รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย เรียกร้องอาเซียน ให้หยุดซุกปัญหาไว้ใต้พรม
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย เรียกร้องอาเซียนหยุดซุกปัญหาไว้ใต้พรม หลังประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนนัดพิเศษ หารือสถานการณ์เมียนมาโดยเฉพาะ หลังกองทัพเมียนมาโจมตีคอนเสิร์ตคะฉิ่น จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย แถลงข่าวหลังการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศนัดพิเศษเมื่อวานนี้ (27 ต.ค.) ที่ประเทศอินโดนีเซียว่า อินโดนีเซียขอประณามการใช้ความรุนแรงในเผด็จการทหารเมียนมา และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสามารถมีส่วนร่วมเพื่อแก้วิกฤติ
.
รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียระบุว่า เราเชื่อในการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ซึ่งอาเซียนพร้อมอำนวยความสะดวกในการเจรจาเพื่อพูดคุยถึงอนาคตของเมียนมา ซึ่งปัญหาในเมียนมาต้องแก้ด้วยคนในเมียนมาเอง ดังนั้นการเจรจาจึงเป็นเรื่องสำคัญ สิ่งที่อาเซียนทำได้คือทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก
.
รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียชี้ว่า การกวาดทุกปัญหาไปซุกไว้ใต้พรม คงจะไม่ใช่กลไกที่อาเซียนใช้อีกต่อไป
การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนนัดพิเศษเมื่อวานนี้ (27 ต.ค.) ถูกเสนอโดยอินโดนีเซีย โดยมีกัมพูชาเป็นประธาน เป็นการหารือหลังที่ผ่านมา ข้อตกลงระหว่างอาเซียนกับรัฐบาลทหารเมียนมา เกี่ยวกับฉันทามติ 5 ข้อล้มเหลว โดยนายปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ในฐานะผู้แทนอาเซียนต่อสถานการณ์ในเมียนมา ยอมรับว่า สถานการณ์ในเมียนมายังสาหัสและยังไม่สามารถคาดการณ์อนาคตได้
หลายฝ่ายจับตาว่า ผลการหารือในการประชุมนัดพิเศษครั้งนี้ จะเปลี่ยนแปลงจุดยืนของอาเซียน ซึ่งที่ผ่านมายึดถือหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศสมาชิกหรือไม่ โดยความพยายามนี้มาจากสิงคโปร์และอินโดนีเซีย
การประชุมครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความรุนแรงในเมียนมาที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยไม่กี่วันก่อนการประชุมเพิ่งเกิดเหตุ รัฐบาลทหารเมียนมาใช้เครื่องบินรบ 3 ลำโจมตีคอนเสิร์ตในรัฐคะฉิ่น จนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน จนเกิดกระแสจากนานาชาติให้คว่ำบาตรบุคคลหรือองค์กรที่อาจเกี่ยวข้องกับการส่งอาวุธให้รัฐบาลทหารเมียนมา
ก่อนหน้านี้ กัมพูชาในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธ (26 ต.ค.) เรียกร้องให้เมียนมายับยั้งชั่งใจ และประกาศหยุดยิงทันที รวมทั้งขอให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาพูดคุยกันด้วย
ขณะที่ท่าทีจากสหรัฐฯ นายแดเนียล คริเทนบริงค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เรียกสถานการณ์ที่เมียนมาว่าเป็น “โศกนาฏกรรม” และกล่าวว่า การหาวิธีรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสูงสุดในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่จะกำลังจะจัดขึ้น
นายคริเทนบริงค์ กล่าวด้วยว่า ระหว่างการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกที่กัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพในเดือนหน้า สหรัฐฯ จะเรียกร้องอย่างแข็งขันให้ยกระดับการกดดันรัฐบาลทหารเมียนมาให้มากขึ้นไปอีกด้วย พร้อมระบุว่า “เราจะไม่นั่งนิ่งเฉย ขณะที่เหตุความรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง เราจะไม่นั่งนิ่งเฉย ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมาเตรียมจัดการเลือกตั้งที่จะเป็นเรื่องเท็จและหลอกลวง ซึ่งมีการพูดไว้ว่า จะจัดขึ้นในปีหน้า”
ที่มา
No Result
View All Result