ม็อบอิรักประท้วงเดือด บุกทำเนียบประธานาธิบดี หลัง ‘มุกตาดา อัล-ซาดร์’ ผู้นำมุสลิมนิกายชีอะห์ ประกาศวางมือทางการเมือง เกิดการปะทะระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนกับกองกำลังความมั่นคง มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 30 คน ได้รับบาดเจ็บกว่า 700 คน
.
เหตุการณ์ประท้วงกลางกรุงแบกแดดของอิรักยืดเยื้อต่อเนื่องมาตั้งแต่วันจันทร์ (29 ส.ค.) หลังจากที่ อัล-ซาดร์ ผู้นำพันธมิตรนักปฏิวัติเพื่อการปฏิรูป หรือ ‘ไซรูน’ ซึ่งชนะการเลือกตั้งทั่วไปมาเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เนื่องจากความขัดแย้งกับพรรคการเมืองอีกฝ่ายที่อิหร่านสนับสนุน ตัดสินใจประกาศยุติบทบาททางการเมือง โดยให้เหตุว่าเป็นเพราะความล้มเหลวในการปฏิรูประบบการปกครองที่ตกต่ำและเต็มไปด้วยการทุจริต
.
การประกาศดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้สนับสนุน อัล-ซาดร์ จำนวนมาก จนมีการลุกฮือเข้ายึดทำเนียบประธานาธิบดีและอาคารที่ทำการรัฐบาล เพื่อขัดขวางกิจกรรมทางการเมือง เกิดการเผชิญหน้ากับคู่ขัดแย้งที่เป็นกลุ่มมุสลิมชีอะห์อื่นๆ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง นำไปสู่เหตุการณ์นองเลือดรุนแรงครั้งใหญ่สุดในอิรัก
.
อัลจาซีรารายงานอ้างการเปิดเผยจากแหล่งข่าวว่า ยอดเสียชีวิตจากการปะทะในเขตกรีนโซน ซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งของอาคารสถานที่ราชการและสถานทูตต่างประเทศ พุ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 30 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 700 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงราว 110 นาย
.
ความวุ่นวายทางการเมืองครั้งใหม่ในอิรัก ได้สร้างความวิตกให้กับนานาประเทศ โดยมีหลายประเทศที่ออกคำเตือนภัยระดับสูง หรือให้พลเมืองเดินทางออกจากอิรักแล้วในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น คูเวต ตุรกี แคนาดา รวมถึงอิหร่านซึ่งได้ประกาศปิดพรมแดนกับอิรักไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
.
ขณะเดียวกัน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ออกมาแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้น และหันหน้ามาเจรจาในทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความรุนแรงบานปลาย
.
ที่มา https://www.aljazeera.com/news/liveblog/2022/8/29/iraq-unrest-live-blog-sadr-announces-hunger-strike