วิเคราะห์ ไบเดน พบสีจิ้นผิง ที่บาหลี ถกประเด็นไต้หวัน
นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะพบกับนายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน นี้ ก่อนที่จะเริ่มเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำ กลุ่มจี 20 ถือเป็นการพบปะกันครั้งแรกของทั้งสองผู้นำ หลังจากที่ไบเดนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ในช่วงต้นปี 2021
ก่อนหน้านี้ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ทั้งสองผู้นำประเทศสหรัฐและจีน ได้พบปะกันในยุคสมัยการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด
จากกรณีที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ ที่เดินทางเยือนประเทศไต้หวัน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนเกิดความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีความระหองระแหงกันในสงครามทางการค้าและเทคโนโลยี
ฉะนั้น จึงมีคำถามที่ว่า ระหว่างไบเดนและสีจิ้นผิง จะปรับความสัมพันธ์มากกว่าได้ไหมในการพบปะกันครั้งนี้ที่บาหลี?
ประเด็นไต้หวัน ถือเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างมากในการพบปะกันของไบเดนและสีจิ้นผิง
ขณะที่จีนมองว่า ไต้หวัน เป็นส่วนหนึ่งของจีน ไม่สามารถแบ่งแยกได้ โดยในที่ประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ในช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็มีการเน้นย้ำว่า จีนจะเดินหน้าผลักดัน การรวมชาติด้วยสันติวิธี แต่อย่างไรก็ตาม การใช้กำลังขู่บังคับก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทางการจีนอาจเลือกใช้หากมีความจำเป็น
นอกจากการเยือนไต้หวันของนางเพโลซีแล้ว ยังมีคณะผู้แทนจากสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ เยือนไต้หวันด้วยเช่นกัน ทำให้จีนเกิดความไม่พอใจต่อสหรัฐฯเป็นอย่างมาก
คาดว่า ในการพบปะกันครั้งแรกขอทั้งสองผู้นำประเทศ ไบเดนน่าจะใช้โอกาสการพบกันครั้งนี้ ในการเน้นย้ำความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างสหรัฐและจีน โดยมีจุดยืนที่สหรัฐฯมีต่อไต้หวัน จะยังไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งสหรัฐฯยังประกาศจุดยืนว่าเขาไม่สนับสนุนให้ไต้หวันประกาศเป็นเอกราชแต่อย่างใด