รัสเซียและเกาหลีเหนือชี้ จีนมีสิทธิทุกอย่างที่จะใช้มาตรการต่างๆ เพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตยของตนเอง
Burapanews สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า รัสเซีย และเกาหลีเหนือกล่าวในวันอังคาร (2 ส.ค.) ระบุว่า จีนมีสิทธิทุกอย่างที่จะใช้มาตรการต่างๆ เพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตยของตนเอง และประณามการเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เปโลซี ประธานรัฐสภาสหรัฐฯ เป็นการ “ยั่วยุอย่างโจ่งแจ้ง” ขณะเดียวกัน ปักกิ่งได้เรียกเอกอัครราชทูตอเมริกาเข้าพบ เพื่อประท้วงความเคลื่อนไหวดังกล่าวแล้ว
“ฝ่ายรัสเซียมีสิทธิใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนเกี่ยวกับประเด็นไต้หวัน” กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุ มอสโกเรียกการเยือนไต้หวันของเปโลซี คือการยั่วยุอย่างชัดเจน โดยมีเป้าหมายคือจีน
กระทรวงกลาโหมจีนประกาศในคืนอังคาร (2 ส.ค.) ว่ากองทัพแดนมังกรกำลังอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมระดับสูง และจะเปิด “การปฏิบัติการทางทหารแบบมีเป้าหมาย” (targeted military operations) ในการตอบโต้การเดินทางเยือนของเพโลซี
“เราเรียกร้องให้วอชิงตันอดทนอดกลั้นจากพฤติกรรมยั่วยุใดๆ ที่บ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาคและความมั่นคงระหว่างประเทศ และยอมรับถึงความเป็นจริงทางภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ ซึ่งไม่เหลือที่ว่างสำหรับความเป็นเจ้าโลกของอเมริกาอีกต่อไป” กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียระบุ
ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร (2 ส.ค.) รัสเซียได้แสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับจีนอย่างเต็มเปี่ยม
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน ระบุว่าการเดินทางเยือนไต้หวันของเปโลซี จะทำให้ความตึงเครียดในภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้น และกล่าวหาวอชิงตัน เลือกหนทางแห่งการเผชิญหน้า
ส่วน มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวหาสหรัฐฯ ยั่วยุ “วอชิงตันกำลังนำพาความไร้เสถียรภาพมาสู่โลก ไม่ใช่แค่ความขัดแย้งเดียวในช่วงปลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่มีการยั่วยุต่างๆ หลายต่อหลายครั้ง”
หลังจากเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนต่อปฏิบัติการทางทหารในยูเครน รัสเซียหาทางสานสัมพันธ์กับจีนใกล้ชิดยิ่งขึ้น
เปโลซี คือเจ้าหน้าที่ที่มาจากการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ลำดับสูงที่สุดที่เดินทางเยือนเกาะไต้หวันในรอบ 25 ปี และทางปักกิ่งแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าจะมองการปรากฏตัวของเธอว่าเป็นการยั่วยุครั้งใหญ่ ในขณะที่ จีน มองว่า ไต้หวัน เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน
.
ปฏิบัติการโจมตียูเครนของรัสเซีย ก่อความกังวลขั้นสูงว่าปักกิ่งอาจดำเนินการตามคำขู่ ที่จะใช้กำลังผนวกรวมไต้หวันให้กลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่
ในวันอังคาร (2 ส.ค.) จีนได้เรียกเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่งเข้าพบ เพื่อตำหนิเขา ต่อกำหนดการเยือนไต้หวัน “อันเลวทราม” ของเปโลซี ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐ
รายงานข่าวระบุว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ส่งเสียงประท้วงอย่างหนักแน่นต่อการเยือนไต้หวันของเปโลซี ระหว่างพูดคุยกับ นิโคลัส เบิร์นส เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ
“ความเคลื่อนไหวนี้มีลักษณะที่เลวทรามอย่างยิ่ง และก่อผลลัพธ์ที่ร้ายแรงอย่างมาก” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าว “จีนจะไม่นิ่งดูดาย”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เตือนประธานาธิบดีไจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ว่า “กำลังเล่นกับไฟ” ระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยทางโทรศัพท์กันในรอบที่ 5 ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญความตึงเครียดทางเศรษฐกิจ และทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยหนึ่งในนั้นประเด็นที่โหมกระพือความตึงเครียดคือ ความเป็นไปได้ที่ประธานรัฐสภาของอเมริกาจะเดินทางเยือนไต้หวัน
นอกเหนือจากรัสเซียแล้ว เกาหลีเหนือเป็นอีกชาติที่ออกมาแสดงจุดยืนเคียงข้างจีน โดยกระทรวงการต่างประเทศของเปียงยางในวันพุธ (3 ส.ค.) วิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่เรียกว่า “การบุ่มบ่ามแทรกแซงของสหรัฐฯ” ต่อกิจการภายในของจีน จากกรณี เปโลซี เดินทางเยือนไต้หวัน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือระบุว่า ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการแทรกแซงของกองกำลังภายนอกใดๆ ในประเด็นไต้หวัน และให้การสนับสนุนจีนอย่างเต็มที่ ในขณะที่ปักกิ่งคือพันธมิตรสำคัญ และสายเลี้ยงชีพทางเศรษฐกิจของเปียงยาง
“พวกเขามีสิทธิตามรัฐอำนาจอธิปไตยในการใช้มาตรการตอบโต้ความเคลื่อนไหวต่างๆ ของกองกำลังภายนอก ที่แทรกแซงกิจการภายในของพวกเขาอย่างโจ่งแจ้ง และทำลายบูรณภาพแห่งดินแดนของพวกเขา” สำนักข่าวกลางเคซีเอ็นเออ้างคำกล่าวของเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ
No Result
View All Result