เมื่อลาวจะเป็นผู้นำในการพัฒนาสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ
โดย สิริอัญญา
วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2565
ประเทศอาเซียน 10 ประเทศ มีประชากร 650 ล้านคน มีศักยภาพทางการตลาดในลำดับต้นของโลกที่ทุกประเทศทั่วโลกต้องให้ความสำคัญ และมุ่งมาสร้างความสัมพันธ์ทำมาค้าขายด้วย ไทยในฐานะที่เป็นหนึ่งในอาเซียน เคยเป็นประเทศผู้นำและอยู่ในแถวหน้าสุดมาแต่ไหนแต่ไร ไทยจะพูดอะไรก็จะเป็นธงชัยให้ประเทศอาเซียนเดินก้าวตาม
เพราะประเทศไทยได้พัฒนามาก่อนใครในอาเซียน ผู้นำประเทศในหลายยุคหลายสมัยปรีชาสามารถ รักชาติรักประชาชน มีปัญญาทัศนะที่กว้างไกล จึงพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวรุดหน้ากว่าประเทศอาเซียนอื่น
แต่ในระยะ 8 ปีมานี้ได้บังเกิดวิกฤตใหญ่ขึ้นในประเทศไทย สถานการณ์ที่เสื่อมลงตั้งแต่ปี 2549 ได้ขยายตัวลุกลามและซ้ำเติมด้วยการสร้างความขัดแย้งภายในชาติ การโกงชาติ การฉ้อราษฎร์บังหลวง การบิดเบือนการใช้อำนาจ การขยายตัวของลัทธิอุปถัมภ์ การไม่ส่งเสริมคนดีให้มีอำนาจในบ้านเมือง การส่งเสริมคนชั่วหรือผู้ที่ซื้อขายตำแหน่งให้มีอำนาจขยายตัวลุกลามจนบ้านเมืองระส่ำระสาย และอยู่ในภาวะวิกฤตที่ร้ายแรงอย่างยิ่งยิ่งกว่าประเทศใดในอาเซียน
ประเทศไทยซึ่งอยู่แถวหน้าสุดกำลังตกมาอยู่แถวหลังสุดในทุกมิติและในทุกด้านของการพัฒนา ช่างน่าละอายนัก ดังนั้นประชาชนชาวไทยที่ได้รู้สถานการณ์แล้วจึงย่อมต้องตื่นตัวร่วมกันแก้ไขปัญหาให้กับชาติบ้านเมืองมิให้มหันตภัยสืบทอดต่อไปถึงลูกหลานของเรา
ในประเทศอาเซียนนั้นต้องถือว่าประเทศอาเซียนตอนบนมีความเป็นเอกภาพ มีความสำคัญมาก เพราะอยู่บนแผ่นดินใหญ่ของอาเซียน ด้านตะวันตกจรดประเทศอินเดียซึ่งมีประชากร 1,400 ล้านคน ด้านเหนือจรดประเทศจีนซึ่งมีประชากร 1,400 ล้านคน รวมเป็น 2,800 ล้านคน เกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก นี่คือศักยภาพอันสูงเด่นของประเทศอาเซียนตอนบน
ประเทศอาเซียนตอนบนก็คือพม่า ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม รวม 5 ประเทศ และทั้ง 5 ประเทศนี้มีพื้นฐานทางภาคเกษตร มีประชากรที่มีวัฒนธรรมไม่ต่างกันมาก อยู่ในภูมิยุทธศาสตร์ที่สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้โดยสะดวก
องค์ใจกลางของการพัฒนาอาเซียนตอนบน ฝ่ายจีนได้กำหนดให้มีสองระเบียงเศรษฐกิจที่เชื่อมต่อกับอาเซียนตอนบน คือมณฑลยูนนานเชื่อมต่อกับไทยและพม่า และมณฑลกวางสีเชื่อมต่อกับลาว กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งรองรับการพัฒนาทั้งปวงได้อย่างเต็มที่
ในการเชื่อมต่อดังกล่าว เส้นทางหลักก็คือเส้นทางรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางสายไหม ซึ่งได้ร่วมกันกำหนดขึ้นเป็น 3 เส้นทาง คือ
เส้นทางคุนหมิง-พม่า และจากพม่าก็แยกออกเป็นสองเส้นทาง บริเวณใกล้กับมหาสมุทรอินเดีย ทางซ้ายแยกไปจรดอ่าวเบงกอลและอินเดีย ทางขวาแยกไปจรดเมืองทวาย พร้อมที่จะเชื่อมต่อเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ส่วนสำคัญแล้วเสร็จและเปิดการเดินรถแล้วจากคุนหมิงถึงมัณฑะเลย์ และจะเชื่อมต่อไปยังเสฉวน รวมทั้งภาคตะวันตกของจีน
เส้นทางคุนหมิง-เวียดนาม-กัมพูชา ซึ่งขณะนี้แล้วเสร็จและเปิดเดินรถแล้วจากคุนหมิงมายังเวียดนาม กำลังเชื่อมต่อไปยังกัมพูชาและปลายทางที่เมืองสีหนุวิลล์ โดยมีเส้นแยกกลางประเทศเวียดนามมายังตอนกลางของประเทศลาว
เส้นทางคุนหมิง-สิบสองปันนา-เวียงจันทน์ ซึ่งจะเชื่อมต่อมายังหนองคาย โคราช กรุงเทพฯ และเชื่อมต่อไปยังมาเลเซีย ซึ่งดำเนินการก่อนใคร แต่ขณะนี้แผนงานดั้งเดิมตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้อนุมัติไว้ล้มคว่ำไปแล้ว และเพิ่งทำเสร็จเพียง 3.5 กิโลเมตร ที่กลางป่ากลางดงให้เป็นเรื่องดังสนั่นบันทึกไว้ในกินเนสบุ๊ค
ส่วนทางน้ำก็มีการทำปฏิญญาซันย่าเพื่อพัฒนาแม่น้ำโขงให้เป็นแม่น้ำแห่งสันติภาพและการพัฒนา เป็นเส้นทางท่องเที่ยว 6 ประเทศ เป็นเส้นทางขนส่งสินค้า 6 ประเทศ ซึ่งถึงวันนี้ประเทศไทยประเทศเดียวที่เบี้ยวไม่ลงนามในข้อตกลงในแผนปฏิบัติการ ประเทศที่เหลือเขาจึงพัฒนากันต่อไป
ในระยะแรก พื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญที่จะต้องร่วมกันพัฒนาเพื่อให้พ้นจากปัญหาสู่ความมั่งคั่งรุ่งเรืองก็คือพื้นที่สามเหลี่ยมเศรษฐกิจไทย พม่า ลาว ซึ่งจะเชื่อมต่อพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคเหนือตั้งแต่เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา เข้ากับฝั่งตะวันออกของพม่าและฝั่งใต้ของประเทศลาว ซึ่งจะเป็นพื้นที่บุกเบิกใหม่ทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว และประเทศไทยรับเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนนี้
แต่ถึงวันนี้ก็จ๋อยเช่นเดิม เพราะเมื่อไทยเบี้ยวข้อตกลงรถไฟไทย-จีน ตามที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติอนุมัติไว้ เบี้ยวไม่ลงนามในแผนปฏิบัติการตามปฏิญญาซันย่า จึงทำอะไรต่อไปไม่ได้ ในยามค่ำคืนถ้าไปยืนอยู่ที่ริมแม่น้ำโขงฝั่งไทยทางภาคเหนือก็จะเห็นเป็นสภาพที่รับฝากจอดรถ ในขณะที่ฝั่งตรงกันข้ามสว่างไสวรุ่งเรือง
ล่าสุดนี้ ทั้งพม่าและลาวเขาก็ไม่รั้งรออีกแล้ว อาจถือได้ว่าเลิกเกรงใจก็ได้ นั่นคือการที่ลาวได้ประกาศว่าจะเป็นผู้นำในการพัฒนาสามเหลี่ยมเศรษฐกิจไทย พม่า และลาว ซึ่งขณะนี้ลาวได้พัฒนาล้ำหน้ากว่าใคร พม่าแม้ติดขัดปัญหาภายในบ้างแต่เขาก็พยายามดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
คงเหลือแต่ประเทศไทยว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ เพราะดูทีท่ายุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก จะกลายเป็นกำแพงใหญ่ขวางกั้นระหว่างไทยกับพม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนามไปเสียแล้ว
และนี่คืออนันตริยกรรมของรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยไปอีกนานแสนนานจนกว่าจะได้รับการแก้ไข