ผู้นำกลุ่ม G7 ประชุมออนไลน์กับเซเลนสกี แถลงจุดยืนหนุนยูเครน ขณะที่เยอรมนี ลั่นจะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศช่วยยูเครน หลังถูกรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มหลายเมือง รวมทั้งกรุงเคียฟ
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2022 การประชุมออนไลน์ของผู้นำชาติกลุ่มสมาชิก G7 ได้ข้อสรุปหลังจากที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนร้องขอให้ชาติ G7 เพิ่มกำลังความช่วยเหลือแก่ยูเครนในทุกด้าน รวมทั้งความช่วยเหลือเกี่ยวกับการป้องกันภัยทางอากาศ
โดยแถลงการณ์หลังการประชุมของชาติสมาชิก G7 ซึ่งประกอบไปด้วยสหรัฐฯ, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร, อิตาลี และแคนาดา ยืนยันจะให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครน ทั้งด้านการเงิน มนุษยธรรม การทหาร การทูต และการสนับสนุนทางกฎหมายตราบนานเท่านาน
ชาติสมาชิก G7 ยังแสดงจุดยืนด้วยว่า การโจมตีของรัสเซียที่พุ่งเป้าพลเรือน เป็นการกระทำที่ไม่ต่างจากอาชญากรสงคราม และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้
บรรดาชาติสมาชิก G7 ยังมีความกังวลถึงการใช้อาวุธเคมี อาวุธชีวภาพ รวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ของฝ่ายยูเครน โดยนายฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ย้ำถึงความพยายามหยุดใช้อาวุธนิวเคลียร์ ในฐานะที่ญี่ปุ่นเคยตกเป็นเหยื่อการโจมตีในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2
แม้ผู้นำชาติ G7 จะไม่ได้ให้คำมั่นโดยตรงถึงความช่วยเหลือเกี่ยวกับระบบป้องกันภัยทางอากาศ ผ่านการประชุมออนไลน์ครั้งนี้ แต่ก่อนหน้านี้นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันว่า จะให้ความช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องกับระบบป้องกันภัยทางอากาศแก่ยูเครน เพื่อป้องกันการโจมตีด้วยขีปนาวุธไปยังเมืองต่างๆ ของรัสเซีย
ขณะที่ล่าสุด ยูครินฟอร์ม (Ukrinform) สำนักข่าวของรัฐบาลยูเครน อ้างอิงกระทรวงกลาโหมของเยอรมนีรายงานว่า เยอรมนีกำลังจัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ ‘ไอริส-ที เอสแอลเอ็ม’ (IRIS-T SLM) ระบบแรก จากทั้งหมด 4 ระบบ ให้แก่ยูเครน
กระทรวงกลาโหมเยอรมนีทวีตข้อความว่า กรณีรัสเซียส่งขีปนาวุธโจมตีกรุงเคียฟและเมืองอื่นๆ เมื่อไม่นานนี้ สะท้อนว่าศักยภาพการป้องกันภัยทางอากาศนั้นสำคัญต่อยูเครนมากเพียงใด แต่ไม่ได้ระบุเวลาแน่ชัดว่าระบบดังกล่าวจะถูกส่งถึงยูเครนเมื่อใด
‘ไอริส-ที เอสแอลเอ็ม’ เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศบนบกที่สามารถโจมตีเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ ขีปนาวุธร่อน ปืนใหญ่บนอากาศยาน โดรน ขีปนาวุธต่อต้านคลื่นเรดาร์ และระเบิด
ความเคลื่อนไหวจากทุกฝ่ายในตอนนี้ เกิดขึ้นหลังรัสเซียยิงขีปนาวุธกว่า 80 ลูกใส่กรุงเคียฟ และเมืองต่างๆ ในยูเครนเมื่อวันจันทร์ (10 ต.ค.) โดยมีเป้าหมายทำลายสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและพุ่งเป้าพลเรือน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 คน
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ยอมรับหลังการโจมตีว่า นี่เป็นการแก้แค้นหลังรัสเซียถูกโจมตีสะพานเชื่อมไครเมียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (8 ต.ค.)
แหล่งข่าว
No Result
View All Result