สี จิ้นผิง ผู้นำจีน เตรียมเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียเพื่อเข้าประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาหรับในวันพฤหัสฯนี้
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เตรียมเดินทางเยือนประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งการเยือนครั้งนี้ของผู้นำจีนอาจเป็นการส่งสัญญาณที่ไม่ดีนักต่อสหรัฐฯ เพราะซาอุฯแม้จะเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ มาอย่างยาวนาน แต่ความสัมพันธ์เริ่มตกต่ำลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น CNN ของสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างคำพูดของแหล่งข่าวด้านการทูต เปิดเผยว่า ประธานิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน จะเดินทางถึงกรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยจะใช้เวลาการเยือนอย่างเป็นทางการ 2 วันโดยประธานาธิบดี สี จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำจีน-ชาติอาหรับ และการประชุมกับคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ หรือ GCC คาดว่าจะมีผู้นำชาติอาหรับ 14 คน เข้าร่วม
ซึ่งแหล่งข่าวด้านการทูตในตะวันออกกลางเชื่อว่าการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียของประธานาธิบสี จะเป็นก้าวสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างชาติอาหรับและจีน
สำหรับการเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียของ ประธานาธิบดีสี มีกระแสข่าวเกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นเวลานานหลายเดือน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากรัฐบาลของทั้งสองประเทศ โดยรัฐบาลจีนยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการว่าประธานาธิบดี สี จะเดินทางเยือนกรุงริยาด
สำหรับซาอุดีอาระเบียแม้จะเป็นชาติพันธมิตรสำคัญในภูมิภาคตะวันออกกลางของสหรัฐฯ มานานกว่า 80 ปี แต่หลายปีที่ผ่านมาความสัมพันธ์ทั้ง 2 ประเทศตกต่ำลง โดยเฉพาะหลังจากเหตุสังหารนาย จามาล คาชอกกี สื่อมวลชนชาวซาอุดีอาระเบียที่อาศัยอยู่ในสหรัฐ ซึ่งมักวิจารณ์รัฐบาลของซาอุดีอาระเบียในเชิงลบ
โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 2018 ขณะที่ คาชอกกีเดินทางไปทำธุระในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ซึ่ง รัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวหาว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชการกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียว่าเป็นผู้บงการ
ขณะที่เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ทีมโฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ต้องการทบทวนความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียนั้น เป็นเพราะการที่กลุ่มโอเปกพลัสซึ่งมีรัสเซียร่วมเป็นสมาชิกบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 2 ล้านบาร์เรลล์ต่อวัน ทั้งที่ระหว่างเดินทางกรุงริยาด ฝ่ายซาอุดีอาระเบียรับปากจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน เพื่อช่วยลดราคาพลังงานและบรรเทาปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นกับเกือบทุกประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ
นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และ จีน ยังเกิดปัญหาเช่นกัน โดยเฉพาะในประเด็นสถานะของไต้หวันหลังจากที่ นาง แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนกรุงไทเป เมื่อเดือน ส.ค. และ ได้เข้าพบกับ ประธานานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ผู้นำไต้หวัน
โดยหลังการเดินทางเยือนไต้หวัน จีนได้จัดการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงหลายครั้งเพื่อตอบโต้ความเคลื่อนไหวของ นาง เพโลซี่ ซึ่งสหรัฐฯ ยืนยันว่าแม้จะยังเคารพหลัการจีนเดียว แต่พร้อมจะปกป้องไต้หวันจากการุกรานของจีน
จุดยืนดังกล่าวยังคงถูกตอกย้ำเมื่อวานนี้ โดย นาง คารีน ฌอน ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่ารัฐบาลกำลังทำงานร่วมกับรัฐสภา เพื่อหาทางยกระดับการป้องกันไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆต่อสถานะปัจจุบันของไต้หวัน ซึ่งจีนยืนยันว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตนเอง และ พร้อมจะดำเนินการทุกวิถีทาง ที่รวมถึงมาตรการทางทหารเพื่อขัดขวางความพยายามประกาศเอกราชของไต้หวัน
อ้างอิง :
https://edition.cnn.com/2022/12/05/middleeast/xi-jinping-saudi-arabia-visit-intl