่าวว่า จริงอยู่ที่จีนเข้าไปร่วมลงทุนในหลายประเทศของทวีปแอฟริกา แต่เมื่อวิเคราะห์โดยรวมตามความเป็นจริง ถือเป็นสัดส่วนที่ “ยังน้อยมาก” เมื่อเทียบกับการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากรัฐบาลตะวันตก และองค์กรการเงินระหว่างภูมิภาค ซึ่งกลุ่มประเทศตะวันตกเป็นผู้บริจาครายใหญ่ ดังนั้น จึงไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่ยังคงมีการกล่าวหาว่า จีนสร้างกับดักหนี้ในแอฟริกา
อ้างอิง :