รัสเซีย ประกาศ ‘โจมตีครั้งใหญ่’ ตลอดแนวหน้ายูเครน
รัสเซียประกาศ เมื่อวันที่ 13 กันยายนว่า จะดำเนินการโจมตีครั้งใหญ่ตลอดแนวกองทัพของกองทัพยูเครน พร้อมกับกล่าวหาทหารยูเครนว่าใช้ความรุนแรงต่อพลเรือนในดินแดนที่ยูเครนได้ทำการยึดคืนมาจากรัสเซีย
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียระบุในการประชุมประจำวันว่า กองทัพรัสเซียจะใช้ทั้งกองกำลังทางอากาศ จรวด และปืนใหญ่เพื่อโจมตีกองทัพยูเครนในทุกทิศทาง นอกจากนี้ยังมีการโจมตีด้วยความแม่นยำสูงต่อเป้าหมายยูเครนรอบเมืองสโลวีอันสค์และคอนสแตนตินอฟกาในภูมิภาคโดเนตสค์อีกด้วย
การตอบโต้ดังกล่าวของรัสเซียมีขึ้นหลังจากรัสเซียถูกบังคับให้ต้องถอนกำลังจากพื้นที่จากแนวการรบทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน โดยเฉพาะในภูมิภาคคาร์คีฟ หลังจากที่กองทัพยูเครนปฏิบัติการโจมตีกลับรัสเซียอย่างรวดเร็วเพื่อยึดพื้นที่คืน
การถอยทัพของรัสเซียในครั้งนี้ถือเป็นการพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่กองทัพรัสเซียได้ถอนกำลังออกจากกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ในช่วงต้นของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งขณะนี้ยืดเยื้อมาเป็นเวลาเกือบ 7 เดือนแล้ว ขณะที่รัสเซียก็ส่งสัญญาณว่าการเจรจาสันติภาพยังไม่เข้าใกล้ความเป็นจริงในเร็ววันนี้
ด้านนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าวว่า มีรายงานว่ามีการปฏิบัติการอุกอาจต่อพลเรือนในภูมิภาคคาร์คีฟ มีมาตรการลงโทษมากมาย ผู้คนถูกทารุณและทรมานในภูมิภาคคาร์คีฟ ภายหลังจากที่ยูเครนเข้ายึดพื้นที่คืนจากรัสเซีย
คำกล่าวหาของรัสเซียมีขึ้นหลังจากที่ทางหน่วยงานของยูเครนอ้างว่า หลังจากที่ยูเครนเข้ายึดพื้นที่เขตชุมชนซาลิซนีชเน่คืนจากรัสเซีย พวกเขาพบศพประชาชน 4 ศพในสภาพที่มีร่องรอยของการถูกทารุณกรรม
รัสเซียก็ได้ทำการตอบโต้เมื่อวันที่ 13 กันยายน ต่อ “อคติ” ที่เพิ่มมากขึ้นในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หนึ่งวันหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การสหประชาชาติประณามรัสเซียว่าได้ออกมาข่มขู่ประชาชนรัสเซียที่ออกมาต่อต้านสงครามรัสเซีย-ยูเครน